หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2566  อย่าถามหามิตรแท้ อย่าเห็นใครเป็นศัตรูถาวร ...*...

มันจบแล้วครับนาย น้ำลายในอดีต ของ นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไหลคืนกลับสู่ลำคอ นำ 71 สส. ไปร่วมกับ พรรคเพื่อไทย พรรคใหญ่อันดับสอง ที่มี 141 สส. สองพรรครวมกัน 212 สส. ประกาศ เป็นสารตั้งต้น เพื่อ ร่วมกันเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขพิศดาร ภูมิใจไทย ไม่เอาก้าวไกล ส่วน เพื่อไทยก็ไม่เอาสองลุง แล้ว จะปรุงรัฐบาลผสมสูตรไหน ถึง จะได้เสียงเกินครึ่ง เพื่อ เป็นเสียงข้างมากในสภาฯ ถ้า เพื่อไทยไม่เอาก้าวไกลเข้าร่วม และ ภูมิใจไทยไม่จูงสองลุงเข้ามาด้วย ...*...

ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ไม่มีใครฉลาดกว่าใคร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เงื่อนไขไม่เอาสองลุง แต่ ไม่ปฏิเสธก้าวไกล บอกว่า พรรคไหนจะมาช่วยโหวตก็ได้ เพื่อ ทำให้ได้คะแนนเสียงเพียงพอจัดตั้งรัฐบาล เท่ากับ จะใช้ฐานเสียง 8 พรรคเดิม ที่มี 312 เสียง ถ้าได้ ภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” ที่มี 71 เสียง รวมเป็น 383 เสียง ทำให้เพียงพอ ไม่ต้องงอนง้อเสียง สว. โดย ยอมยก 4 กระทรวงใหญ่เป็นเหยื่อล่อให้ภูมิใจไทย ได้แก่ เกษตรฯ คมนาคม สาธารณสุข ท่องเที่ยว ...*...

หมากนี้ไม่รอดสายตาเหยี่ยว ของ นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทย ไม่ตกลงหลุมพลางง่ายๆ ขืนยอมปล่อยให้ก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล หลังโหวตนายกรัฐมนตรีผ่านรัฐสภา ภูมิใจไทยก็ไร้ราคาทันที เพราะงั้น ถ้าจะมีภูมิใจไทยต้องไม่มีก้าวไกล และ ต้องให้พรรคสองลุงเข้าร่วมด้วย เพื่อ ช่วยให้ผ่านด่านอรหันต์ 250 สว. ภาษาหมากรุกเรียกหมากนี้ว่า หมากบังคับเดิน อยากตั้งรัฐบาลเร็ว รีบเชิญไปดื่มช็อกมิ้นต์รอบสอง ...*...

 เขียนถึงพรรคก้าวไกล ที่ ได้ 151 สส. เป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่ง ไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ ได้บทเรียนการเมืองที่สำคัญ อย่าฝันหามิตรแท้ อย่าเห็นใครเป็นศัตรูไปเสียหมด และ ต้องลดอุดมการณ์ลงมา ต้องรู้ว่า จารีต วัฒนธรรม ประเพณี ของ ประเทศไทยที่สืบทอดต่อๆกันมาหลายร้อยปี ดีเกินกว่า จะให้ไอ้อีคนไหนมาลบล้างได้แล้วครับ ...*...

ส่วน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีเพื่อไทย ที่หมายมั่นส่ง นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตประธานแสนสิริ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของไทย ให้รัฐสภาโหวต แต่เจอบทโหดของ เสี่ยชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉก่อนตายว่า ร่วมกันหลีกเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดิน ย่านทำเลทอง ซอยสารสิน ทำให้ รัฐขาดรายได้ 521 ล้านบาท แถม ยังอัพราคาที่ดิน จาก ตารางวาละ 400,000 บาท ขึ้นมาเป็น ตารางวาละเกือบ 4,000,000 บาท เกือบสิบเท่าตัว ทำให้ผู้ถือหุ้นแสนสิริเสียหาย ได้เงินปันผลจากการกำไรลดลง เพราะต้นทุนสูง ...*...

ประสา บารอน หาข่าว การซื้อขายที่ดินผืนนี้ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 401 ตารางวา ใน ราคาตารางวาละ 400,000 บาท เมื่อปี พ.ศ.2562 เป็นราคาประเมิน ของ กรมที่ดิน ที่ นำมาคำนวณการเสียภาษี โดยมี การซอยเป็น 12 เจ้าของ เป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ใช่เป็นหลีกเลี่ยงการเสียภาษี แต่ เป็นการวางแผนการเสียภาษี ตามวิธีที่กฎหมายกำหนดให้ทำได้ ส่วน ราคาซื้อจริงตารางวาละเกือบสี่ล้านบาท เป็น ราคาในตลาด ที่ ผู้ซื้อผู้ขายตกลงกันเอง  ที่ปฏิบัติกันปกติโดยทั่วไปอยู่แล้ว ...*...

ข้อที่ว่า ราคาที่ดินแพง ตารางวาละเกือบ 4 ล้านบาท ทำให้ ผู้ถือหุ้นได้ผลกระทบ จาก เงินปันผลน้อยลง เพราะ ต้นทุนสูง ที่นี่ บารอน ได้รับคำตอบจากคนวงในแสนสิริมาว่า ผู้ถือหุ้นไม่ได้รับกระทบแต่อย่างใด เพราะ มีการกำหนดกำไรไว้บนต้นทุนรวมอยู่แล้ว ถึงอย่างไร ได้กำไรเท่าเดิม แต่ ส่วนที่เพิ่ม คือ ราคาขายบ้านแสนสิริครับ ...*...

 หาก นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วิธีการวางแผนเสียภาษีแบบนี้ ที่นี่ บารอน ว่า สังคมรับได้ครับ แต่เมื่อ จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ความละเอียดอ่อนมันมี เรื่องจริยธรรม ที่ เป็นนามธรรม คือ ความเหมาะสม โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญกำหนด ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ...*...

บรรทัดนี้ บารอน ว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ควรประมาท เปลี่ยนแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีเสียใหม่ ได้ยินมาว่าถ้าชื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ ที่บัดนี้ สุขภาพฟื้นคืนมา แข็งแรงเป็นปกติแล้ว จะได้คะแนนเสียงสนับสนุนจาก สว.ง่ายกว่าเยอะ ...*...

ตีความกันไปเลอะเทอะ เรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนการพิจารณา คำร้องของ นายพรชัย เทพปัญญา นักวิชาการอิสระ นายบุญส่ง ชเลธร อาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิต และ ปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.ก้าวไกล ที่ร้องผ่าน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า การลงมติเสียงข้างมากของรัฐสภา ในการ ประชุมรัฐสภาโหวตนายกรัฐมนตรีขัดแย้งรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และ ขอให้เลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย โดย ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดประชุม นัดวินิจฉัย ไว้ว่า เป็น วันพฤหัสบดีที่ 3 ที่ผ่านมา ถึงวันเวลา ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประกาศ เลื่อนวันพิจารณาออกไป อีกครั้ง เป็นวันพุธที่ 16 นี้ ...*...

ประสา บารอน หาข่าว ไม่มีอะไรในกอไผ่ และไม่มีนัยทางการเมืองใดๆ หรือ ไม่มีใบสั่งใดๆทั้งสิ้น สาเหตุแท้จริง ศาลรัฐธรรมนูญ มีกำหนดการเดิมไว้ล่วงหน้าแล้วว่า วันที่ 7 – 8 – 9 สิงหาคม มีงานสัมมนา และกลับมา วันพฤหัสบดีที่ 10 นี้ มีนัดสำคัญระหว่าง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษา จะร่วมกัน ประชุมเตรียมการรับมือเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงขอเลื่อนการวินิจฉัยตามคำร้อง ไปเป็นวันพุธที่ 16 นี้ เท่านั้นเอง

ที่มา:บารอน (9/8/66)