CK ประกาศงบไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 704 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในงวดเดียวกัน 283% และมีรายได้ก่อสร้าง 18,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.34% และมีรายได้รวม 19,456 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่าสำหรับผลการดำเนินงาน งวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีผลประกอบการค่อนข้างดีเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นผลมาจากความคืบหน้าของโครงการทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทมีรายได้ก่อสร้างงวด 6 เดือนอยู่ที่ 18,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.34% มีรายได้รวม 19,456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.56% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2565 สาเหตุหลักมาจากโครงการสำคัญของบริษัท ได้แก่ โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ โครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย เชียงราย เชียงของ ได้เข้าสู่ช่วงของเนื้องานหลักทำให้รับรู้รายได้เข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง สร้างกำไรสุทธิให้บริษัทในครึ่งปีแรกได้ 704 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตกว่าในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาจาก 7.10% เป็น 7.36%
นอกจากนี้ CK จะมีการลงนามโครงการก่อสร้างอีก 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่-เชียงราย ตอนที่ 3 มูลค่า 800 ล้านบาท จะลงนามในวันที่ 16 สิงหาคม 2566 และโครงการโรงบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียธนบุรี สัญญาที่ 1 มูลค่า 2,404 ล้านบาท คาดว่าจะลงนามได้ภายในปลายไตรมาสที่ 3 ทำให้ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาส 3/2566 ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องและสามารถเติบโตได้จาก Backlog ในปัจจุบันซึ่งมีมูลค่าราว 140,000 ล้านบาท ทั้งนี้ CK ยังมีศักยภาพในการเข้าประมูลแข่งขันโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐในอนาคตได้อีกหลายโครงการ อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย โครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานกรุงเทพ(ดอนเมือง) เฟส 3
โดยในส่วนการจ่ายเงินปันผลคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในงวดวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.66 ในอัตรา 0.15 บาท/หุ้น มูลค่ารวม 254 ล้านบาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 ส.ค.66 และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (record date) ในวันที่ 29 ส.ค.66 ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 ก.ย.66
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า CK ยังได้อานิสงส์จากส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผลจากบริษัทในกลุ่ม อย่างบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) “BEM” บริษัท ซีเคพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) “CKP” และบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) “TTW” ที่ช่วยสนับสนุนผลประกอบการได้เป็นอย่างดี โดยในไตรมาสนี้ CK มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 255 ล้านบาท และยังได้รับเงินปันผลเข้ามาจาก TTW จำนวน 232 ล้านบาทอีกด้วย