เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 17 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ได้มีการประสานมายังพรรครวมไทยสร้างชาติแล้วหรือไม่ ว่า ไม่ได้ประสานที่ตน แต่พรรคมอบหมายหัวหน้าพรรคฯ และเลขาธิการพรรคฯ ดำเนินการเรื่องนี้ โดยสรุปวันนี้ยังไม่คืบหน้า ส่วนในวันที่ 18 ส.ค. ประธานรัฐสภานัดหารือตัวแทนทุกฝ่าย และจะนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยมีวาระหลักคือการเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะนี้จึงเป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทย ที่รับช่วงต่อจากพรรคก้าวไกล ในการตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยควรทำภารกิจให้จบวันจันทร์ที่ 21 ส.ค.นี้ ไม่ใช่ไปคุยกันนอกรอบ ในการตั้งรัฐบาลจริงๆ ว่าจะมีนโยบายหลักที่ทุกพรรครับได้หรือไม่ รวมถึงการแบ่งหน้าที่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องแบ่งกันให้เสร็จ หากไปร่วมรัฐบาลกัน ไม่แบ่งงานกัน จะร่วมอย่างไร นี่คือหลักธรรมชาติ
เมื่อถามถึงกรณีที่วันนี้มีกระแสข่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะมีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย นายวิทยา กล่าวว่า ตนก็ได้ยินเรื่องนี้จากสื่อ และยังไม่ทราบว่าจะเจอในส่วนไหนของสภา เพราะสภาใหญ่มาก พร้อมย้ำว่า สื่อมวลชนจะรู้เรื่องก่อนตนเอง เพราะทางพรรคได้มอบหน้าที่ให้หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเป็นผู้พูดคุย
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค มีสิทธิตัดสินใจเลยใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ถูกต้อง ให้รอการรายงานของทั้งสองคน
“เวลาเหลือน้อย เพราะล็อควันแล้วว่าเป็นวันที่ 22 ส.ค. ฉะนั้น พรรคเพื่อไทยต้องเสนอชื่อนายกฯ ที่มั่นใจว่าคนที่จะเป็นต้องตัวจริงแล้ว ครั้งเดียวจบ ส่งเข้ามาต้องผ่านทุกฝ่ายรับได้ ไม่มีสิทธิแก้ตัว เพราะกฎหมายค้ำคอไว้แล้ว” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนจะได้ข้อสรุปวันนี้หรือไม่ตนไม่รีบ เป็นวันจันทร์ก็ได้ เพื่อให้รอบคอบ แต่ถ้าจะให้ดีประธานรัฐสภาควรฟังสักนิด ว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมวันไหนค่อยนัด อย่าเพิ่งกำหนดกดดันว่าต้องเป็นวันที่ 22 ส.ค. ดังนั้น ต้องรอพรรคเพื่อไทยว่าพร้อมตกลงเลือกนายกฯวันไหน ประธานรัฐสภาค่อยนัดทีเดียว เพราะหากไม่จบขึ้นมา จะยุ่งยากไปกันใหญ่ การเมืองจะเปลี่ยนไป ถ้าไหลจากคนที่เสนอชื่อคนแรก มาคนที่สอง คนที่สาม จะเอาอยู่หรือไม่ แล้วมันก็จะไปถึงพรรคที่ 3 อีก จึงต้องรอความพร้อมของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า คุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย เหมาะสม ในสถานการณ์นี้หรือไม่ว่า มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องรับฟังให้รอบคอบ เพราะไม่มีโอกาสแก้ตัว ส่วนนายเศรษฐา ควรมาแสดงวิสัยทัศน์ในวันโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น มองว่า เป็นเรื่องปกติ การจะปลุกเสกใครเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เห็นรูปลอย ก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีเวลาจริงๆ ไม่ถึงกับเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ควรมาแสดงวิสัยทัศน์ แม้ไม่ได้เป็นสส. แต่ที่ผ่านมาข้าราชการที่มาชี้แจงต่างๆ ก็ไม่ได้เป็นสส. เขาก็ยังเข้ามาชี้แจงได้ อยู่ที่อำนาจของประธาน
