วันที่ 14 ส.ค. 66 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกระเบียบวิธีการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยกำหนดว่า เป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 66 ว่า เศรษฐกิจแย่ บ้านเมืองเผชิญกับวิกฤตมาตลอด 8-9 ปี ประชาชนเดือดร้อนกันทั่วหน้า รัฐบาลรักษาการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความจำเป็นอะไรถึงต้องไปเพิ่มเงื่อนไขในคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุดังกล่าว เป็นการทำลายหลักการรัฐสวัสดิการแบบถ้วนหน้า ตอกย้ำระบบรัฐสงเคราะห์ที่เลือกปฏิบัติ เลือกให้เฉพาะคนจน หรือคนอนาถา ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และหลักสากล เป็นการสร้างเงื่อนไข และเลือกปฏิบัติ ถือเป็นเรื่องที่กระทบสิทธิของพี่น้องประชาชนอย่างรุนแรง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการ แต่ไม่รักษาอาการ เหมือนการวางยาทิ้งทวน ผิดธรรมเนียมปฏิบัติผิดปกติวิสัยที่รัฐบาลรักษาการไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง รัฐบาลรักษาการควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ ที่จะเข้ามาดำเนินการจะถูกต้องเหมาะสมกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ปากประกาศวางมือ แต่ใจเหมือนคิดวางยาหรือไม่ อย่าผูกขาดทวงบุญคุณกับประชาชนว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น ที่จะดูแลผู้สูงอายุได้ นี่คือหลักฐานหนึ่งที่สนับสนุนว่าทำไม10 เดือนถึงไม่รอ เพราะหากเวลาที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามาช้าไปเท่าไหร่ ก็เท่ากับเป็นการเติมโปรโมชั่นพิเศษให้รัฐบาลรักษาการอยู่นานขึ้นไปเรื่อยๆ
“รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะรีบเข้ามาทำงาน และผลักดันนโยบายที่จะเยียวยาแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท ค่าไฟ-น้ำมัน ลดทันที พักหนี้เกษตรกร 3 ปีทั้งต้น ทั้งดอกฯลฯ” นายอนุสรณ์ กล่าว