วันที่ 8 สิงหาคม 2566 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ประธานโครงการภาคเอกชนในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ผู้แทนเครือข่ายเอกชน นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดโครงการพัฒนาอุทยานเบญจสิริ พร้อมจัดการแสดงม่านน้ำ ‘แม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณ’ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา

นายชัชชาติ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้ร่วมงานในการรวมใจเป็นหนึ่ง เพื่อจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม โดยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ สำหรับพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ที่ทรงบำเพ็ญเพื่อพสกนิกรมาโดยตลอด

โดยกรุงเทพมหานครมีสวนสำคัญชื่อว่า อุทยานเบญจสิริ สร้างเมื่อปี 2535 เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ 60 พรรษา เพื่อสำนึกพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงทำเพื่อคนไทย

การปรับปรุงสวนเบญจสิริในครั้งนี้ กทม.เป็นผู้ทำงานโดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนจำนวนมาก เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคีเครือข่ายภาคเอกชนมากกว่า 50 องค์กร เพื่อร่วมกันปรับภูมิทัศน์ ภูมิสถาปัตยกรรม พื้นที่สันทนาการ ให้คงไว้ซึ่งความเขียวขจีตามวัตถุประสงค์เดิมของการสร้างสวนดังกล่าว นอกจากพื้นที่สวยงามของสวนแล้ว ยังมีศิลปะ ปฏิมากรรมทรงคุณค่าซ่อนอยู่มากมายตามมุมต่าง ๆ ของสวน ซึ่งเป็นฝีมือของศิลปินระดับประเทศไทยและระดับโลก รวมถึงปฏิมากรรมรูปปั้นเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบรมรูปสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประทับยืนพระองค์ขนาด 3 เมตร ถ่ายทอดความงดงามอย่างลึกซึ้ง 

การปรับปรุงครั้งนี้ กทม.ต้องการคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณเดิมของสวนไว้ เช่น ความเป็นสวนชุมชน ความเขียวขจี ความสวยงามด้านปฏิมากรรม นอกจากนี้ จะมีโครงการแสดงน้ำพุดนตรี จัดแสดงม่านน้ำ แม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม ประชาชนทุกคนสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย งานจะแสดงวันละ 3 รอบเวลา 19.00 น. 20.00 น. 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 11-31 สิงหาคม เชื่อว่าประชาชนจะมาล้นหลาม เพราะเป็นกิจกรรมที่ดี และเพิ่มพื้นที่สาธารณะให้แก่ประชาชน

คุณหญิงศศิมา กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการจัดงานครั้งนี้ ว่า ในฐานะพสกนิกรไทย รู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติให้เป็นประธานภาคเอกชน ในการปรับปรุงพัฒนาสวนเบญจสิริ เพื่อให้เป็นอุทยานที่ร่มรื่น งดงามไปด้วยศิลปะ ตลอดจนเป็นพื้นที่นันทนาการและสันทนาการ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โครงการปรับปรุงในครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา 12 สิงหาคม 2566 ในรูปแบบการแสดงม่านน้ำแห่งพระกรุณาธิคุณ แม่แห่งแผ่นดิน ระหว่างวันที่ 11-31 สิงหาคม 2566 และตลอดเดือนธันวาคม เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ จะมีการแสดงม่านน้ำแห่งพระมหากรุณาธิคุณพ่อของแผ่นดิน เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเบญจสิริ โดยรูปแบบการแสดงม่านดังกล่าว จะแสดงด้วยม่านน้ำดนตรีประกอบแสง สี เสียง ที่งดงาม ด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์ และนำเสนอพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ พระราชกรณียกิจ เพื่อประชาราษฏร์ จึงขอเชิญชวนชาวไทยและชาวต่างชาติชมการแสดงดังกล่าวที่อุทยานเบญจสิริ

นายอภิชัย กล่าวถึงความสำคัญในการจัดงานด้านการท่องเที่ยว ว่า ในโอกาสเฉลิมพระชนพรรษา 91 พรรษา ในนามการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีความยินดีที่ภาคเอกชนกว่า 50 หน่วยงาน ชวนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกันจัดงาน เป็นโอกาสดีที่การท่องเที่ยวฯจะนำเสนอพระราชกรณียกิจ เช่น การมุ่งส่งเสริมการอาชีพ ผ้าไทยสู่สากล จะมีการจัดงานผ้าไหมไปเส้นทางโลกด้วย เพื่อส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นที่รู้จัก นอกจากแสดงออกในสำนึกพระมหากรุณาคุณแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ให้กทม. เพื่อเสนอเรื่องราวไลฟ์สไตล์ย่านต่าง ๆ ให้โดดเด่น สำหรับการท่องเที่ยวฯ ยินดีสนับสนุนกทม. เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืนต่อไป

นางสาวศุภลักษณ์ กล่าวว่า แรงบัลดาลใจเกิดจาก พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” เป็นคำที่กินใจ พระองค์อายุ 91 ปีแล้ว ใครจะทำให้ท่าน คนรุ่นใหม่ไม่มีโอกาสรู้ว่าคืออะไร เลยคิดว่าอยากจะสวนกระแส สร้างความรักความสามัคคีขึ้น ในสวนแห่งนั้นมีศิลปะทรงคุณค่ามาก มีบ่อใหญ่รับน้ำฝน ตนอยากทำให้สวยงาม จึงเชิญพันธมิตรกว่า 50 หน่วยงาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้รู้ว่าท่านมีพระมหากรุณาธิคุณต่อคนไทยอย่างไร จึงทำม่านน้ำแสดงพระราชกรณียกิจ เพื่อรวมพลังแห่งความรัก สามัคคี

การจัดงานและการปรับปรุงสวนดังกล่าว ต้องใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ ใช้ผู้เชี่ยวชาญ 25 คนช่วยสร้างม่านน้ำในบ่อ ปรับสภาพน้ำ ไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อม ทำงาน 18 ชั่วโมงต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเทียบเท่าสากล สำหรับม่านน้ำพุมีความสูง 40 เมตร ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ที่นำมาเรียบเรียงใหม่ เสนอภาพที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อทำให้สมพระเกียรติที่สุด โดยใช้งบประมาณ 100 กว่าล้านบาท ในอนาคตสามารถต่อยอดให้อุทยานเบญจสิริเป็นสถานที่แสดงศิลปะกลางแจ้งเหมือนที่ลอนดอน

ส่วนน้ำพุสามารถยกออกได้ หรือเก็บไว้ใช้ได้หลายงาน เช่น งานลอยกระทง งานดอกไม้ ดนตรี ความรัก เคานต์ดาวน์ และสามารถออกแบบปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเทศกาลต่าง ๆ ได้ สำหรับการจัดงานที่จะมาถึง ยังมีนักดนตรี นักร้อง หลายคนมาร่วมแสดงภายในงานอีกด้วย