เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 ต.ค. 2566 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยติดต่อให้เข้าร่วมรัฐบาลว่ายังไม่ได้รับการติดต่อ และทราบจากข่าวว่าจะมีการเชิญ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มี และเท่าที่ฟังจากข่าวคาดว่า ก็จะมีการติดต่อมา ส่วนจะเร็วๆนี้หรือไม่ตนไม่ทราบ

เมื่อถามถึง การแบ่งสัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรี นายเอกนัฏ กล่าวว่า คิดว่าข่าวที่ปล่อยกัน มั่วไปหมด ถึงเวลานี้ยังไม่มีการต่อรอง เรื่องของเก้าอี้หรืออะไรใดๆทั้งสิ้น หรือแม้กระทั่งเขาลือที่ออกมาว่า จะต้องเอาคนนั้นออก คนนั้นไม่เข้า ไม่เป็นความจริงเลย การตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะอยู่บนหลักการที่เราได้ประกาศไปแล้ว ต่อสาธารณะ ว่าต้องไม่มีเรื่องของ มาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกล หลังจากนั้นเราก็พร้อมพูดคุย

"การตัดสินใจว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมอยู่บนหลักการ เราไม่แคร์เรื่องของตำแหน่งหรือกระทรวง แม้จะเป็นฝ่ายค้านเราก็พร้อม" นายเอกนัฏ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลควรจะได้กี่เก้าอี้ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่คิดอะไรเลย ไม่ได้อยู่ในใจ ว่าจะต้องได้เท่าไหร่ แต่คิดก่อนว่าหากมีการประสานมา การจะร่วมหรือไม่ต้องอยู่บนพื้นฐาน และรัฐบาลต้องมีความชัดเจน ในเรื่องมาตรา 112 ว่าจะไม่ผลักดันต่อ และอาจมีเงื่อนไขเรื่องอื่น เช่น การทำงานร่วมกันในอนาคต นโยบาย ที่ต้องเร่งดำเนินการ ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทุกคนต้องคิดถึงประเทศเป็นหลักเรามีสส.เพียง 36 คน คงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ถ้าในที่สุดมีการพูดคุยกัน และเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติไปร่วมรัฐบาล เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี เงื่อนไขจะอยู่บนหลักการทั้งหมดไม่มีการเจรจาต่อรองตำแหน่ง หรือมาลงรายละเอียดเรื่องของบุคคลแน่นอน 

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่จะโหวตนายกฯ ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันทีหลัง ตามแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเสนอมา นายเอกนัฏ กล่าวว่า การโหวตหรือไม่โหวต ต้องดูเงื่อนไขและผลของการพูดคุยก่อน สำหรับเราพร้อมให้ได้หมด ไม่ติดใจเรื่องของกระทรวง รวมถึงเรื่องบุคคล แต่หลักการต้องชัดเจน เรื่องนี้มันทำยากและง่ายสำหรับบางพรรคกว่าจะตกลง ให้ตกผลึกได้ข้อสรุป ต้องลงรายละเอียดถึงขั้นว่า กระทรวงไหนเป็นใคร ของเราไม่มี 

เมื่อถามว่า หากเพื่อไทยเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน หรือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  โหวตนายกฯ ยังติดใจเรื่องอะไรหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ก็ต้องมาคุยกัน มันอยู่ที่พฤติกรรมของคน ว่าตกลงแล้ว จะยืนยันชัดเจนหรือไม่ว่า จะไม่ผลักดันเรื่องของ ม. 112 และอาจจะมีเรื่องของภารกิจแรก ที่รัฐบาลต้องทำรวมถึงมาตรฐานของรัฐบาล ในเรื่องของความโปร่งใส จะเป็นอย่างไร ต้องวางกฎกติกา ไว้ล่วงหน้าก่อนก่อนจะคบกันก็ต้องคุยกัน 

เมื่อถามว่า จะตัดสินใจได้ก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เราไม่รู้ เพราะยังไม่มีการพูดคุย 

นายเอกนัฏ ยังกล่าวถึง การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.ในวันนี้ถึงทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น  ถือเป็นการพูดคุยกันตามปกติ ซึ่งเราก็มีการพูดคุยภายในกันตลอด พยายามสื่อสารให้สส. ในพรรคเข้าใจสถานการณ์ และเงื่อนไขที่เราต้องตัดสินใจ เพราะเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ที่จะส่งผลต่ออนาคตของประเทศ ก็ต้องปรึกษาหารือกันในพรรคให้เคลียร์ก่อน

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ส่วนข่าวลือเรื่องความแตกแยกภายในพรรคนั้น เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีปัญหาแต่สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ คนที่มาอยู่ด้วยกัน ทุกคนมีอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ว่าจะตัดสินใจไปทางไหน ตนได้รับคำยืนยันจากสมาชิกพรรคทุกคน ว่าจะไปพร้อมกัน ดังนั้นไม่ต้องกังวล

เมื่อถามว่ามีการปิดประตูหรือตั้งแง่หากพรรคเพื่อไทยติดต่อมาหรือไม่ นาบเอกนัฏ กล่าวว่า คงต้องคุยกันเพราะครั้งที่แล้วเขาเชิญมาเราก็ไป เป็นพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งด้วยกันก็คุยกันได้