นายกฯเยี่ยมชมการประชาสัมพันธ์งาน “จัดงาน“ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ปี 2566 พร้อมปลุกกระแสคนไทยอุดหนุนสินค้าโอทอป ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้-กระจายรายได้สู่ชุมชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม ด้านพช.เดินหน้าพัฒนาต่อยอดด้านช่องทางการตลาดผู้ประกอบการ OTOP รุกเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งยั่งยืนด้วยนวัตกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น

วันที่ 8 ส.ค.66 ณ โถงกลางตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชูชีพ พงษ์ไชย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนและนางสาวณัฐนิช อินทสระ ผอ.สำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน “จัดงาน“ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ปี 2566 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด” ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพปวงประชาอย่างยั่งยืน” ระหว่างวันที่ “12-20 สิงหาคมนี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ต่าง ๆ ได้แก่ กระเป๋าหนังใบฉำฉา ใบจามจุรี (ฉำฉา) กระเป๋าหนังใบบัว กระเป๋าหนังใบไผ่ กระเป๋าหนังกาบกล้วย กาบกล้วยของกลุ่มผลิตภัณฑ์ศิรดา จังหวัดลำปาง กระเป๋ากาบกล้วยหนังทดแทนของกลุ่มตานีสยาม จังหวัดราชบุรี ผ้าปาเต๊ะที่สร้างสรรค์โดยกลุ่มซาโลมาปาเต๊ะและกลุ่มนินา ปาเต๊ะ จังหวัดนราธิวาส กลุ่มรายาบาติก กลุ่มบาติก เดอ นารา ปัตตานี กลุ่มวิสาหกิจชุมชนไฑบาติกเขาคราม  กระบี่ และกลุ่ม ชลธี บาย เก๋บาติก   กระบี่ และผ้าทอย้อมครามของกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านคำประมง สกลนคร เป็นต้น

โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเชื่อมั่นและชื่นชมในศักยภาพของคนไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อเพิ่มมูลค่า นับเป็นความสำเร็จในการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับชุมชนในการนำความรู้และทรัพยากรในพื้นที่มาผลิตเป็นสินค้าและบริการ ประชาชนมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการพัฒนา ซึ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค สามารถสร้างรายได้ กระจายรายได้สู่ชุมชน สนับสนุนสินค้าชุมชน และยกระดับวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ร่วมมือกันพัฒนาสินค้า OTOP ให้มีความก้าวหน้า มั่นคง และยั่งยืน สินค้ามีความสวยงามและมีมาตรฐาน พร้อมกับแสดงความชื่นชมในผลิตภัณฑ์และการออกแบบที่มีความทันสมัยมากขึ้น มีการประยุกต์การออกแบบลวดลายใหม่ ๆ เป็นสินค้าใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและมีความสวยงาม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย โดยได้เน้นย้ำการปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลรักษาผ้าไทยให้ง่ายขึ้น แต่ต้องคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของผ้าไทยด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสร้างการรับรู้ ช่วยกันเผยแพร่ภูมิปัญญาไทยสู่ต่างชาติและประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และร่วมมือกันส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการให้มีศักยภาพและพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดหาช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและสร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึง อันจะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจชุมชนที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และการมีงานทำให้กับประชาชน ซึ่งสามารถช่วยกระจายรายได้ให้กับเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศมากยิ่งขึ้น  

นอกจากนี้ ภายในงาน ยังได้ร่วมเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายและสิ่งทอ ต่อยอดการพัฒนาลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการประกาศศักดาและเชิดชูคุณค่าของผ้าไทย ให้ได้เผยแพร่ออกสู่สายตาชาวโลก และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน พร้อมสร้างความภาคภูมิใจให้กับช่างฝีมือและดีไซเนอร์ไทย ขณะเดียวกัน ยังเป็นการขับเคลื่อนพัฒนาต่อยอดด้านช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ OTOP เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งอย่างสมดุลและยั่งยืนด้วยนวัตกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น และตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

ขณะที่นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาจัดงานแบบเต็มรูปแบบบนพื้นที่ 60,000 ตารางเมตรมีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานกว่า 2,000 ราย โดยภายในงานครอบคลุมกิจกรรมหลัก ดังนี้

1.นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นที่มาของศิลปาชีพ

2.การจัดแสดงส่วนที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ โซนศิลปิน OTOP โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก โซน First Lady และโซนนิทรรศการเส้นไหม

3.การจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ

4.การจัดแสดงนิทรรศการโซนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย 5.การจำหน่ายสินค้า OTOP ทั้ง 5 ประเภท OTOP : KBO / OTOP Brand name / OTOP Premium / OTOP Trader / OTOP ชวนชิม รวมถึงผักและผลไม้

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการจากหน่วยงานภาคี และกิจกรรมการแสดงความบ้นเทิง เช่น การแสดงมินิคอนเสิร์ต จากศิลปินชื่อดัง ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขายอีกมากมาย

“12 – 20 สิงหาคมนี้ ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาชม ชิม ช้อป และร่วมภาคภูมิใจไปกับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะผ้าไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส และสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี กันนะครับ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้าย