ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.66 ร.ต.อ.วันชัย. พุฒเอก รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำรอง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจจุดบริการประชาชนตำบลท่าตะคร้อว่ามีชาวบ้านขับขี่ยวดยานะพาหนะผ่านไปตามถนนเลียบริมคลองชลประทานสายสำรองท่าตะคร้อ หมู่ 3 แล้วเจอศพลอยน้ำเป็นผู้หญิงไปติดสะพานเหล็กข้ามคลองฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบทึ่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ทึ่ 19 ร่วมกับมูลนิธิกู้ชีพขุนรัตนาวุธ จุดรอรับเหตุ ต.ท่าตะคร้อ กับจุดรอรับเหตุ บ้านใหม่ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ และนำศพขึ้นจากน้ำ
เบื้องต้นตรวจสอบรายชื่อทะเบียนราฎษร์ ทราบชื่อผู้ตายชื่อนางมนี (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 52 ปี อยู่บ้าน หมู่ 7 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผู้ตายมีอาชีพขายกล้วยทอดอยู่ริมถนนแสงชูโตโค้งวัศรีโลหะราษฎร์บำรุง ซึ่งเป็นร้ายกล้วยทอดชื่อดังในเขตตลาด อ.ท่าม่วงฯ ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ซีซี.สีแดง หมายเลขทะเบียน 1 กด.6610 กาญจนบุรี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตายจอดอยู่ 1 คัน รองเท้าแตะสีฟ้าตกอยู่ 1 ข้าง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกายของผู้ตาย คาดว่ากระโดดน้ำฆ่าตัวตายเอง จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปจัดการตามปรเพณีอีกครั้ง
โดย ร.ต.อ.วันชัย พุฒเอก ได้รับแจ้งจากญาติว่า ดญ.แพรวพราว(นามสมมุติ) อายุ 6 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของผู้ตายที่ปัจจุบันอาศัยอยู่กับผู้ตายนั้นหายไป คาดว่านางมนี ผู้เป็นยาย อาจจะพากระโดดน้ำฆ่าตัวตายทั้งยายทั้งหลาน แต่ศพอาจจะยังจมอยู่ใต้น้ำ
ต่อมาเวลา 18.00 น. จึงได้ประสานไปที่นายอดิศักดิ์ รุ่งโรจน์ธนกุล ประธานฝ่ายกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิขุนรัตนาวุธ เพื่อขอกำลังนักประดาน้ำชุดสายธารให้เดินทางมาลงงมค้นหาร่างของ ดญ.แพรวพราว ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และไม่รู้จุดตก แต่การติดตามลงงมค้นหาร่างของหนูน้อยก็ยังคงดำเนินการต่อไป