วันที่ 17 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวเดินสายเปิดตัวกลุ่มวังน้ำยมภาคใหม่ เพื่อหวังนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า  ตนได้เห็นการวิเคราะห์ของสื่อมวลชนแห่งหนึ่ง ถึงประเด็นการรื้อกลุ่มวังน้ำยมกลับมานั้น ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะกรณีการวิเคราะห์ ที่พยายามเชื่อมโยงว่า ตนกำลังรวบรวมขุมกำลัง เพื่อต่อรองตำแหน่งนั้น ไม่เป็นข้อเท็จจริง และอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในพรรคเพื่อไทยได้ รวมถึงมีการนำรายชื่อ สส.ที่ได้ร่วมลงพื้นที่ในหลายจังหวัด มานำเสนอให้ดูมีน้ำหนักว่า รวมกลุ่มกันต่อรองตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลให้ สส.ได้รับความเสียหาย เพราะคณะยุทธศาสตร์การเกษตร พรรคเพื่อไทย ตั้งใจลงพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหา และนำไปสู่การแก้ไข โดยไม่ใช่เป็นการตั้งก๊ก หรือ รวมกลุ่มแต่อย่างใด 

“การลงพื้นที่รับฟังปัญหาเกษตรกรของผม กับคณะยุทธศาสตร์การเกษตรพรรคเพื่อไทยนั้น ส.ส.ทุกคนมีความตั้งใจมากที่จะทำงานให้กับพรรคและสังคม ประกอบกับผมเองเป็นคนไม่เคยหยุดนิ่งตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งยันเลือกตั้งจบ ก็ทำงานรับฟังปัญหาของประชาชนมาตลอด จนเวลานี้จากการลงพื้นที่ก็สามารถทำให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่าพรรคเพื่อไทย มีความใส่ใจในความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างมาก จึงรีบลงพื้นที่ เพื่อรวบรวมปัญหาและเตรียมนำเสนอต่อรัฐบาล ให้แก้ปัญหาต่างๆ อย่างเร่งด่วน แต่การถูกนำไปวิเคราะห์ทางการเมืองในลักษณะนี้ ผมมองว่าไม่เป็นผลดี เพราะจะเป็นการทำให้คนทำงานในพื้นที่ต่างๆ เสียกำลังใจ ผมจึงขอปฏิเสธตรงนี้ และขอยืนยันว่าไม่เคยไปตั้งกลุ่มตั้งแก๊งรวมก้อน เพื่อไปต่อรองตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่ช่วยกันลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนเท่านั้น” นายสมศักดิ์ กล่าว 

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน ที่มีการนำเสนอข่าว และเรื่องราวดีๆ ของตนมาโดยตลอด แต่การวิเคราะห์ของสื่อมวลชนแห่งหนึ่งครั้งนี้ ทำให้ตนต้องรีบออกมาอธิบาย เพราะอาจจะส่งผลเสียให้กับเพื่อนสมาชิกสส. ที่ตั้งใจทำงานอย่างหนัก โดยการวิเคราะห์ที่พยายามเชื่อมโยงต่างๆนั้น ตนขอย้ำว่า ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อยเพราะไม่เคยไปต่อรองตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการแต่งตั้งรัฐมนตรี ก็เป็นอำนาจของพรรคการเมือง ที่ต้องสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถพร้อมทำงาน โดยจะเห็นได้ว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของพรรค ตนไม่สามารถไปก้าวล่วงได้แต่สิ่งหนึ่งที่ตนทำได้ตอนนี้ คือทำงานในนามพรรคให้หนัก ในเรื่องที่ถนัด คือ การเกษตร เพื่อหวังว่า พี่น้องเกษตรกรจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ตนจึงขออย่านำความตั้งใจดีของ สส.ไปเชื่อมโยงทางการเมืองให้เกิดบรรยากาศที่ไม่ดีขึ้น เพราะเหมือนจะเป็นการด้อยค่าการตั้งใจทำงานของเรา ที่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง

เมื่อถามย้ำว่า สถานะของกลุ่มวังน้ำยมตอนนี้มีจริงหรือไม่ นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าไม่มีกลุ่มดังกล่าว การเขียนข่าวแบบนี้ไม่ทันสมัย และเหมือนวู่วามไปหน่อย

เมื่อถามต่อว่า ส่วนตัวสนใจเก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมือง ทุกคนอยากทำงานในส่วนที่ตัวเองคิดว่าช่วยประชาชนได้ คงไม่ใช่แค่ตนหรือคนใดคนหนึ่ง ทุกคนล้วนอยากทำงานที่ตัวเองถนัด ไม่อยากทำแล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องงาน และตนก็ไม่ใช่คนอยู่นิ่ง อย่างรัฐบาลที่แล้วตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คนก็ตั้งข้อสังเกตว่าตนจะทำได้ไหม แต่เมื่อทำตนก็ไม่อยู่นิ่ง จะต้องทำให้เดินหน้าให้ได้ 

ส่วนจำเป็นหรือไม่ที่เก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ จะต้องอยู่กับพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้แต่ดูเหมือนว่าหลายพรรคอยากได้ แต่ในการจัดตั้งรัฐบาลรู้อยู่แล้วว่า อะไรจำเป็น ไม่จำเป็น ขอให้ดูความต้องการแต่คนต่างจังหวัดอยากได้กระทรวงเกษตรฯ คนในเมืองอาจจะไม่เห็นความสำคัญเท่ากระทรวงอื่น เพราะคนต่างจังหวัดผูกพันกับเรื่องของเกษตรกรรมมาก

ส่วนความคืบหน้าการดีลจัดตั้งรัฐบาล และจัดสรรตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อมีการกำหนดวันโหวตเลือกนายกฯ 22 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ก็เชื่อว่าการตกลงเก้าอี้รัฐมนตรีจะจบภายใน 1-2 วันนี้

เมื่อถามว่า มีการดีลไม่ลงตัวหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้อยู่ในทีมเจรจา และข่าวที่ออกมาแต่ละวัน ก็สร้างความสับสนให้กับผู้คน แต่มองว่าดีลจะจบก่อนโหวตเลือกนายกฯ เพราะพรรคร่วมต้องการอย่างนั้นพรรคแกนหลักก็ต้องตอบสนองในส่วนที่ทำได้

ส่วนความชัดเจนพรรครวมไทยสร้างชาติจะมาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ หลังจากนายสมศักดิ์ไปพูดคุยกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาตินั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปเชิญมาร่วมรัฐบาล เพียงแค่เจอกันก็พูดคุยกัน แต่ใน 1-2 วันนี้ ไม่มีความคืบหน้า