สารภาพแล้ว "ไอ้ชัย" ฆ่ายัดกระสอบทิ้งศพลงหนองน้ำสาธารณะ หลัง กินเหล้าเมาถูกขัดคอ จอบฟาดตายคาที่
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านหลังเกิดเหตุ ฆาตกรรมยัดกระสอบ ขนศพออกจากหมู่บ้าน 3 กม.ทิ้งหนองน้ำสาธารณะ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งบันทึกภาพนายชัย ก่อเหตุฆาตกรรมนายกุ้งแล้วเอาศพใส่กระสอบปุ๋ย จำนวน 3 ใบ โดยคลุมทั้งล่างก่อนนำขึ้นรถซาเล้งของเพื่อนบ้าน ขับผ่านกล้องวงจรปิดไป โดยนายชัยเป็นคนขับรถซาเล้ง ซึ่งมีกระสอบสีขาวอยู่ภายในซาเล้ง มุ่งหน้าออกจากหมู่บ้านไป โดยไม่มีท่าทีมีพิรุธหรือต้องสงสัยแต่อย่างใด ก่อนที่ภรรยาและเพื่อนบ้านรวมทั้งเจ้าหน้าที่ช่วยกันออกตามหาตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมากระทั่งมาพบศพในกระสอบทิ้งหนองน้ำสาธารณะบ้านโสกจาน
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดที่ก่อเหตุฆ่ายัดกระสอบ ที่บ้านในม.4 บ้านโสกตลิ่ง ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นร้านขายอาหารตามสั่งของ นายทองผัด (สงวนนามสกุล)อายุ 63 ปีพี่เขยของนายวิชัย คูหา หรือนายชัย อายุ 47 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านไผ่ ควบคุมตัวมาสอบสวน
นายทองผัด กล่าวว่า ตนเป็นพี่เขยของนายชัย และเปิดขายอาหารตามสั่งในหมู่บ้านมานาน ในช่วงวันเกิดเหตุบ่ายวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา นายกนกพล ผู้ตาย มาที่ร้าน และซื้อสุรามาดื่มกับนายชัย ที่เพิ่งเก็บของข้างยุ้งข้าวของบ้าน จนถึงช่วงเย็น เป็นช่วงที่ตนกับภรรยาไม่อยู่ ปิดร้านไปทำธุระข้างนอก กลับเข้าบ้านมาตอนค่ำ ก็ยังไม่รู้ว่ามีเหตุฆาตรกรรมเกิดขึ้นในบ้าน จนกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา จึงทราบว่า นายกุ้งถูกฆ่ายัดกระสอบทิ้งสระน้ำ
"เหตุการณ์ฆาตรกรรมในครั้งนี้ก็เชื่อว่านายชัยเป็นคนลงมือฆ่านายกุ้ง เพราะดื่มสุราด้วยกันเพียง 2 คน อาจขัดคอกัน คนเมากับคนเมาคุยกันไม่ลงถูกคอ จนเกิดการฆาตรกรรมฆ่ายัดกระสอบขึ้น และเชื่อว่า นายชัย ลงมือฆ่านายกุ้งเพียงคนเดียว และน่าจะใช้จอบที่วางในที่เก็บของและเอาถุงที่เตรียมไว้ใส่ของเก่าใส่ศพเอาไปทิ้งลงสระน้ำ"
ขณะที่นายสมคิด (สงวนนามสกุล)อายุ 52 ปี อยู่บ้านโสกตลิ่ง ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ช่วงเย็นวันที่ 12 สค.ที่ผ่านมา ขณะเดินออกจากบ้านจะไปซื้อของที่ร้านค้า ผ่านหน้าบ้านของนายชัย นายชัยเรียกให้ไปยกกระสอบปุ๋ยที่วางอยู่ที่เพิ่งเก็บของขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง พร้อมยังบอกว่า หมาตาย 3 ตัว จะเอาหมาไปทิ้ง โดยที่ไม่รู้ว่าในกระสอบคือศพคนตาย จึงช่วยยกขึ้นรถ เมื่อยกเสร็จก็เดินไปซื้อของและกลับบ้าน กระทั่งเช้าจึงมารู้ว่า กระสอบที่ตนยกขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงช่วยนายชัยนั้น เป็นศพนายกุ้ง ก็รู้สึกเสียใจ เพราะถ้ารู้เป็นศพคนตาย จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย และยินดีไปให้การกับตำรวจ
ด้านนายเด่นชัย (สงวนนามสกุล)อายุ 53 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซูซุกิ สีเทา ทะเบียน ขอนแก่น คันที่ถูกนายวิชัย ยืมไปและใช้เป็นยานพาหนะขนศพที่ถูกฆ่านัดในกระสอบไปทิ้งสระน้ำ กล่าวว่า วันเกิดเหตุนายชัย เดินเร่งรีบไปหาที่บ้าน ขอยืมรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง บอกว่า จะรีบเอาสุนัขตายไปทิ้ง จึงให้ยืมไป เพราะปกติก็จะมายืมรถคันดังกล่าวไปใช้บรรทุกหญ้าและดินอยู่บ่อยครั้ง จึงให้ยืมไป เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็นำรถมาคืนแล้วนายชัยก็กลับบบ้านไป ส่วนตนก็นำรถมาใช้ตามปกติ เพราะไม่รู้มาก่อนว่า นายชัยยืมรถขนศพไปทิ้ง เมื่อรู้ก็นำรถมาให้ตำรวจทำการตรวจสอบที่สภ.บ้านไผ่
ทางด้าน พ.ต.ท.มนตรี สุปะตำ รอง ผกก.(สส.)สภ.บ้านไผ่ กล่าวว่า หลังทราบเหตุ และทราบรายละเอียดก็นำชุดสืบสวนลงพื้นที่ ควบคุมตัวนายวิชัย (สงวนนามสกุล)อายุ 47 ปี ผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับนายกุ้งคนสุดท้ายมาสอบสวน ในเบื้องต้นคุยไม่รู้เรื่อง จึงสอบสวนพยาน ที่เป็นชาวบ้าน ที่เห็นเหตุการณ์การขนย้ายศพคนตายที่ถูกยัดใส่กระสอบไปทิ้งลงสระน้ำมาสอบสวน และสอบสวนคนขนกระสอบปุ๋ยที่ยัดศพช่วย รวมทั้งสอบสวนเจ้าของรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่บรรทุกศพไปทิ้ง ซึ่งรายละเอียดที่สอบสวนทั้งหมด ทำให้เชื้อว่านายวิชัย เป็นคนลงมือก่อเหตุฆาตรกรรม อำพรางศพนายกุ้งใส่กระสอบปุ๋ยไปทิ้งลงสะน้ำ ทางด้านทิศตะวันออกของบ้านโสกจาน
“สุดท้ายนายวิชัย ก็ยอมรับสารภาพว่า ลงมือฆ่านายกุ้งจริง เพราะคุยผิดคอกันขณะกินเหล้าด้วยกัน ด้วยการเอาจอบฟาดที่ท้ายทอยและใบหน้า จนตายคาที่ จากนั้นเอากระสอบปุ๋ยในที่เก็บของมาใส่ศพคนตาย นำไปทิ้งลงสระน้ำ โดยไปยืมรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของเพื่อนบ้านมาบรรทุกศพและให้เพื่อนบ้านช่วยยกกระสอบบรรจุศพขึ้นรถ นำศพไปทิ้ง เมื่อทิ้งศพแล้วก็กลับมาที่บ้าน อาบน้ำปะแป้ง นอนพักผ่อน กระทั่งตำรวจไปเอาตัวมาสอบสวน”