วันที่ 17 ส.ค.2566 นายจเด็จ อินสว่าง สว.กล่าวถึงการพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค.ว่า เสียงสว.ยังไม่นิ่ง แต่ส่วนใหญ่มีคำตอบในใจแล้ว ดูแนวโน้มแล้วเชื่อว่า ชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย คงผ่านยาก เพราะสว.ยังติดใจประเด็นเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ในทางธุรกิจ ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายที่ดิน แต่นายเศรษฐา ไม่เคยออกมาชี้แจงให้ชัดเจน อีกทั้งนายเศรษฐาก็ยังไม่รู้จะมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 22ส.ค.หรือไม่ เหตุใดไม่กล้ามาชี้แจงต่อสว. จะอ้างว่า ข้อบังคับการประชุมไม่ได้บังคับ และสมัยเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  หรือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ชิงตำแหน่งนายกฯ ทั้งสองคนก็ไม่มีการแสดงวิสัยทัศน์คงไม่ได้

"ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงท่าทีพรรคเพื่อไทยก็แสดงความชัดเจน ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะรีบเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ตั้งแต่การประชุมครม.นัดแรก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนไม่เอื้อต่อการให้นายเศรษฐาได้รับการยอมรับจากสว. รัฐธรรมนูญกำหนดหน้าที่สว.ให้พิจารณาคนเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นสว.ต้องพิจารณาบุคคลที่ไม่ขัดคุณสมบัติ มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เรายึดผลประโยชน์ประเทศ ไม่ได้ยึดอารมณ์เป็นที่ตั้ง" นายจเด็จ กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้าชื่อนายเศรษฐาไม่ผ่านความเห็นชอบ หากมีการเสนอชี่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาโหวตแทน หรืออาจส่งไม้ต่อให้พรรคอันดับ3 จัดตั้งรัฐบาลแทน สว.จะยอมให้การสนับสนุนหรือไม่ นายจเด็จ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องพิจารณาสถานการณ์ก่อน การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอด