“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ภายใต้การกุมบังเหียนของ เปป กวาดิโอลา นายใหญ่สมองเพชรที่ส่งตรงมาจากแดน“กระทิงดุ” เริ่มสะดุดให้เห็นหลังไม่ชนะใครมา6นัดติดต่อกัน รวมทุกถ้วยทุกรายการ นายใหญ่วัย45ปีเจอสถิติเลวร้ายที่สุดในอาชีพกุนซือ ทุบสถิติไร้ชนะ5นัดติดต่อกัน (เสมอ3เกม และแพ้3เกม)ในสมัยคุมทีมบาร์เซโลนา ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-ถึงเดือนมีนาคม ในปี2009 ชัยชนะของขุนพล “ไก่เดือยทอง” ทอตแนท ฮอทสเปอร์ ที่มีเหนือเหล่าแข้ง “เรือใบ”เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากทำให้ เปป กวาร์ดิโอลา เสียสถิติไม่เคยแพ้ใครนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมในอังกฤษแล้ว นี่ยังเป็นอีกครั้งที่เขาต้องเสียท่าต่อการวางหมากของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ที่เคยยัดเยียดความปราชัยหนแรกในฐานะโค้ชใหญ่บาร์เซโลนา เมื่อครั้งคุมทีม เอสปันญอล ในปี2009 ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็น กุนซือแห่งยุคอย่าง เปป ไม่ชนะติดต่อกันเช่นนี้ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาเพิ่งเข้ามาทำ แมนฯซิตี ได้เพียง 4 เดือน นักเตะยังต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นอีกสักพัก ผลงานในสนามถึงจะเข้าที่เขาทางอย่างที่ควร บวกกับประเด็นที่ว่า ขาด เควิน เดอ บรอยน์ หัวใจสำคัญในแนวรุก ไปในช่วงแรกทำให้เกมบุกดรอปลงไปจากเดิม แถม “กุน” อเกวโร ยังเท้าบอร์ดมา4นัดติด ก็คงเป็นเหตุผลที่พอจะฟังขึ้นว่า “เรือใบ” ฟอร์มเป๋ไปเล็กน้อย ซึ่งสิ่งคือเรื่องที่ “เปป” ต้องรีบแก้ไข แน่นอนว่าเขาอาจจะดู ‘ใหม่’ กับ พรีเมียร์ลีก แต่ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในอดีตที่ผ่านมามัน คุมทีมแล้วการันตีแชมป์ ทำให้แฟนๆต่างคาดหวังในตัวเขาค่อนข้างมากแถมผลงานในช่วงแรกก็ร้อนแรงเหลือเกิน จึงไม่แปลกใจที่จะโดน สื่อในอังกฤษ จัดการรับน้องไปเรียบร้อยแล้ว ผ่านมาถึงตอนนี้ผมเชื่อว่า เปป เจองานหนักกว่าสมัยคุมทีมใน บุนเดสลีกา และลา ลีกา เนื่องจากระบบการเล่นที่ต่างจากเดิม สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แฟนบอลยุคโซเชียลที่จับตาทุกความเคลื่อนไหว ไหนจะบรรดาสื่อที่พร้อมโจมตีได้ทุกเมื่อ พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่แค่ใครมาคุมก็ได้ เชื่อว่าหลังจากนี้เราจะได้รับชม ‘กึ๋น’ ที่แท้จริงของ เป๊ป กันแล้วล่ะว่าจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ดีขนาดไหน