เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 10 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ ในการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 พรรคเพื่อไทยได้มีการทาบทามมาหรือยัง ว่า ตั้งแต่ที่ได้ไปคุย ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้มีการทาบทามอะไร แต่กลุ่มเราได้พูดคุย และปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่าประเทศจำเป็นจะต้องมีรัฐบาลโดยเร็ว เพราะปัญหาหลายๆ อย่าง ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมกล่าวยืนยันว่า เราจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เมื่อถามต่อว่า “กลุ่มเรา” มีสส. กี่คน นายไผ่ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะไม่ขาดแม้แต่คนเดียว มาก็มาทั้งหมด 

เมื่อถามว่า ได้มีการปรึกษากับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่นายไผ่ กล่าวว่า วันนี้เราเล็งเห็นแล้วจากการที่ได้เคยพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย เรามีนโยบายที่อยากจะผลักดันร่วมกันซึ่งก็ได้รับการสนับสนุน ที่สำคัญเราเคยทำงานด้วยกันมา ตนก็เป็นเด็กเก่าพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะทำได้ และจะทำให้ผ่านวิกฤติการเมืองและเศรษฐกิจทั้งหมด ก่อนหน้านี้ตอนที่พรรคก้าวไกลเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตนก็ได้รับการประสานจากพรรคก้าวไกล ว่าจะช่วยโหวตให้ได้หรือไม่ ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก วันนี้พวกเราก็พร้อมที่จะทำให้บ้านเมืองก้าวข้ามปัญหาตรงนี้ไป

เมื่อถามว่า การโหวตให้หมายความว่าพรรคพลังประชารัฐจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องนั้น เราคิดว่าการเข้าร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องเล็ก ทำให้ผ่านตรงนี้ไปก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน หากพรรคเพื่อไทยทำได้ดีอย่างที่พูด เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าเรามีโอกาสเราก็ทำเต็มที่ เราพร้อมตรวจสอบเต็มที่อยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า การมี 1 ใน 2 ลุง อยู่ในพรรค จะเป็นประเด็นหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เรายังไม่ได้คุยเรื่องการร่วมรัฐบาลเราพูดถึงเรื่องนโยบาย พรรคตนก็สนับสนุนอยู่แล้ว “มีลุง ไม่มีแล้ง” 

เมื่อถามย้ำว่า โหวตฟรีโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่มีการตกลงร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ไม่มีการตกลงอะไรเลย เราจะสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร รับทราบ และยินยอมแล้วหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เราคุยเรื่องนโยบายกันดีกว่า เมื่อฟังการสัมภาษณ์ของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เขาก็พร้อมที่จะนำนโยบายต่างๆของแต่ละพรรคมาทำ ตนเห็นว่าเป็นข้อดี เราก็ต้องดูกัน เพราะถ้าจะเว้นการมีรัฐบาลไป 10 เดือน สู้มีรัฐบาล 10 เดือนแล้วค่อยมาว่ากันดีกว่าไหม

เมื่อถามย้ำว่า โหวตให้โดยที่ไม่จำเป็นร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้อเสนอ ไม่มีอะไรทั้งนั้นเมื่อถามต่อว่า ได้แจ้งไปยังพรรคเพื่อไทยแล้วหรือยัง นายไผ่ กล่าวว่า ไม่ต้องแจ้ง เราก็ออกมาเต็มที่ 

เมื่อถามย้ำว่า เป็นมติของสส. ทั้งพรรคใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า “พวกเราไปกันทั้งหมด” เมื่อถามอีกว่า ทุกคนเห็นด้วยหมดแล้วใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า “พวกเราไปกันทั้งหมด” เมื่อถามว่า ไปทั้ง 40 เสียง ใช่หรือไม่นายไผ่ กล่าวย้ำว่า “พวกเราไปกันทั้งหมด”

เมื่อถามต่อว่า เป็นมติพรรคใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ณ วันนี้เป็นจุดยืน ถ้าบอกว่าเป็นมติจะดูทางการ ซึ่งเราต้องแถลงข่าว จะย้อนแย้งไม่ได้ แต่วันนี้พวกเราคุยกันแล้ว ว่าเราจะสนับสนุนให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เผลอๆ จะไปช่วยหาเสียงด้วย

เมื่อถามต่อว่า แล้วพรรคพลังประชารัฐได้อะไร นายไผ่ กล่าวว่า เรามีนโยบายหลายอย่างที่เราจะทำและไปพูดกับชาวบ้านไว้แล้ว เราก็จำเป็นจะต้องทำตามนโยบายที่พูดไว้ ชาวบ้านคาดหวังไว้ เราก็ต้องทำตามนั้น และประเทศก็เป็นผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด พวกเราเป็นสส. ต่างจังหวัด เราก็จำเป็นต้องทำให้สำเร็จ เพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า การขับเคลื่อนนโยบายจะเดินหน้าได้อย่างไร นายไผ่ กล่าวว่า เราคุยกัน วันนี้ทางพรรคเพื่อไทยพูดเองว่าถ้าได้จัดตั้งรัฐบาล นโยบายดีๆ หลายๆ อย่าง จะนำมาทำให้สำเร็จ และจากวันที่ตนได้ไปประชุมกับพรรคเพื่อไทย ได้คุยกันคร่าวๆ แล้ว ว่าพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะสนับสนุนนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ เช่นนโยบายที่ดิน ส.ป.ก. 

เมื่อถามว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะมีทางเลือกที่สามารถทำให้พรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาลได้ในภายหลังหรือไม่ นายไผ่ กล่าวยืนยันว่า เรายังไม่ได้คุยเลย และในวันนี้เราก็เห็นว่าสภาพทางการเมืองจะไปลำบาก เราจึงจำเป็นที่จะต้องเข้ามา เพื่อให้จัดมาจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน ตนคิดว่าพวกเราต้องทำแบบนี้เป็นแนวทาง

เมื่อถามว่า แม้จะเป็นฝ่ายค้านในภายหลังก็โอเคใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ยังไงก็ได้ ไม่มีข้อแม้อะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชารัฐโหวตให้ จะทำให้สว. ตัดสินใจง่ายขึ้นหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องถามสว. ดู เราคิดว่าการรอ 10 เดือนนานไป และวันนี้ปัญหาหลายๆ อย่าง ประชาชนก็ประสานมาว่าอยากให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้สักที ฝ่ายตำรวจก็กำลังจะอยู่ในช่วงเกษียณราชการ ยังไม่สามารถแต่งตั้งคนใหม่มาแทนที่ได้ มีหลายปัจจัย ที่จำเป็นต้องมีรัฐบาล สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตนเห็นนัยยะหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นที่ขึ้นลงตามการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ มันย้อนแย้งอย่างมีนัยยะ เขาก็คิดว่าเราควรทำ เป็นลักษณะของการรวมศูนย์ และกระจายออกไป กลุ่มทุน และนายทุนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าหุ้นตก เราก็จะเก็บภาษีได้น้อยลง และเราคุยกันแล้วว่าจำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาลให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า พร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยทุกคนใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า เมื่อถามว่า การโหวตในครั้งนี้พล.อ.ประวิตรจะร่วมลงคะแนนด้วยใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า “เรามาทุกคน” เมื่อถามว่า สายสัมพันธ์ของนายไผ่ กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค ที่มีกับพรรคเพื่อไทยยืนยันหรือไม่ว่าจะไม่โดนหลอกทีหลัง นายไผ่ กล่าวว่า เราไม่ได้โดนหลอก เพราะไม่ได้คุยอะไร เราไม่คาดหวัง ก็จะไม่ผิดหวัง 

เมื่อถามว่า หากโหวตให้ แล้วพรรคเพื่อไทยทาบทามให้เข้าร่วมรัฐบาลภายหลัง จะพร้อมเข้าร่วมหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า “เราพร้อมอยู่แล้ว พร้อมเต็มที่ เพราะเราก็เป็นรัฐบาลมา 4 ปีแล้ว ถ้าเราช่วยประเทศตรงไหนได้เราก็พร้อมเต็มที่”