วันที่ 10 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยไปขอเสียงสนับสนุนจากพรรคก้าวไกล กังวลหรือไม่ว่าจะมีปัญหาในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตว่า การที่แต่ละพรรคได้แสดงจำนงในการทำงานร่วมกันแล้ว เป็นหน้าที่ของทุกๆ พรรคที่จะต้องช่วยกันหาคะแนนเสียงเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้เกิน 376 เสียง ซึ่งเป็นสิทธิ์แต่ละพรรค ที่จะมีการโหวตภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเมื่อพรรคชาติไทยพัฒนาได้ตอบรับคำเชิญจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เราเองก็ต้องพยายามช่วยกันทำให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลในโอกาสแรกให้เร็วที่สุด ดังนั้น ไม่น่าจะเป็นปัญหา
เมื่อถามถึงข้อกังวลของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) บางส่วนออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากการที่พรรคเพื่อไทยไปขอเสียงสนับสนุนจากพรรคก้าวไกล เป็นการหลอกให้ถอยไปเป็นฝ่ายค้านปลอมๆหรือไม่ ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราต้องหาความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย จากการที่เราได้สอบถามทั้งสส. สว. ทั้งรายบุคคล กลุ่มบุคคล และพรรคการเมือง ที่เราได้ทำเปิดเผย เนื่องจากเราต้องการคำตอบที่เปิดเผยว่า ทำไมเขาถึงไม่ลงคะแนนให้ในกรณีที่เราจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจาก 4 พรรคการเมือง ว่าไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้ ไม่สามารถลงคะแนนให้ได้ มีเพียง 1 พรรคการเมือง ที่บอกว่าถ้ามีการปลดล็อกไม่แตะต้องเงื่อนไขการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เขาสามารถเข้าร่วมรัฐบาล
“เราจึงมีความจะเป็นที่จะต้องหาคะแนนเพิ่มจากพรรคอื่น ภายใต้เงื่อนไข ถ้ามีพรรคก้าวไกลอยู่ การจัดตั้งรัฐบาลจะไม่ได้คะแนน การบริหารจัดการในเรื่องนี้ เราเองจำยอมที่จะต้องทำ เราไม่เคยเกลียดพรรคก้าวไกล เราไม่เคยปฏิเสธเสียงที่พี่น้องประชาชนให้มา แต่สถานการณ์อย่างนี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เดินหน้าทำอะไรเลย ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ เท่ากับปฏิเสธความรับผิดชอบต่อประชาชน และประเทศชาติบ้านเมือง” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้น การที่เราจะแสวงหาเสียงเพิ่มเติม ก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่เราได้รับมอบหมาย ส่วนเรื่องที่สว. มีข้อกังวล หลังจากที่เราเดินหาเสียงในนามของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมอื่นๆ ที่เราประกาศไปแล้ว โดยไม่มีพรรคก้าวไกล การที่เราพูดคุยกับทุกพรรค ทุกบุคคล ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดๆ เพื่อขอคะแนนในการโหวตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การจัดตั้งรัฐบาล เพราะเราติดล็อกรัฐธรรมนูญ ซึ่งวิกฤตนี้ต้องใช้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย เราจึงพยายามที่จะขอให้ทุกพรรคทุกฝ่ายมามีส่วนร่วม ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ แต่เราก็ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุด เราเองจำยอมที่จะต้องทำ เราไม่ได้ไปเชิญพรรคก้าวไกลให้มาร่วมรัฐบาล และไม่มีพันธสัญญา ว่าจะเชิญพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลหลังจากนี้ เชื่อว่าความกังวลของสว.บางส่วนที่พูดถึงเราสามารถที่จะตอบคำถามได้ ด้วยพฤติการณ์ที่เราทำอยู่ในขณะนี้
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การไปหารือกับพรรคก้าวไกลไม่ใช่สิ่งที่ผิดปกติ ที่พรรคเพื่อไทยกำลังดำเนินการ เพราะเราไปทุกพรรคทุกฝ่าย ทั้งสส. และสว. นี่คือการปฏิบัติที่เป็นจริง ว่าเราต้องการสลายขั้วความขัดแย้ง ในทุกพรรคการเมืองยืนยันว่าการไปเมื่อวานไม่ใช่ไปเชิญพรรคก้าวไก่มาร่วมรัฐบาลเพราะเราชัดเจนอยู่แล้วว่าตั้งแต่ตอนที่แยกกันพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านพรรคเราตั้งรัฐบาลเราไปเพียงเพื่อรับฟังความเห็นเพื่อให้การตั้งรัฐบาลครั้งนี้สามารถสร้างมิติการเมืองใหม่ ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพราะไม่ได้คิดว่าถ้าเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้านจะต้องทำอะไรที่ตรงกันข้ามกันยืนยันกับก้าวไกลไป เราจึงเชื่อว่าองค์กรต่างๆที่เราจะขอความร่วมมือจะมีปัญหา
เมื่อถามว่าเมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศจะสลายขั้ว ทำไมถึงไม่ดึงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมพูดคุยตั้งรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่ได้มาเชิญให้ร่วมรัฐบาล แต่เชิญมาให้ร่วมกันโหวต แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ทุกพรรคเราไปคุยครบหมดแล้ว แต่กระบวนการต่างๆที่จะเป็นข้อสรุปต้องเป็นไปตามกรอบเวลาและวาระ
