ตม.บุรีรัมย์ สนธิกำลัง กกล.สุรนารี-ภ.จว.บุรีรัมย์ จับรถตู้ขนต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบไปทำงานในพื้นที่ กทม.

วันนี้ (17 ส.ค.) พ.ต.ท.พิศุทธิ์ สุวรรณภาษิต สว.ตม.จว.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ และ พ.อ.ธนาธิป เรียงอิศราง ผบ.ร.23 ได้สั่งการให้ จนท.ชุดจับกุมประกอบด้วย ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.บุรีรัมย์, กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์, สภ.เฉลิมพระเกียรติ, กกล.สุรนารี, สขว.กอ.รมน.และ ชปส.ร้อย ตชด.215 จับกุม นายเกษมสันต์ สุภนาม อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยของกลาง รถตู้สีขาว ทะเบียน ฮษ 723 กทม.และชาวกัมพูชาจำนวน 8 คน


โดยกล่าวหา นายเกษมสันต์ ว่า “ รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น ช่วยเหลือฯ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม” และ แจ้งข้อกล่าวหาชาวกัมพูชาทั้ง 8 คน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวทั้งหมดส่ง สภ.เฉลิมพระเกียรติ ดำเนินคดี 


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าว กกล.สุรนารี ได้เฝ้าติดตามกลุ่มขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นใน จนทราบว่าผู้ถูกจับกุมจะนำรถตู้ไปรับคนต่างด้าวชาวกัมพูชาบริเวณชายแดน จ.สุรินทร์ ผ่านทางหลวงหมายเลข 24  (โชคชัย-เดชอุดม) เขตพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เมื่อถึงบริเวณแยกตะโก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบบุคคลในรถทั้งหมด 


เบื้องต้นนายเกษมสันต์ ให้การว่า มีบุคคลได้ว่าจ้างให้ตนนำชาวกัมพูชาทั้งหมดไปส่งในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ได้ค่าจ้าง 1,500-1,700 บาท/คน ทั้งนี้ จนท.สหวิชาชีพ ได้สอบปากคำชาวกัมพูชาทั้งหมดแล้วไม่มีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์แต่อย่างใด โดยหลังจากนี้จะได้สืบสวนขยายผลผู้สั่งการ และบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดในเครือข่ายมาลงโทษต่อไป


อนึ่ง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าการลักลอบนำพาคนต่างด้าวไปทำงานโดยผิดกฎหมายเป็นการกระทำความผิดอาญา มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 10 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดได้ที่ สายด่วน สตม. 1178