เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 15 ส.ค. 66 ที่อาคารไทยซัมมิท นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังที่ประชุมสส. ของพรรคก้าวไกล มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่าจะไม่โหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่สส.เขตของพรรคก้าวไกล ได้มีการสอบถามประชาชน มีเสียงสะท้อนอย่างไรบ้าง นายชัยธวัชกล่าวว่า สส.เขตสะท้อนว่า พี่น้องประชาชนทั้งออนไลน์ และที่ได้พบปะในพื้นที่ เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่เห็นด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยระบุว่า “พรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน” หลายครั้ง มีนัยยะอะไรหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คงต้องดูว่าสถานการณ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร อาจจะไม่ได้จบภายในครั้งเดียว

เมื่อถามว่า ยังมีความเชื่อลึกๆ อยู่ในพรรคก้าวไกล ว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะโหวตไม่ผ่านใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่เราพิจารณา แต่คือวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป เรื่องอื่นคงเป็นเรื่องอนาคต 

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญมาก คือเราเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่เกรงใจทุกคน ยกเว้นประชาชน ไม่สามารถผลักดันวาระที่เป็นประโยชน์ และทำเพื่อประชาชนจริงๆ 

เมื่อถามว่า การที่ระบุว่า “จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว” นั้น ถือว่าจะไม่สามารถกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีก ใช่หรือไม่นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นความเห็นของการจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้ เพราะพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ได้แสดงออก และส่งเสียงผ่านการเลือกตั้งชัดเจนแล้วว่า ต้องการพลิกขั้วรัฐบาล ต้องการเห็นพรรคที่ชนะอันดับ 1 และ อันดับ 2 ที่เคยเป็นฝ่ายค้านเดิม ขึ้นมาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศแทนขั้วรัฐบาลเดิม แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชน 

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ขอให้มีการจัดสรรกระทรวงให้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในฐานะคนนอกมองอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้อยู่เหมือนกันว่า ความคลุมเคลือที่ไม่ได้มีการประกาศชัดเจนว่าจะมีพรรคการเมืองใดบ้างเข้าร่วมรัฐบาล ยิ่งเพิ่มความไม่ไว้วางใจให้กับพี่น้องประชาชน 

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสามารถเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซ้ำได้ จะมีการเสนอชื่อนายพิธาแข่งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นคนละประเด็น พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับการเสนอชื่อซ้ำอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับการจะเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ เป็นหลักการที่ควรจะต้องเป็นต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องเรื่องนี้ พรรคก้าวไกลก็จะเสนอญัตติให้ทบทวนมติเดิมของรัฐสภาในการตีความข้อบังคับเหมือนกัน ซึ่งเราก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐสภาทำอะไรได้ หรือไม่ได้ พร้อมย้ำว่า ไม่ได้ชื่อนายพิธาแข่ง 

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลประเมินว่าจะมีฉากทัศน์กี่แบบ ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ของพรรคอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า จริงๆ มีแค่สองทาง ผ่าน และ ไม่ผ่าน ในการโหวตนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามต่อว่า หมายถึงการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งสองทางเลยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นโจทย์ของแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลปิดประตูต่อรอง ในเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คงไม่มีส่วนเรื่องไหนที่พรรคก้าวไกลเสนอไปในอนาคต แม้เราเป็นฝ่ายค้าน ถ้าประชาชนสนับสนุนอย่างชัดเจน เราก็เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ในสภา จะสนับสนุนข้อเสนอของเราอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องมีการทำข้อตกลง 

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะจะโหวตไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่ที่ชัดเจนก็จะไม่โหวตให้ ส่วนจะไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง ต้องดูรายละเอียดที่จะต้องพิจารณาถึงความชัดเจนของรัฐบาลที่กำลังจัดตั้ง

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลได้มีการหารือในเรื่องของการเป็นผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือเรื่องนั้นจะต้องเป็นวาระที่จะต้องพิจารณาหลังการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการแล้ว