เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด ได้แก่ (1) บริษัท LLC Fair Expo และ (2) Mr. Mikalai Zahorski กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุด โดยเรียกให้ชำระเงินรวม 12,005,620 บาท พร้อมดอกเบี้ย กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลและห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ก่อนหน้านี้ ได้มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด 4 ราย กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยผู้กระทำความผิด 2 รายจากทั้งหมด 4 ราย ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ส่วนผู้กระทำความผิดราย (1) บริษัท LLC Fair Expo และ (2) Mr. Mikalai Zahorski ซึ่ง ค.ม.พ. กำหนดให้ชำระเงินรวม 6,005,620 บาท (ค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด)* ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ซึ่งพิจารณาได้ว่า ผู้กระทำความผิด 2 รายดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต.

ดังนั้น ก.ล.ต.จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดตาม (1) และ (2) ต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุด โดยให้ชำระเงินรวมทั้งสิ้น 12,005,620 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามผู้กระทำความผิดราย Mr. Mikalai Zahorski เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยให้ผู้กระทำความผิดราย Mr. Mikalai Zahorski ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ดำเนินการกับบริษัท LLC Fair Expo อย่างลูกหนี้ร่วม