คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์   เศรษฐช่วย

ประเด็นเรื่องราวทางการเมืองที่กำลังร้อนแรงแบบสุดๆในสหรัฐอเมริกาขณะนี้ก็คือ การพิจารณาคดีของ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” เกี่ยวกับคดีที่เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องต้องการจะล้มล้างรัฐบาล ที่เข้าข่ายความพยายามก่อรัฐประหาร (Coup) อย่างผิดกฎหมายและขัดกับระบอบประชาธิปไตย โดยหวังและต้องการจะสืบอำนาจต่อ

แม้ว่าขณะนั้นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อยู่ในตำแหน่งและมิได้ใช้กำลังทหารเพื่อคว่ำการเลือกตั้ง แต่เขาใช้เล่ห์กลยุยงส่งเสริมให้พลังมวลชนกว่าสองพันคนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ขณะที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ กำลังทำหน้าที่ประธานดำเนินการรับรอง “โจ ไบเดน” ในตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้รัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ.2021 ถือเป็นการกระทำที่มีความรุนแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเสียชีวิต 7 นาย และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บอีกถึง 114 คนโดยมวลชนส่วนหนึ่งที่บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาได้ส่งเสียงตะโกนก้องให้จับรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์มาแขวนคอ แต่โชคดีที่หนีทันจึงไม่เกิดเหตุสยดสยองขึ้น (รายงานข่าวของซีเอ็นเอ็นวันที่ 7 มีนาคม 2022)

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม 2021 ทำให้ทั่วโลกตกตะลึง เพราะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2023 ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ “อัยการพิเศษแจ็ค สมิธ” ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้รับหน้าที่เป็นผู้นำฟ้องคดีต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในข้อหาพยายามล้มล้างการเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งจะต้องกระทำให้เสร็จสิ้นอย่างเร่งด่วนที่สุด!!!

การพิจารณาคดีที่รัฐบาลสหรัฐฯเป็นโจทก์และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นจำเลยอาจจะมีก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่อีกด้วย

สำหรับการพิจารณาคดีที่อาจจะมีขึ้นเร็วกว่าที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้ โดยจะมีขึ้นในวันที่ 2 มกราคมปีค.ศ. 2024 หรืออาจจะเป็นสองสัปดาห์ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐไอโอวา ซึ่งจะเป็นวันที่ศาลอาญาออกมาพิจารณาคดีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021

ทั้งนี้สื่อต่างประเทศหลายๆสำนักพากันโหมรายงานข่าวเรื่องนี้ว่า “อดีประธานาธิบดีทรัมป์พยายามที่จะกระทำรัฐประหาร” โดยหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน “The Guardian” เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2021 รายงานในหัวข้อเกี่ยวกับเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2021 “จอห์น อีสต์แมน” ทนายความหัวอนุรักษนิยมถูกเรียกตัวให้เข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ โดยพยายามจะให้เขาเป็นผู้คว่ำผลการเลือกตั้งเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อต้องการที่จะนั่งครองอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง (The Atlantic: Trump’s Coup Before January 6, December 15, 2021); Reuters: Trump attempt at a coup to be a focus of U.S. House Hearings, April 19, 2022); The Slow-Motion Coup, The New York Review of Book, October 6, 2022)

สำหรับชีวประวัติโดยย่อของอัยการพิเศษแจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ วัย 54 ปี ซึ่งมีหนวดงามและเคราเข้ม จบการศึกษาด้านกฎหมายจากฮาร์วาร์ด ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว อัยการสูงสุด เมอร์ริค การ์แลนด์ ได้ประกาศแต่งตั้ง แจ็ค สมิธ เป็นที่ปรึกษาพิเศษสำหรับการสอบสวนคดีอาญาของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์

และในขณะเดียวกันตามแบบฉบับของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ที่เขามักจะโจมตีอัยการทุกๆคนที่เข้าไปรับหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของสาธารณชน โดยเขาได้โจมตีต่อแจ็ค สมิธว่า “เป็นคนวิกลจริต”

ทั้งนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม2023 ที่ผ่านมานี้ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาปรากฏตัวต่อศาลที่กรุงวอชิงตัน เพื่อมารับการถูกฟ้องในข้อกล่าวหา 4 กระทงที่มุ่งโฟกัสไปที่การล้มการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ซึ่งรวมถึงการมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ขัดขวางการดำเนินการของรัฐบาล ขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติไปยังผู้สืบทอด ซึ่งนั่นก็คือ“ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” โดยข้อหาทั้งหมดทั้งมวลที่เขาได้รับถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯเลยทีเดียว!!!

อนึ่งในการปรากฏตัวของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ต่อศาล ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.นั้น จะเห็นอัยการพิเศษแจ็ค สมิธ นั่งอยู่แถวหน้าห่างจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ประมาณ 20 ฟุต โดยสื่อหลายๆสำนักรายงานว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้มีโอกาสสบตากัน ส่วน “ผู้พิพากษาธัญญา ชุตคาน”ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีความของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ถือได้ว่าท่านเป็นผู้พิพากษาที่มีอุปนิสัยค่อนข้างเข้มงวดในคดีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่มีผู้กระทำความผิดด้านขัดขวางการทำงานของรัฐบาล!!!

ทั้งนี้เมื่อปีค.ศ. 2014 ผู้พิพากษาธัญญ่า ชุตคาน ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ามานั่งรับตำแหน่งบัลลังก์ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลาง โดย “ประธานาธิบดีบารัก โอบามา” ด้วยความเห็นชอบของวุฒิสภาอย่างเอกฉันท์ 95 ต่อ 0

อนึ่งที่ผ่านมาผู้พิพากษาธัญญา ชุตคาน ตัดสินคดีเกี่ยวกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 มาแล้วเกือบ 600 คน โดยผู้ที่ได้รับโทษมีตั้งแต่สิบวันไปจนถึงห้าปีโดยส่วนใหญ่แล้วหนึ่งในสามของจำนวนผู้ก่อเหตุ 600   คนที่ไม่โดนพิพากษาจำคุก ซึ่งผู้พิพากษาท่านนี้ยังถือเป็นบุคคลที่อดีตประธานาธิบดีรู้สึกเกรงกลัวมากที่สุด เพราะอาจจะเป็นผู้ชี้ชะตากรรมนำหายนะมาสู่ตัวของเขาก็เป็นไปได้

โดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้เริ่มออกมากล่าวโจมตีวิพากษ์วิจารณ์และยังออกมากล่าวเรียกร้องไม่ต้องการให้ผู้พิพากษาธัญญ่า ชุตคาน เป็นผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าว แถมเขายังเรียกร้องให้ย้ายสถานที่พิจารณาคดีไปยังรัฐอื่น แต่สิ่งที่เขาหวังและต้องการคงไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!!!

ยังมีอดีตอัยการบางคนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า คำฟ้องร้องคดีเหตุการณ์ก่อการจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 นั้นมีความโปร่งใสตรงไปตรงมา

อย่างไรก็ตามอัยการพิเศษแจ็ค สมิธ ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์หลากหลายทั้งในระดับท้องถิ่น และในระดับชาติที่เคยทำคดีที่มีจำเลยเป็นนักการเมืองของทั้งค่ายพรรครีพับลิกันและค่ายพรรคเดโมแครต และยังเป็นที่น่าสังเกตอีกด้วยว่าหลังจากที่อัยการพิเศษแจ๊ค สมิธ ได้รับการแต่งตั้งนั้น อัยการสูงสุดยังมอบอำนาจให้เขาสามารถทำงานได้อย่างเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น

ทั้งนี้ทีมทนายความของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกโรงมาโต้ตอบ โดยยื่นคำร้องกล่าวหาการกระทำของกระทรวงยุติธรรมว่า “ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น”

และจากการให้สัมภาษณ์ของ “จอห์น ลอโร”ทนายความของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในรายการ “Face the Nation” เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2023 ว่า “คำฟ้องร้องที่มีต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในกรณีก่อจลาจลวันที่ 6 มกราคม 2021 นั้นมีช่องโหว่มากมาย อีกทั้งในขณะนั้นประธานาธิบดีทรัมป์ก็ยังมีเกราะแก้วคุ้มหัว เพราะยังดำรงอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี”โดยทนายความผู้นี้ยังกล่าวต่อไปอีกว่า “ข้าพเจ้าจะยื่นคำร้องขอให้มีการยกเลิกคดี 6 มกราคม 2021 เมื่อถึงเวลาอันควร”