"ผมเชื่อว่าประธานไม่ขัดข้องอยู่แล้ว แต่เรื่องที่น่าเกลียดก็คือ คนมาตะลุมบอนเบื้องหลังกัน ก็ไม่สง่าสำหรับคนพูดและไม่สง่าสำหรับคนถูกเลือกด้วย ดีที่สุด ผมว่าให้เตรียมตัวมาชี้แจง" นายวิทยากล่าว
ส่วนเงื่อนไขของการร่วมรัฐบาลนั้น นายวิทยา กล่าวว่า เป็นหน้าที่ ของหัวหน้าพรรคที่จะต้องไปเจรจา
เมื่อถามว่า แต่ละพรรคร่วมได้ออกมาพูดถึงโควตากระทรวงแล้ว หากพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่ชัดเจน จะเดินตามหลังเขาหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ถ้าจะตั้งรัฐบาลร่วมกัน ไม่แบ่งงานกันก่อน ก็ทำไม่ได้ แต่ตอนนี้การพูดคุยยังไม่จบถ้าเขาบอกแล้วว่าจบก็คือจบ ตอนนี้ MOU มันหมดสมัยแล้ว เอาไว้หลอกเด็กได้
เมื่อถามถึงโผครม. ที่พรรคเพื่อไทยจำเป็นจะต้องได้กระทรวงเศรษฐกิจ และมีกระแสข่าวว่ารวมไทยสร้างชาติต้องการกระทรวงพลังงาน เป็นเหตุให้ยังพูดคุยไม่จบใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอนพูดพูดอะไรก็ได้ แต่ถึงเวลาจริงก็ต้องมาเปิดอกคุยกัน คิดอะไรก็ได้ แต่ความจริง ถ้าจะเอาอย่างที่คิด คงไม่มีใครร่วมกับคุณ พรรคผมหิ้วกระเป๋าไป แต่จะได้หรือไม่ได้ก็ต้องคุยกัน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ถนัดด้านไหน ตนไม่ทราบ และไม่กล้ายืนยัน
เมื่อถามว่าก่อนการโหวตนายกฯ พรรคเพื่อไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติ ควรตั้งโต๊ะแถลงอย่างเป็นทางการ จับมือร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า เอาให้การหารือจบแล้วค่อยแถลงดีกว่า ไม่ใช่นัดกันตอนเช้า แล้วตอนสายไปกินกาแฟโชว์ ชาวบ้านรำคาญ เมื่อไหร่จะจบสักที เอาให้จบ แล้วค่อยมาเถอะ ดังนั้น ประธานสภาฯ ควรรอให้เพื่อไทยพร้อมก่อน แล้วค่อยนัด ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุเหมือนที่ผ่านมา เราเจอมาพอแล้ว ชาวบ้านเวียนหัวแล้ว ประธานสภาฯต้องตั้งหลัก
ส่วนต่อรองกันจบหรือยัง นายวิทยาชี้แจงว่า ตนไม่ได้อยู่ในกระบวนการเจรจา จึงไม่ทราบ
เมื่อถามย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไม่โหวตให้หากการเจรจายังไม่จบใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า วันนี้ทุกอย่างยังไม่จบ ว่าเขาจะเอาหรือไม่เอาเรา จึงไปพยากรณ์ว่าจะโหวตหรือไม่โหวตไม่ได้ แต่ถึงเวลา ตนก็ตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไร ก่อนจะย้ำว่า อย่าไปแถลงข่าวบ่อยๆ ต้องรอให้ทุกอย่างจบก่อน
"ไม่ใช่เจอกันทีก็แถลงที อย่างนี้เป็นนัดแถลงข่าวไม่ใช่นัดมาทำงานกัน ผมว่าถ้าให้ดี 3-4 วันนี้มีเวลา ก็หาที่เงียบเงียบคุยกัน ไม่ต้องบอกสื่อก็ได้ คุยให้จบแล้วมาทีเดียว แล้วสื่อก็ไม่ต้องไปตามให้เขาหายใจกันหน่อย หายใจยาวยาวสบายๆ แล้วแถลงทีเดียวจะได้จบ" นายวิทยา กล่าว
ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะย้ำว่าขอถามสั้นๆ ว่าพรรคเพื่อไทยมีการนัดมาหรือยัง นายวิทยา กล่าวว่า ไม่รู้ เพราะไม่ได้นัดกับตนนัดกับคนอื่น เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคที่บอกไม่รู้ ไม่ใช่โกหก แต่เป็นเรื่องจริง