วันที่ 21 ส.ค.2566 น.ส.ตรีชฎา ศรีชฎา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วสำหรับการเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้าสู่การพิจารณาให้ความเห็นชอบของที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ความพร้อมมีทั้งด้านคุณสมบัติ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ รวมถึงการที่บริษัทแสนศิริเป็นแบบอย่างบริษัทที่มีธรรมาภิบาลในการประกอบกิจการธุรกิจ การเห็นความเท่าเทียมของคนในสังคม  เช่น การสร้างโอกาสคนพิการได้ทำงานที่บริษัทที่ทำมาอย่างเด่นชัด  การชี้แจงของ สส.พรรคเพื่อไทยกรณีอาจจะมีสส.หรือสว.บางคนอภิปรายซักถามเรื่องการซื้อที่ดินของบริษัทแสนศิริ และความพร้อมของ สส.จากพรรคร่วมที่จับมือกันสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและโหวตเห็นชอบนายเศรษฐาโดยมีเสียง สส.เกิน 300 เสียง และเมื่อรวมกับ สว.จะเกิน 374 เสียงซึ่งถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของ สส.และ สว.รวมกัน

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้พิจารณาแล้วว่านายเศรษฐามีความเหมาะสม ดี 1 ประเภท 1 ในการจะเป็นนายกฯ คนที่ 30 จึงเชิญนายเศรษฐามาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายเศรษฐาได้ออกเดินทางไปพบกับพี่น้องประชาชนในสถานที่ต่างๆ ที่พรรคเปิดปราศรัย นายเศรษฐาได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าและกว้างไกล การพูดจาปราศรัยที่ฟังง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน เข้ากับประชาชนได้ง่ายโดยไม่ต้องเสแสร้าง มีความเป็นกันเอง ไม่ถือเนื้อถือตัว มีจิตใจที่ดี ยิ้่มแย้มแจ่มเสมอ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่พร้อมรับฟังปัญหาและข้อแนะนำต่างๆ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงที่จะบริหารประเทศเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน

"สิ่งที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักธุรกิจด้านธุรกิจสถานบริการอาบอบนวดและอดีตนักการเมืองที่ปัจจุบันผันมาทำธุรกิจโรงแรม สิ่งที่นายชูวิทย์นำมาเปิดเผยกับสาธารณะเป็นการกล่าวหาที่ปราศจากมลทินให้กับนายเศรษฐา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายชูวิทย์อ้างว่ารู้ข้อมูลมานานแต่กลับใช้ช่วงจังหวะในการมาพูดในวันโหวตนายกรัฐมนตรีถึง 2 ครั้งโดยเจตนาชัดเจนและถูกมองว่า เอาอารมณ์มาเหนือทุกสิ่งเพื่อต้องการสกัดนายเศรษฐา ซึ่งเนื้อหาที่นายชูวิทย์เอามาล้วนแต่เป็นการกล่าวหาที่ปราศจากการถูกพิสูจน์จากกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่นายเศรษฐาทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตจึงล้วนแต่เป็นที่ประจักษ์ว่า มีคุณสมบัติของคนที่มีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่ไม่เคยถูกบุคคลใดหรือหน่วยงานใดดำเนินคดีใดๆให้ด่างพร้อย เป็นคนดีเป็นที่ประจักษ์ทุกวงการ  สิ่งที่นายชูวิทย์ควรจะทำมากที่สุดในเวลานี้ คือ แฉเรื่องที่ดินของลูกที่เป็นประเด็นที่ประชาชนก็เคลือบแคลงสงสัยว่ามีการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีจริงหรือไไม่เพราะเป็นเรื่องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของครอบครัวนายชูวิทย์เอง ควรแฉตัวเองให้ประชาชนและสังคมรับทราบด้วย จะเป็นการดีต่อสังคมและประเทศชาติ" รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า มั่นใจว่า สส.และ สว.ล้วนเห็นว่าประเทศไทยต้องไปต่อและพร้อมในการโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย และมั่นใจว่าภายใต้รัฐบาลที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ โดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่จะถูกสร้างขึ้น วิกฤตเศรษฐกิจ จะได้รับการพลิกฟื้น ขจัดความยากจน  คนไทยจะต้องหายจน  ภาระหนี้สินในครัวเรือน การไม่มีงาน จะถูกแก้ไขโดยไม่ชักช้า ถึงเวลาหันหน้าเข้าหากัน ปรองดองสมานฉันท์  หน้าใหม่ของการเมืองประเทศไทย