ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 16 สค. พันเอก สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผู้บังคับกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย พันเอกสิทธิศักดิ์ เจนบรรจง รองฯ นำกำลังหน่วยปฏิบัติการณ์ร่วม กว่า 50 นายเข้าทำการปิดล้อมบ้านเลขที่ 101/1 ม.6 บ้านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบบุคคลแปลกหน้าและต้องสงสัยหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงจึงได้กระจายกำลังโอบล้อมบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้น แต่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่วางกำลังปิดล้อม ปรากฏว่าคนร้ายที่หลบซ่อนตัวภายในบ้านไหวตัวจึงกระโดดออกจากหน้าต่างหน้าบ้านวิ่งเข้าไปในสวนยางพาราแล้วใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี เจ้าหน้าที่ซึ่งปิดล้อมไว้ก่อนแล้วจึงเกิดการยิงปะทะกันขึ้นเป็นเหตุให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิตทันที
จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายแวอูเซ็ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.1 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พร้อมยึดอาวุธปืน เอ็ม 16 จำนวนหนึ่งกระบอก ตรวจสอบประวัติพบมีหมายจับคดีความมั่นคง จำนวน 4 หมาย ประกอบด้วย 1.ร่วมกันปล้นร้านทองสุธาดา อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 สค.62 2. ยิง นส.สุภาวดี เสียชีวิต ในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 23 เมย. 62 3. ลอบยิง นายสนั่นวิทย์ ในพื้นที่ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 2 เมย. 57 และ 4.ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ 4303 เสียชีวิต 2 นาย เกิดในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 11 กย.61
ต่อมาเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ผู้นำท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้เจรจาให้บุคคลภายในบ้านออกมามอบตัว กระทั่งมี นายกอเซม อายุ 53 ปี พร้อมครอบครัว รวม 4 คนได้วิ่งออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว สอบสวนทราบว่าเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นนายกอเซม ให้การว่า ตนและครอบครัวอยู่ภายในบ้านตามปกติ ปรากฏว่าเมื่อสองวันก่อน ตนกลับจากทำงานก็ทราบว่ามีบุคคลแปลกหน้าสองคนเข้ามาในบ้าน โดยมาขออาศัย ตนก็ไม่ได้สอบถามอะไรมาก จนกระทั่งวันนี้มีเจ้าหน้าที่ปิดล้อมและยิงปะทะกันขึ้น
กระทั่งเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวอย่างต่อเนื่องพร้อมกับการเจรจาให้คนร้ายอีกหนึ่งคนที่อยู่ในบ้านออกมามอบตัว แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด โดย พลโท ศานติ ศกุลตนาถ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามในการเจรจาและปฏิบัติหน้าที่จากเบาไปหาหนักเพื่อไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย จนกระทั่งเวลาล่วงเลย 10.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญเจ้าของบ้านมาสอบถามเกี่ยวกับพื้นที่ภายในบ้านก่อนจะตัดสิ้นใจบุกจู่โจมเพื่อตรวจสอบว่าภายในบ้านยังมีคนร้ายอยู่หรือไม่ โดยชุดปฏิบัติการณ์หน่วยปฏิบัติการณ์ชุดจู่โจมได้ใช้โล่กำบังเข้าไปภายในบ้านและมีการเข้าตรวจสอบห้องทุกห้องรวมไปถึงห้องครัวแต่ปรากฏว่าไม่พบคนร้าย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปตรวจสอบด้านหลังบ้านซึ่งมีลักษณะต่อเติมมีบันไดขึ้นสามขั้น แต่มีลักษณะผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้รื้อเสื่อน้ำมันออกก่อนจะพบแผ่นไม้ลักษณ์คล้ายประตูสี่เหลี่ยม จึงได้ดึงออกมาพบว่าด้านล่างมีการดัดแปลงเป็นห้องลับและพบคนร้ายซ่อนตัวอยู่ ก่อนที่คนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงเจ้าหน้าที่ทันที ก่อนจะเกิดการยิงตอบโต้กันขึ้นเป็นระยะ เมื่อเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่ได้ตะโกนให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่คนร้ายยังคงพยายามยิงใส่เจ้าหน้าที่และมีการยิงปะทะกันต่อเนื่องเป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามที่จะบุกเข้าจับกุมแต่เนื่องจากคนร้ายหลบซ่อนจึงไม่สามารถเข้าประชิดตัวได้ คนร้ายยังคงใช้อาวุธปืนยิงใส่ต่อเนื่องจนเกิดการยิงปะทะกับดุเดือด ก่อนที่คนร้ายจะถูกวิสามัญเสียชีวิตในที่สุด โดยการปะทะใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
ตรวจสอบทราบชื่อ นายรอกิ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ม.5 ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พร้อมยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม. หนึ่งกระบอกพร้อมกระสุนอีก 1 กล่อง ตรวจสอบประวัติมีหมายจับ จำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย 1. เหตุวางเพลิงร้ายสะดวกซื้อ ภายในปั้ม ปตท. อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 2 พย.59 2.เหกตุลอบวางระเบิด จนท.ตำรวจ สภ.หนองจิก เมื่อวันที่ 18 มค.62 และ 3.เหตุลอบวางระเบิดปั้มน้ำมันบางจาก อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 17 สค.65
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับให้หน่วยกำลังในพื้นที่กระจายกำลังตรวจค้นพื้นที่ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก ต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าน่าจะมีกลุ่มก่อความไม่สงบเคลื่อนไหวและน่าจะหลบซ่อนตัวภายในบ้านซึ่งเป็นแนวร่วมในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบบ้านเกิดเหตุครั้งนี้มีการดัดแปลงเพื่อเป็นพื้นที่ซ่อนตัวของกลุ่มก่อความไม่สงบ และเชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายบ้านที่ดัดแปลงในลักษณะนี้ ส่วนเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุนั้นจะมีการเชิญตัวเข้าศูนย์ซักถามเพื่อสอบสวนว่ามีความเชื่อมโยงกับคนร้ายทั้งสองหรือไม่ สำหรับสองคนร้ายที่ถูกวิสามัญเสียชีวิตนั้น ทางฝ่ายความมั่นคงได้รับแจ้งว่าทั้งสองพยายามที่จะเข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ โดยมีการเรียกแนวร่วมในพื้นที่ประชุมวางแผนเพื่อเตรียมการก่อเหตุร้ายในพื้นที่
