เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 15 ส.ค. 66 ที่อาคารไทยซัมมิท นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวก่อนเข้าประชุม สส.ของพรรคก้าวไกลประจำสัปดาห์ ว่า ตนเพิ่งมาถึงยังไม่ทราบว่าการประชุมคืบหน้าอย่างไรบ้าง เพราะนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นำประชุมไปก่อนแล้ว จึงยังไม่ทราบถึงผลการหารือ และยังไม่ได้คุยกันว่า วันนี้มีวาระอะไรบ้าง ตนขอเข้าไปฟังก่อน แต่หลังจากประชุมเสร็จก็คงจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง

เมื่อถามถึงกรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 โพสต์รูปภาพกระป๋องคราฟเบียร์ ตัวแรกของจ.พิษณุโลก จนถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ มีการหารือกันภายในพรรคอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับนายปดิพัทธ์ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับ มาตรา 32 นายปดิพัทธ์ก็คงไม่มีเจตนาที่จะใช้โฆษณา หรือทำผิดกฎหมายอะไรแต่เขาก็คงภูมิใจในเรื่องของผลิตภัณฑ์ของชาวพิษณุโลก แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ตนคิดว่านายปดิพัทธ์ ก็พร้อมจะชี้แจงและขอให้รอทางพรรคชี้แจงอีกที แต่ตนคิดว่าสิ่งที่สำคัญกว่าเรื่องของกฎหมาย มาตรา 32 คือเรื่องของความเท่าเทียมในการโฆษณา ความเท่าเทียมในการทำมาหากิน บางเจ้าถ้ามีโลโก้สามารถโฆษณาโลโก้ได้ไม่ผิด แต่บางเจ้าอาจไม่มีงบโฆษณาแบบนั้น ก็เป็นหนึ่งในกฎหมายที่เราควรพูดคุยกัน และเรื่องดังกล่าวคนที่จะอธิบายเรื่องนี้ได้ดี และสื่อสารให้คนเข้าใจมาโดยตลอด โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ก็คือนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.พรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่า จะมีผลตำแหน่งต่อรองประธานสภาคนที่ 1 หรือไม่ นายพิธา ตอบสั้นๆว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร