เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 10 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรคเป็นธรรมกล่าวถึงจุดยืนของพรรคในขณะนี้ ว่า ยึดมั่นในอุดมการณ์ในระบอบประชาธิปไตย อยากเห็นพรรคการเมืองเป็นการเมืองที่เป็นอย่างตรงไปตรงมา ไม่อยากให้มีการสร้างระบอบการเมืองที่บิดเบี้ยว หากต้องเปลี่ยนขั้วและไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างน้อยกว่าแล้วไปจัดตั้งรัฐบาล ตนเห็นว่าเหตุการณืนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทยอีก ซึ่งในอดีตเคยมีหลายครั้งที่ใช้รัฐบาลที่เสียงน้อยกว่าคนได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 แต่ตอนนี้ประชาชนทุกคนเห็นว่าควรยึดมั่นในอุดมการณ์ และตนย้ำว่าจุดยืนยังเหมือนเดิม หากเสียงข้างมากมีให้กับพรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งพรรคนั้นมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามถึงกรณีเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เองไปเจรจากับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ทางพรรคเป็นธรรมได้รับการติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ไม่มีการติดต่อมา อาจเป็นเพราะพรรคเป็นธรรมมีจุดยืนมั่นคงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้

เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับข้อเสนอของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่กล่าวว่าไม่ได้เป็นการข้ามขั้วแต่เป็นการสลายขั้ว นายกัณวีร์ กล่าวว่า การสลายขั้วโดยคำนิยามคือ ไม่ใช่การสลายขั้ว แต่เป็นการจับกลุ่มของพรรคการเมือง ความจริงแล้วทุกพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมามีความชอบธรรม เพียงแต่กฎกติกาต่างๆ เราจำเป็นต้องยึดมั่น

เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยมาพูดคุยจากพรรคเป็นธรรมในการขอเสียงในการโหวตนายกฯทางพรรคมีแนวทางอย่างไรบ้าง นายกัณวีร์ กล่าวว่า ต้องดูว่าสูตรจัดตั้งรัฐบาลเป็นอย่างไร แต่ความจริงไม่ไปร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าเห็นแล้วว่ารูปแบบการจัดตั้งรัฐบาลเป็นอย่างไร หากมีพรรค 2 ลุงเข้ามา คือ พลังประชารัฐ(พปชร.)และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีการรวมเสียงกันจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรค 2 ลุงจะได้เสียงสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)มาสนับสนุนถึงจะได้ 376 เสียง ดังนั้นพรรคเป็นธรรมไม่สามารถร่วมได้

เมื่อถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยระบุว่าอาจไม่ได้มาเป็นพรรคแต่มาเป็นแบบกลุ่มการเมืองรัฐบาลพิเศษในเงื่อนไขนี้อาจไม่มี 2 ลุง ทางพรรคเป็นธรรมจะตัดสินใจอย่างไร นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนว่ายิ่งแย่ ตอนหาเสียงนั้นหาเสียงในนามพรรคและนโยบายของพรรค แต่เมื่อจะจัดตั้งรัฐบาลแล้วกล่าวว่าเป็นเรื่องปัจเจคบุคคลในการตัดสินใจได้ ตนถามกลับว่าระบอบประชาธิปไตยจะเดินต่อไปได้อย่างไร ซึ่งมองว่าควรจะเป็นมติพรรคมากกว่า

เมื่อถามยํ้าว่า จะต่างกับงูเห่าหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า คงคล้ายกัน ถ้าจะมาเป็นกลุ่มเช่นนั้น ก็ให้พรรคขับออกมากฎกติกามีอยู่ ไม่ใช่โหวตสวนมติพรรค นักการเมืองเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เพราะพี่น้องประชาชนให้อำนาจให้อำนาจเรามาเป็นผู้แทน ก็ต้องตอบแทนประชาชน

เมื่อถามว่า ทางพรรคเป็นธรรมถูกทาบทามจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ขอเป็นคนเนื้อไม่หอม หากต้องไปร่วมรัฐบาลที่มี 2 ลุง ขอแสดงจุดยืนว่าไม่ร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่า การโหวตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย พรรคเป็นธรรมต้องรอมติพรรค หรือรอมติก้าวไกล นายกัณวีร์ กล่าวว่า ก็อยากจะคุย พอได้คุยกับพรรคก้าวไกลอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ว่าสูตรการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร เราก็อยากเห็นเช่นกัน สมมติว่าหากมีพรรคสองลุง ตนคิดว่าพรรคก้าวไกลก็ไม่สามารถก้าวล่วง และไม่สามารถทราบได้ว่าพรรคก้าวไกลจะคิดอย่างไร แต่สำหรับตน ถ้ามีพรรค 2 ลุงร่วมก็คงไม่ร่วม และคิดว่าพรรคก้าวไกลคงไม่ร่วมเช่นกัน

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลโหวตนายกฯ ให้พรรคเพื่อไทย พรรคเป็นธรรมคิดอย่างไร นายกัณวีร์ กล่าวว่า ถ้ามี 2 ลุงแล้วพรรคก้าวไกลโหวตให้ตนก็ปล่อย แต่ตนจะไม่โหวต ซึ่งขอเป็นฝ่ายค้านคนเดียว

เมื่อถามว่าไม่กลัวโดดเดี่ยวใช่หรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็โดดเดี่ยวในสภา นั่งคนเดียวสบายๆ

เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย(สร.) ออกมาให้ความเห็นว่าพรรค 2 ลุง แม่ทัพหายไปแล้ว แต่ควรเลี้ยงไพร่พลไว้เป็นการส่งสัญญาณว่าให้นำพรรค 2 ลุงมาร่วมหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า อุดมการณ์ยังคงอยู่ กลไกที่ขัดขวางระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ ก็ยังคงอยู่จากสองพรรคนี้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกลไกนี้ จริงๆ ส.ว.ไม่ใช่ปัญหา แต่กลไกนี้ทำให้ระบบประชาธิปไตยไม่สามารถเดินหน้าได้  หากนำสองพรรคนี้มาร่วมอีก ก็ไม่ทราบว่าอนาคตอันใกล้จะเกิดอะไรขึ้น อาจจะมีกลไกอื่นมากกว่า ส.ว.อีกก็ได้ ฉะนั้นการตัดสินใจขณะนี้ คือการรอ ยืนยันว่าเรารออีกแปดเดือน ทำให้กลไก ส.ว.ระเหิดออกไปก่อน แล้วค่อยใช้กลไกของสภา

เมื่อถามว่า ประชาชนรอไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ขอเป็นกระบอกเสียงฝั่งส.ส. ที่เป็นทางผู้แทนและผู้รับใช้ประชาชน ถ้าเราจะรีบเร่งการจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงอนาคต หากเขาเข้าไปมีอำนาจ แล้วไปสร้างกลไกต่างๆที่ขัดขวางระบบประชาธิปไตยอีก ไม่ใช่แค่ 9-10 เดือน แต่อาจจะเป็น 10-20 ปี ถ้าเรา เอาเค้ากลับเข้ามาอีก จะยุ่งยากกว่านี้ ฉะนั้นการรอ จะทําให้ เห็นผลชัดเจนว่ารัฐบาลที่จัดตั้งได้เป็นรัฐบาลของประชาชน ขอให้รอ ตนเข้าใจภาคเอกชนและภาคประชาชนลําบาก แต่ขออีกนิด เข้าใจความอึดอัด ว่าเลือกตั้งมาแล้ว ทำไมถึงยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่เราต้องร่วมมือกันสร้างระบอบประชาธิปไตยเต็มใบให้เกิดขึ้นจริง และให้เห็นว่าประชาชนมีอำนาจจริง

เมื่อถามว่า มีแผนจะย้ายไปอยู่พรรคก้าวไกลหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ในตลาดเรายังเสนอผลผลิตที่มีคุณภาพ ให้ประชาชนเป็นผู้เลือก พรรคก้าวไกลเขาก็มีอุดมการณ์และแนวทาง พรรคเป็นธรรมก็มีเช่นกัน เราเป็นผลิตผลที่จะให้ประชาชนเลือก ว่าผลผลิตไหนจะมีคุณภาพดี ถ้าจะเทียบกันแล้ว ก็ไม่อยากยกหางตัวเอง พรรคก้าวไกลและพรรคเป็นธรรมก็เป็นสินค้า ที่จะสามารถทำให้ระบอบประชาธิปไตยและอํานาจเป็นของประชาชนก็เลือก หรือจะเลือกทั้งสองพรรคก็ได้ 

เมื่อถามว่า ถ้าสินค้าดีและมีตราที่ดีด้วยจะช่วยผลักดันนโยบายพรรคใต้ได้ดีขึ้นหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า โลโก้ของเราก็ใช้ได้ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน การจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช่เครื่องมือที่จะตัดสิน ตอนนี้เสียงเรียกร้องของประชาชนแม้ว่าจะไม่ได้ผ่านทางสภา แต่เราก็เห็นในสื่อสาธารณะ ว่าอยากเห็นประชาธิปไตยและรัฐบาลของประชาชน 

เมื่อถามว่า จะสื่อสารกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายกัณวีร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ตกผลึก ยังมีเวลาอยู่ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็เห็นพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลพูดคุยกันก็เป็นสัญญาณและตัวชี้วัดอย่างหนึ่ง ตนยังมีความหวังว่า รัฐบาลจาก 8 พรรคร่วมครั้งที่แล้ว แม้จะฉีกเอ็มโออยู่แล้ว อาจจะปรินต์ออกมาใหม่ก็ได้ เพื่อที่จะพูดคุยกันเป็นรัฐบาลของประชาชน 

เมื่อถามว่า ไม่เชื่อในแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคมีแนวคิดอย่างเดียวกันว่าควรแก้ แต่จะแก้อย่างไร ใช้กลไกใด แต่ถ้าใช้ข้ออ้างตั้งรัฐบาลโดยเร็วตนคิดว่าไม่ใช่ เพราะอำนาจของประชาชนอยู่ตรงไหน เราจะคืนอำนาจให้กับประชาชนได้อย่างไร รัฐบาลที่ไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน คงไม่สามารถคืนอำนาจให้กับประชาชนได้