จากกรณีเมื่อเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา ที่ ห้องประชุม สน.พระราชวัง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์สิริปรีดา ผบก.น.1 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6  พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ , เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร , ตัวแทนจากศาลฎีกา ร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมและเรื่องความปลอดภัย กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยจะลงเครื่อง ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 21 ส.ค.66 ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สน.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (ศปก.สน.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ประชาชื่น และตัวแทนจากกรมราชทัณฑ์ นายวุฒิชัย เจนวิริยะกุล ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม และนายดำรงค์ วังศรีคูณ เจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เข้าร่วมประชุมหารือจัดการวางแผนรองรับการเข้าเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ควบคุมตัวจากศาลฎีกา (สนามหลวง) มาทำ ทะเบียนประวัติผู้ต้องขังใหม่และตรวจสุขภาพร่างกาย ก่อนเข้าสู่กระบวนการกักโรค 10 วัน ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการตรวจร่างกายผู้ต้องขังเข้าใหม่และผู้ต้องขังเข้า-ออกเรือนจำ พ.ศ.2561

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 15.40 น. และใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการประชุม ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ได้มีเจ้าหน้าที่ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์หรือบันทึกภาพ รวมถึงยังระบุด้วยว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ปรากฏว่าเมื่อประชุมเสร็จสิ้นทางผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมได้เดินออกมาจากห้องประชุมและตามด้วยขบวนของเจ้าที่ตำรวจก่อนที่คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะเคลื่อนขบวนเดินทางต่อไปยังอาคารผู้โดยสาร อาคารจอดอากาศยานส่วนบุคคล หรือ MJETS สนามบินดอนเมือง ขณะที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและมีความพยายามเดินหลบอาคารด้านหลังออกไปเช่นกัน 

ต่อมาเวลา 16.10 น. ผู้สื่อข่าวได้พยายามเดินตามหลังผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมเพื่อสอบถามถึงรายละเอียดภายหลังการประชุมหารือกับตำรวจ ซึ่งทางผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ปฏิเสธการให้ข้อมูลด้วยตัวเอง แต่มอบหมายให้นายดำรงค์ วังศรีคูณ เจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม รับหน้าที่ตอบข้อซักถาม โดยระบุสั้นๆ ว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมความพร้อมของเส้นทาง ตั้งแต่สนามบินดอนเมืองไปยังศาลฎีกาและมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รวมถึงการรับตัวนายทักษิณจะเป็นไปตามระเบียนข้อบังคับตามปกติของผู้ต้องขังใหม่ เพราะเมื่อมาถึงก็จะนำตัว ไปยังภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพและจะมีการตรวจร่างกายโดยแพทย์ อีกทั้งจะให้กักตัวตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเวลา 10 วัน ส่วนจะนำตัวไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของแพทย์ที่เป็นผู้ตรวจร่างกาย 

นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนญาติหรือทนายความจะสามารถเยี่ยมในวันถัดไปได้หรือไม่นั้น ต้องไปสอบถามทางเจ้าหน้าที่ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตนไม่สามารถบอกได้ แต่จากการประชุมเบื้องต้นวันนี้ ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีความพร้อมในการรับตัวนายทักษิณ และเมื่อถามว่าระหว่างการควบคุมตัวนายทักษิณจากศาลฎีกามายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จำนวนกี่รายที่รับหน้าที่ควบคุมตัว 

นายดำรงค์ บอกว่า ตนไม่สามารถทราบได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการรองรับแผนเผชิญเหตุต่างๆ ทั้งของกลุ่มมือที่สาม หรือผู้ไม่ประสงค์ดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มีการวางแผนรองรับไว้ทั้งหมดแล้ว 

นายดำรงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่สำหรับสื่อมวลชนและกลุ่มคนที่มาให้กำลังใจนายทักษิณ ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ด้านข้างเรือนจำไว้ให้และจะมีการคัดกรองบุคคลเข้าภายในพื้นที่เรือนจำ ซึ่งจะไม่อนุญาตให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาด้านในโดยเด็ดขาด แต่หากใครมีการลงทะเบียน ทำเรื่องขออนุญาตเข้าพื้นที่กับกรมราชทัณฑ์ก่อนหน้านี้ ก็จะอนุญาตให้เพียงผู้ที่ทำเรื่องเข้ามาเท่านั้น 

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า พื้นที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีการเตรียมพื้นที่ การทำความสะอาด และมีการย้ายเต็นท์ที่เอาไว้สำหรับรอเยี่ยมญาติจากเดิมที่อยู่บริเวณลานจอดรถของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯออกย้ายไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน รวมถึงมีการทำความสะอาดสถานรับเลี้ยงบุตรบุญญาทรซึ่งเป็นพื้นที่ด้านข้างเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและมีการนำเต็นท์มาไว้สำหรับรองรับสื่อมวลชน ซึ่งคาดว่าจะเป็นสถานที่ให้สื่อมวลชนติดตามการนำตัวนายทักษิณชินมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และเมื่อสอบถามนายยงยุทธ ประมวลสุข นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพชำนาญการพิเศษ ที่ดูแลการทำความสะอาด กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเรือนจำกลางคลองเปรม และทัณฑสถานหญิงกลาง จะงดญาติเข้าเยี่ยมทั้งหมดและจะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ของรั้วราชทัณฑ์โดยเด็ดขาด ซึ่งจะทำให้กลุ่มพี่น้องคนเสื้อแดงที่จะเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณในวันพรุ่งนี้จะไม่สามารถเข้ามาได้ ส่วนจะมีสถานที่จัดเตรียมไว้ให้หรือไม่ ต้องประสานกับทางตำรวจในพื้นที่อีกครั้ง

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังแหล่งข่าวภายในกรมราชทัณฑ์ ก็ยังไม่มีความชัดเจนถึงเรื่องพื้นที่การทำข่าวของสื่อมวลชน เพราะมีบางกระแสข่าวจะให้สื่อมวลชนรออยู่ที่บริเวณด้านหน้าริมถนนงามวงศ์วาน และจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาด้านในโดยเด็ดขาด ซึ่งขัดแย้งกับพื้นที่ด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครที่มีการเตรียมพื้นที่สำหรับสื่อมวลชนไว้ ซึ่งต้องรอความชัดเจนคาดว่าจะเป็นเช้าของวันพรุ่งนี้