ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,524.09 จุด เพิ่มขึ้น 4.53 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขายราว 26,674 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีรีบาวด์ช่วงสั้น โดยทำระดับสูงสุด 1,528.93 จุด และต่ำสุด 1,512.08 จุด

น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้ารีบาวด์จากวานนี้เผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ และตลาดตอบรับเชิงบวกหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอวินิจฉัยมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี รอบสอง ทำให้ประธานรัฐสภาเคาะวันโหวตนายกรัฐมนตรี 22 ส.ค.นี้ สะท้อนภาพการจัดตั้งรัฐบาลเริ่มเข้าสู่ปลายทางใกล้ได้ตัวนายกฯ หนุนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ปรับขึ้นถ้วนหน้า ทั้งกลุ่มค้าปลีก สื่อสาร และไฟแนนซ์ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นมาเป็นเพียงการตอบรับประเด็นดังกล่าวในช่วงสั้น แต่ยังต้องติดตามการประชุมรัฐสภาในสัปดาห์หน้าจะสามารถโหวตนายกฯ ได้จริงหรือไม่ ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกหลังรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังมีความกังวลเงินเฟ้อสูง ทำให้เฟดมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก

โดยแนวโน้มช่วงบ่ายคาด ตลาดฯ เคลื่อนไหวในกรอบ อัพไซด์จำกัดมากขึ้น และต้องระวังแรงขายทำกำไร หากยังไม่เห็น Fund Flow ต่างชาติกลับเข้ามาซื้อชัดเจน ให้แนวรับไว้ที่ 1,510 จุด และแนวต้าน 1,530 จุด      

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BH มูลค่าการซื้อขาย 1,166.72 ล้านบาท ปิดที่ 261.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 1,064.20 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท  ลดลง  0.50 บาท

HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,010.88 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 917.02 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 759.80 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง