คนสูงอายุขอนแก่น หวั่นจะได้รับเงินสูงอายุหรือไม่ หลังมีการปรับเกณฑ์พิจารณาใหม่ เพราะบางคนความช่วยเหลือที่รัฐจัดสรรยังไม่ได้อะไรเลย และเสนอข้อเป็น 1,000 บาททุกคนอย่างเท่าเทียม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ส.ค 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นทั้งผู้ที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและที่กำลังจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หลังมีข่าวออกมาว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์รับเบี้ยผู้สูงอายุใหม่จึงทำให้ประชาชนหลายคนรู้สึกกังวลว่าจะไม่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไปในอนาคต
น.ส.อุดม วงศาเนา อายุ 59 ปี แม่ค้าตลาดสดเทศบาลนครขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกกังวลหลังมีข่าวออกมาว่าจะมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่และกลัวจะไม่ได้เพราะตอนนี้อายุ 59 ปีแล้ว ปีหน้าจะได้รับเบี้ยแล้วถ้ามีการปรับใหม่กลัวว่าจะไม่ถูกพิจารณาเพราะว่าเกณฑ์ใหม่จะมีการพิจารณาผู้มีรายได้น้อยไม่เพียงพอต่อการยังชีพเกณฑ์นี้จะเชื่อถือได้ยังไง
" ขนาดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนตัวเองยังไม่ได้รับการพิจารณาเลย และไม่ได้รับสวัสดิการอะไรที่รัฐบาลออกมาช่วงก่อนหน้านี้คนจนจริงๆ จะไม่ค่อยได้รับการพิจารณาตัวแม่เองที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำขายของเลี้ยงชีพมีรายได้ไม่เกินเกณฑ์ที่จะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็ยังไม่ได้สิทธิ์ตรงนี้เลย จึงไม่มีความมั่นใจว่าเกณฑ์ที่จะนำมาปรับใช้ใหม่สำหรับการรับเบี้ยผู้สูงอายุจะได้หรือเปล่าเพราะถึงเบี้ยจะไม่มากแต่ถ้าได้มาก็จะช่วยบรรเทาได้บ้างเล็กน้อย พอข่าวออกมารู้สึกกังวลจนรู้สึกเฉยๆไปแล้วเพราะเราไม่ได้สวัสดิการรัฐมาตั้งแต่แรกแล้ว จึงอยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารฝากให้ใส่ใจผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น อยากให้ตรวจสิทธิ์ผู้สูงอายุให้ดีว่าคนที่ได้ควรจะได้จริงหรือไม่ บางคนมีเยอะเงินแต่ก็ยังได้คนจนจริงๆกลับไม่ได้สิทธิ์อยากให้ปรับเงินขึ้นอีกเล็กน้อย น่าจะช่วยแต่ละเดือนได้เยอะ"
ขณะที่ นายไชยา ยอดระบำ อายุ 58 ปี พ่อค้า กล่าวว่า ไม่กังวลเพราะว่าอยู่ในกลุ่มคนชั้นกลางยังไงก็ต้องได้รับการพิจารณาผู้มีรายได้น้อยอยู่แล้วเพราะว่าไม่มีเงินฝากในบัญชีเยอะเกินเกณฑ์ที่กำหนด จึงไม่รู้สึกกังวลตามที่จะมีการปรับจะต้องมีหลักเกณฑ์มากกว่านี้แต่ตอนนี้เป็นแค่การพูดคุยกันเท่านั้นยังไม่มีรายละเอียดเพิ่ม ถามว่าเงิน 600 บาทแต่ละเดือนที่ได้รับไม่พอใช้แน่นอน แต่เรามีอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้ไม่ได้จะรอแต่เงินเบี้ยผู้สูงอายุอย่างเดียว ส่วนของเบี้ยเป็นแค่การเสริมจากทางภาครัฐให้มา
"ถ้าถามว่าได้เดือนเท่าไหร่จะพอบอกได้เลยว่าเดือนละเท่าไหร่ก็ไม่พอถ้าเราไม่รู้จักใช้คำว่าพอไม่มีจริง ฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารให้ปรับหลักเกณฑ์ตามความเป็นจริงไม่ต้องให้ 3,000-4,000 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ขึ้นตามความจริง 600 ,700 ,800 ตามแผนที่วางไว้ตามงบประมาณเพราะว่าคนละ 3,000 บาท จะเอางบประมาณมาจากไหน ถ้าได้รับการพิจารณาก็ดีจะเก็บเงินส่วนนั้นไว้เพราะไม่ได้หวังเพราะมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้อยู่แล้ว"
ด้านนายสมัย แสนวงค์ อายุ 67 ปี กล่าวว่า ได้ยินข่าวว่าจะมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่รู้สึกกังวลว่าจะถูกตัดเบี้ยตรงนี้ออกไปเพราะการพิจารณาใหม่จะดูจากการที่ปรับผู้มีรายได้น้อย รายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพพอปรับเกณฑ์เราอาจจะถูกมองว่ามีรายได้จากการค้าขายเลยรู้สึกกลัวว่าจะไม่ได้เบี้ยผู้สูงอายุ
"ตอนนี้อายุ 67 ปี ได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท อยากให้ปรับขึ้นอีกเป็นเดือนละ 1,000 บาท เพราะเงิน 600 บาท ใช้ไม่กี่วันก็หมดแล้ว อยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาอยากฝากพิจารณาเบี้ยผู้สูงอายุตามเดิมที่เคยได้อยากให้ผู้สูงอายุได้เบี้ยนี้ทุกคน"