เมื่อถามว่าถ้าพรรคก้าวไกลไม่โหวตให้จะไปขอเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้หมดให้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้คุยไปตั้งแต่เมื่อวาน(9ส.ค.)แล้ว และได้พูดคุยถึงสถานการณ์พิเศษ รวมถึงเจตจำนงค์ของพรรคเพื่อไทย ให้แต่ละฝ่ายที่เราไปพูดคุย โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลไปคิดไตร่ตรอง เพราะยังมีเวลาที่จะโหวตอีกหลายวัน แต่เราพยายามทำคู่ขนานกันไปพรรคไหนพร้อม เราก็เปิดไปทีละพรรค
“จากนี้ไปถ้าพรรคไหนพร้อมเราก็เปิดได้ แต่เราไม่ได้คาดคั้นต้องตอบเราในทันที แต่ให้ แสดงเจตจำนงหรือถ้ายังไม่พร้อมก็พิสูจน์ให้เราเห็นในวันที่โหวตนายกรัฐมนตรี” นายภูมิธรรม กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หนทางจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเราพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดของประชาชนอะไรที่เป็นความต้องการส่วนใหญ่ที่เราพยายามทำได้ เช่นไปเจรจาสส.สว.ให้โหวตนายกฯให้เราให้สำเร็จ แต่ถ้าไม่สำเร็จหน้าที่ต้องตั้งรัฐบาลให้สำเร็จเราจะปล่อยให้คาราคาซังแบบนี้ไม่ได้ ก็ต้องมีทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้
เมื่อถามว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ โหวตนายกฯให้ จะดึงมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ภายใต้พรรคการเมืองที่เราพูดคุย เราสร้างความมั่นใจว่าเรามีเสียงข้างมากแล้ว ทุกพรรคมาร่วมกับเราได้ หลายพรรคก็มีเงื่อนไขไม่ร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อย สิ่งที่เราพูดคุยเบื้องต้น เราให้การรับรองว่าเราจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ส่วนจะได้รับเสียงเด็ดขาดถึง300หรือไม่ อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ พรรคเพื่อไทยมีข้อจำกัดในทางเลือกมาก เราพยายามหาทางเลือกที่ดีที่สุด บนพื้นฐานที่เป็นไปได้ หากเป็นไปไม่ได้ ทางเลือกต่อมาเราก็ต้องเลือก เชื่อว่าหากจัดตั้งรัฐบาลได้ เราจะทำเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อเรา ผลการทำงานพิสูจน์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย เรามั่นใจว่าประเทศต้องกลับมา
ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามีเวลาจนถึงวันที่17ส.ค. เพื่อรอให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุม ยืนยันว่าก่อนวันโหวตนายกฯ เราจะมีเสียงทั้งหมดให้ได้เห็นว่าสามารถเลือกนายกฯจากเราได้ม้วนเดียว
เมื่อถามถึงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ว่า “เพื่อไทยการละคร” นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณสำหรับเสียงของพี่น้องประชาชน เราเป็นผู้แทนประชาชน เป็นองค์กรทางการเมืองที่อาสามารับใช้ประชาชน เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ทุกเสียงเรารับฟัง ส่วนจะถูกใจหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฐานจิตของแต่ละคน อะไรที่เป็นประโยชน์เราก็รับมา อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ควรฟังและผ่านไป เราปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นไม่ได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราปฏิเสธความคิดของคนที่เห็นต่างไม่ได้ สิ่งที่วันนี้พรรคเพื่อไทยยืนยันคือเราต้องการสลายความขัดแย้งจริง ๆ เรามีหน้าที่ต้องทำงานพิสูจน์ความเป็นจริง และความจริงใจของเราในการแก้ไขปัญหาประเทศ แก้วิกฤติทั้งหมดความตั้งใจ และการทำงานของพรรคเพื่อไทยจะเป็นบทสรุปในอนาคต เราพูดไปแล้วว่าถ้าคิดไม่ดีต่อประเทศ หรือตัดสินใจอย่างไรก็ตาม หากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เราก็พร้อมจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เราทำ
เมื่อถามต่อว่า สส.จากพรรคก้าวไกลหลายคนได้โพสต์เฟสบุ๊กสอบถามความเห็นของประชาชนเรื่องการโหวตสนับสนุนนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การรับฟังความเห็นประกอบการตัดสินใจเป็นเรื่องที่ดี แต่ประชาชนไทยกว่า 67 ล้านคน ในแต่ละพรรคก็มีผู้สนับสนุนของตนเองที่เป็นกลุ่มก้อน เชื่อว่าคนกลุ่มที่คอยตัดสินใจในอนาคตก็มี ซึ่งเชื่อว่ามีมากด้วย เราก็รับฟัง หากพรรคก้าวไกลมีข้อเสนออย่างไรก็รับฟัง ว่าเหตุและผลที่ไม่สามารถสนับสนุนเราได้ และเราจะใช้แนวทางอื่น ๆ ในการทำงานต่อไป ไม่ได้อ้างพรรคก้าวไกล อย่าพูดในทำนองว่าเพื่อไทยเล่นละครเพื่อไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ใครจะวิจารณ์ก็วิจารณ์ไป แต่เราทำตามความเป็นจริง บนพื้นฐานการเสนอแนะของนักวิชาการ คนในวงการการเมือง เสนอให้เราทำทุกช่องทาง ทำแล้ว ไม่ได้ผลหรือได้ผลอย่างไร ก็ใช้ประกอบการจัดตั้งรัฐบาล