เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ส.ค. 66 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการรวบรวมเสียงสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล ว่า เท่าที่ดูแนวโน้มที่ได้คุยกัน เห็นว่าพรรคการเมืองต่างๆ ที่อยู่ในสภาฯ ยกเว้นแค่ 2-3 พรรคที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้าน ตอนนี้มั่นใจว่าเสียงของเราสามารถเป็นรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งได้ หากประธานรัฐสภากำหนดวันโหวตมา พรรคเพื่อไทยก็พร้อม และเชื่อว่าภายใต้กติกาที่มีข้อจำกัดจะสามารถทำให้โหวตผ่านได้ภายในครั้งเดียว 

เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศสนับสนุน การเจรจาจะออกมาในลักษณะใด จะมีการนำเข้ามาพูดคุยด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การจับมือกันยังไม่ใช่สาระสำคัญ แต่มีความเข้าใจกันที่จะสามารถใช้แนวทางในการแก้ไขวิกฤตทั้งสามเรื่องได้ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ได้แสดงจุดยืนแล้วว่า ยินดีจะเข้าร่วม โดยไม่ได้คำนึงถึงตำแหน่งอะไร นี่เป็นคุณสมบัติขั้นต้นที่ได้พูดไปแล้วว่าเรายินดีที่จะร่วมกับทุกพรรคการเมืองที่เห็นชอบในการเสนอให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี 

เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลกดดันให้แบ่งตำแหน่งรัฐมนตรี ก่อนที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่คุยกันไม่มีปัญหาอย่างที่กล่าวมา และไม่ทราบว่าไปได้ยินมาจากไหน ยืนยันว่าเราสร้างความมั่นใจและชัดเจน ซึ่งต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ทั้งหมดก็พร้อมที่จะเข้าร่วม ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ ทั้งนี้ เมื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว จึงจะมีการมาคุยกันเรื่องตำแหน่ง ซึ่งหากวันประชุมร่วมเป็นวันที่ 18 ส.ค. หรือวันที่22 ส.ค.จริง และเลือกได้เลย ก็สามารถตกลง และจัดตั้งรัฐบาลได้ในเร็ววัน 

เมื่อถามถึง กรณีที่สส.ของพรรคมีความกังวลเรื่องของการจับมือกับ 2 ลุง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ยิน ทุกคนให้กำลังใจทีมเจรจาให้สามารถทำงานได้ วันนี้ต้องยอมรับว่าเราคิดหลายเรื่องเหมือนกัน เพราะเราอยู่ภายใต้ข้อจำกัดไม่สามารถทำตามความต้องการที่เราปรารถนาได้ทั้งหมด เมื่อตัวเลขออกมาเช่นนี้ และปัญหาที่แสดงออกมาชัดเจนก็สะท้อนว่าเรารอไม่ได้ รวมถึงมีปัญหาเข้ามาใหม่ๆ จึงจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว 

“การตัดสินใจในเรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่เราคิดว่าเราสลายความขัดแย้ง หากไม่มีจุดเริ่มต้นก็ยากที่จะทำได้ความยากลำบากของการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งมีความเจ็บปวด พรรคเพื่อไทยจึงอาสาเป็นหินก้อนแรกในการทำให้เกิดเส้นทาง ที่ทำให้ความขัดแย้งลดลง ในทางการเมืองเราเชื่อว่าการทำให้วิธีคิดใกล้เคียงกัน สามารถทำงานและแก้ปัญหาร่วมกันได้ ซึ่งเป็นทางออก สามารถร่วมมือกันได้ และทำให้สามารถฝ่าวิกฤตได้ เราต้องคิดใหญ่ ใจใหญ่ ในเส้นทางที่คับแคบ แต่ทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของพี่น้องประชาชน หากเราตัดสินใจผิดพลาด เราก็จะรับผิดชอบ” นายภูมิธรรม กล่าวว่า 

เมื่อถามว่า ได้มีการทำความเข้าใจกับสส. ของพรรคแล้วหรือไม่ และวันนี้จะมีการประชุมเรื่องอะไรบ้าง นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราได้ทำความเข้าใจกับสส. ไปตั้งแต่ครั้งที่แล้ว วันนี้เป็นการรับฟังความเห็น และรายงานความคืบหน้า ซึ่งคิดว่าไม่มีเสียงสะท้อนในทางลบ เท่าที่ไปทำงานมา เราก็ได้นำมาบอกกับสส.คนอื่น และวันนี้จะเป็นการสรุปภาพรวมและรับฟังว่าควรจะปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เพราะการเมืองก็เปลี่ยนทุกชั่วโมง วันนี้พรรคเพื่อไทยแสดงความพร้อมนอกเหนือจากประเด็นทางการเมือง และแสดงให้เห็นว่าเรามีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแน่นอนเพราะเสียงที่รวบรวมได้ในขณะนี้มีแนวโน้มที่จะเกิน 250 เสียง และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ 

“เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในไม่กี่วัน และนำนโยบายต่างๆ ของพรรคร่วมมาพูดคุยกันว่านโยบายหลักของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เพราะหากยิ่งช้าจะยิ่งทำงานยาก ซึ่งหากเป็นไปตามแผนปลายเดือนส.ค.หรือต้นก.ย.นี้ ก็จะได้รัฐบาลมาบริหารประเทศ” นายภูมิธรรม กล่าว 

เมื่อถามถึง กรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล มีความเป็นห่วงในการที่พรรคเพื่อไทยถูกบีบ และกดดันจากพรรคที่จะมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ใครจะรู้ดีเท่าพรรคเพื่อไทยวันนี้เราก็สบายๆ เพราะเราเอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เราไม่ได้ใช้วิธีการเดิมแบบที่พรรคก้าวไกลได้ทำ เรารู้ว่าวิธีการนั้นเป็นวิธีการที่ยากลำบากและเป็นทางตัน เราจึงหาทางใหม่

เมื่อถามถึง กรณีที่สว.เรียกร้องให้นายเศรษฐาเข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ในสภา ก่อนลงมติการโหวตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ว่าไปตามกฎเกณฑ์ของรัฐสภา เคยปฏิบัติมาเช่นไรก็เป็นเช่นนั้น เรายินดีทำ 

เมื่อถามย้ำถึง เสียงของสว.ในขณะนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่ได้พูดคุยก็เป็นไปในทิศทางที่ดี เราได้เสียงสว.มากกว่าที่เคยได้กัน ส่วนจะเกิน 100 หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เป็นดุลพินิจ และการพิจารณาของสว.แต่ละท่านว่าจะตัดสินใจทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร 

เมื่อถามถึง กรณีที่มีการมองว่านายเศรษฐา อาจจะโหวตไม่ผ่าน ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนตัวเป็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย จะมีการเปลี่ยนแผนหรือไม่อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่เชื่อแบบนั้นเราเชื่อว่าโหวตครั้งเดียวผ่าน อย่ากังวลใจเรื่องนี้เลย เราคิดว่าเราทำอย่างเต็มที่แล้ว เราทราบแล้วว่าที่ผ่านมาพรรคการเมืองอันดับหนึ่งประสบปัญหาอะไรบ้าง เราจึงใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการแก้ไขปัญหานั้น ในการทำความเข้าใจและชี้แจงกับทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมืองที่จะร่วมกับเราและสว. ซึ่งเท่าที่ได้คุยก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขณะนี้ต้องระมัดระวังเรื่องข่าวลือและการคาดการณ์ อย่าคิดจะไปเอาใจใส่เรื่องนี้มากเกินไป เพราะอาจจะมีข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ทำให้เกิดความสับสนได้ 

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เก้าอี้นายกรัฐมนตรี ไม่เป็นเหมือนที่น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นไว้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายศิธาก็พูดได้อยู่เรื่อยๆ วิพากษ์วิจารณ์คาดการณ์กันไป แต่ก่อนคิดว่าภายใน1-2 เดือนทุกอย่างจะชัดเจน ว่าใครอยู่บนความเป็นจริง ใครมีแต่คัดค้านพูดจาไปเรื่อยๆ แต่ไม่เป็นไร เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นไม่ว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้านเราก็ไม่ขัดข้อง 

เมื่อถามถึง กรณีที่วันนี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง จะออกมาเปิดเผย ข้อมูลของนายเศรษฐาเพิ่มเติม จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องทราบและรู้จักนายชูวิทย์ว่าเขาเป็นนักการตลาดที่สำคัญคนหนึ่ง ทำเรื่องอะไรก็ตื่นเต้นตลอด แต่ผลในอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างไรก็พิจารณากันเอง