ส่วน “ไท คอบบ์”(Ty Cobb) อดีตทนายความประจำทำเนียบขาวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวช่องซีเอ็นเอ็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “ถึงแม้ว่าจอห์น ลอโร จะเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงและน่านับถือเพียงใดก็ตาม แต่ประเด็นที่เขาพูดออกมาส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเท็จ”

คราวนี้ลองหันไปดูผลการหยั่งเสียงของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2023 หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถูกตั้งข้อหาคดีอาญาครั้งที่ 3 กลับปรากฏว่าคะแนนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีทรัมป์มีเสมอเท่ากันอยู่ที่ 43%

และไม่ว่าสำนักโพลต่างๆจะออกมานำเสนอข่าวในแง่มุมใดก็ตาม แต่ปัจจัยหลักสำคัญๆกลับอยู่ที่คนอเมริกันจะตัดสินใจเลือกใครให้เข้าไปดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยหน้า และยังอยู่ที่ปัญหาเรื่องปากเรื่องท้อง โดยขณะนี้จะเห็นได้ว่าคนอเมริกันไม่ค่อยพึงพอใจต่อการบริหารประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดนทางด้านเศรษฐกิจเท่าใดนัก แต่หากดูข้อมูลเศรษฐกิจแล้วจะเห็นได้ว่าภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้เริ่มดีขึ้นอัตราคนว่างงานมีอยู่แค่ 3.5% อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลง การลงทุนทางธุรกิจได้เพิ่มขึ้น ต่างจากตอนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งเข้ามารับช่วงต่อจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ตอนนั้นอัตราคนว่างงานอยู่ที่ 6.3%

อีกทั้งขณะนี้เศรษฐกิจได้ขยายตัวในอัตรา 2.4 ต่อปี ซึ่งเกินความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ และจากข้อมูลของรัฐบาลได้ออกมาชี้ให้เห็นว่า การก่อสร้างโรงงานมีเพิ่มมากขึ้น โดยการลงทุนในโรงงานเพิ่มผลผลิตเกือบร้อยละ 80  และภาคการผลิตโดยรวมยังมีส่วนช่วยให้มีการเพิ่มงานมากขึ้นเกือบ 800,000 ราย

และดูเหมือนว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะมีเพิ่มสูงขึ้น ถือเป็นสัญญาณว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆในอนาคต (New York Times “A Run of Strong Data Buoys Biden on the Economy” New York Times, August 1, 2023) และหากสมมุตว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์สามารถชนะการเลือกตั้ง แต่กลับถูกตัดสินว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาแล้วจะทำเยี่ยงใด?

โดย “ศาสตราจารย์ริชาร์ด ฮาเซน” ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเลือกตั้ง แห่ง ยูซีแอลเอ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมา “รัฐธรรมนูญมีข้อกำหนดน้อยมากในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ฉะนั้นหากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิดก่อนการเลือกตั้งปีค.ศ. 2024 แต่เขาสามารถชนะการเลือกตั้ง และเขาก็หวังที่จะให้อภัยโทษต่อตนเองนั้น ยังไม่ได้มีข้อสรุปใดๆว่าเขาสามารถจะทำได้หรือไม่ เพราะศาลฎีกาอาจจะต้องออกมาพิจารณาชั่งน้ำหนักอีกทางหนึ่ง”

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นการแข่งขันเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 2024 กำลังคืบใกล้เข้ามาเรื่อยๆทุกทีทุกที และการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรครีพับลิกัน จะมีขึ้นครั้งแรกในวันที่ 15 มกราคม ที่รัฐไอโอวา และ ในวันที่ 23 มกราคม ปี 2024 ก็จะมีการแข่งขันกัน ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ต่อจากนั้นก็จะมีการแข่งขันกันไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงเดือนมิถุนายน ปี 2024 และเมื่อดูจากแนวโน้มแล้วก็คงจะเป็นการต่อสู้แมตช์ยิ่งใหญ่ระหว่าง “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” กับ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” และหากว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง แต่ดันถูกตัดสินจำคุก ก็คงจะเป็นที่แน่นอนว่าสหรัฐฯคงจะเกิดวิกฤตทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่ แต่หากว่าเขาเกิดพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ซึ่งหากเป็นเยี่ยงนั้นจริงๆ เขาก็คงจะไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย และก็คงจะเกิดวิกฤตทางการเมืองอีกเช่นกันด้วยละครับ