"ไชน่า เอเวอร์แกรนด์" บิ๊กอสังหาฯของจีนยื่นล้มละลายต่อศาลสหรัฐ เลี่ยงถูกยึดทรัพย์ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้
บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงนิวยอร์กของสหรัฐในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 15 ของกฎหมายล้มละลาย โดยเอเวอร์แกรนด์ประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้วิกฤตหนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนลุกลามเป็นวงกว้าง การยื่นคำร้องดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้กลุ่มเจ้าหนี้ในสหรัฐทำการยึดทรัพย์สินของเอเวอร์แกรนด์ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศอื่นๆ
โดยในช่วงต้นสัปดาห์นี้ บริษัทเอเวอร์แกรนด์ได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ Class A และ Class C ของฮ่องกงซีอีจี (Hong Kong CEG) เพื่อให้มีเวลามากพอที่จะพิจารณาแผนการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ๆ
สถานการณ์ของไชนา เอเวอร์แกรนด์ที่เคยถือเป็นแนวหน้าของวงการอสังหาริมทรัพย์จีนย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่องจากการที่ไม่สามารถบริหารจัดการภูเขาหนี้สินได้ และผิดนัดชำระหนี้ 2 ครั้ง เมื่อปี 2564 ปัจจุบัน ไชนา เอเวอร์แกรนด์มีมูลค่าหนี้สิน มูลค่ามากกว่า 2.47 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 12 ล้านล้านบาท) คิดเป็นประมาณ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของจีน ส่วนหุ้นของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ได้ถูกระงับการซื้อขายนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.ปีที่แล้ว
สำหรับสถานะทางการเงินของ ไชนา เอเวอร์แกรนด์สั่นคลอน หลังจากรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการควบคุมภาวะร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสกัดการก่อหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% ซึ่งการล้มละลายของ ไชนา เอเวอร์แกรนด์อาจจะส่งผลกระทบลุกลามไปยังบริษัทอื่นๆในภาคอสังหาริมทรัพย์ และสร้างความเสี่ยงต่อระบบธนาคารของจีน
ทั้งนี้นับตั้งแต่วิกฤตหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2564 บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งที่มียอดขายบ้านรวมกันในสัดส่วน 40% ของยอดขายบ้านทั้งหมดในจีน ได้เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเอกชน