วันที่ 8 ส.ค.2566 เวลา 10.00 0 น.ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย คิดว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากสว.หรือไม่ว่า หากไม่มีมาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกล สว.ได้คุยกันมากในหลายกลุ่มหลายฝ่ายค่อนข้างเห็นพ้องเป็นเสียงส่วนใหญ่ว่า ถ้าไม่มีเรื่องดังกล่าวแล้ว จะโหวตให้ใครก็ตามที่รวมเสียงส่วนใหญ่ได้ ซึ่งขณะนี้หากเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคแกนนำรวมกันได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งเชื่อว่า สว. จะโหวตให้ เพราะประเด็นที่เป็นเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขมาตรา 112 หรือพรรคก้าวไกล หมดไปแล้ว และสว. อยากให้มีรัฐบาลโดยเร็ว และอยากรีบโหวตโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาราคาซัง มีผลกระทบมาถึง สว.ด้วย ทำให้ประชาชนทั่วไปมองว่าสว. มีส่วนในการทำให้การตั้งรัฐบาลล่าช้าหรือสว. อาจเป็นอุปสรรค ในการจัดตั้งการบริหารประเทศ
"ประเด็นเหล่านี้ สว. หลายคน โดยเฉพาะสว.ที่อยู่ต่างจังหวัดได้แลกเปลี่ยนกันว่าอยากให้โหวตและมีรัฐบาลโดยเร็วและอยากให้แก้ปัญหาให้ประชาชนและไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือพุ่งเป้าไปที่สว. รวมทั้งอยากเรียนกับพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำด้วยว่าในระหว่างที่คุณหาเสียงกันนั้นจะปราศรัยโจมตีกันอย่างไร หรือกล่าวหาใคร อย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นั่นเป็นเรื่องตอนหาเสียง แต่ขณะนี้ เป็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล เป็นวาระในการแก้ปัญหาของประชาชน เมื่อคุณไม่สามารถมีเสียงได้เบ็ดเสร็จโดยพรรคเดียว จำเป็นต้องประนอมอำนาจในหลายพรรค ตกลงกันให้ได้ ได้บ้างเสียกันบ้าง โดยทำอย่างไรให้การจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว อย่าตั้งแง่จนเกินไป จนทำให้ประเทศสะดุดหยุดชะงัก ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นที่ตระหนักของสว.ทั้งสิ้น และยิ่งมีรัฐบาลเร็วเท่าไร จะทำให้ประเทศเกิดความเชื่อมั่นมากเท่านั้น ยืนยันว่าสว.ไม่เป็นอุปสรรคและปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น" นายวันชัย กล่าว
นายวันชัย กล่าวว่า อย่ามัวแบ่งฝักแบ่งฝ่ายว่ากลุ่มนั้นเป็นเผด็จการหรือสืบทอดอำนาจ เพราะจบตั้งแต่วันที่พวกคุณได้รับผลเลือกตั้งและทุกคนมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นไม่ว่าจะมาจากพรรคไหนมีเกียรติมีศักดิ์ศรีมาจากประชาชนเช่นกัน ดังนั้นขอให้ลดละเลิกในเรื่องที่กล่าวหากัน รีบตกลงกันให้ได้ และรีบเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่สว.พร้อมที่จะสนับสนุนเสียงคนที่ได้เสียงข้างมากและพร้อมจะโหวตให้ เพื่อให้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
เมื่อถามว่ากรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เคยพูดเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 และขณะนี้โดนโจมตีเรื่องการเลี่ยงภาษีที่ดิน สว.จะนำไปพิจารณาหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า หลักการใครรวมเสียงข้างมากเราให้กับพรรคการเมืองพรรคนั้นและคนๆ นั้น ส่วนประเด็นว่านายกฯ ที่เสนอมานั้นเป็นใครอย่างไรเป็นเรื่องของหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะตอนที่มีการปราศรัยหาเสียง อาจจะพูดอะไรที่เลยเถิดไปแต่จากที่ตนฟังการแถลงของพรรคเพื่อไทย พูดชัดเจนว่าเรื่องแก้มาตรา 112 พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบาย ดังนั้นประเด็นเหล่านี้ตกไป ส่วนจะมี สว. บางคนตั้งแง่เป็นเรื่องของท่าน แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ตนฟัง ใครรวมเสียงข้างมากได้ ตอนนี้ สว. พร้อมสนับสนุน ไม่ได้มองตัวบุคคลเป็นสำคัญ เพราะเชื่อว่าคนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯต้องผ่านการกลั่นกรองจากพรรคการเมืองและองค์กรต่างๆ ที่ตรวจสอบแล้ว แม้จะได้เป็นนายกฯ พรรคกการเมืองต่างๆ ต้องตรวจสอบหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นเรื่องในอนาคต
เมื่อถามว่า หากการตั้งรัฐบาลไม่มีพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย จะมีผลต่อเสียงสนับสนุนจากสว.หรือไม่ นายวันชัย กล่าวย้ำว่า เท่าที่ได้พูดคุยเมื่อเช้ากับเพื่อน สว. ประเด็นเหล่านี้ ถูกตัดออกไป ไม่ได้มองเรื่องพรรคหรือบุคคลเป็นที่ตั้ง ไม่เช่นนั้น สว.จะกลายเป็นพรรคการเมือง ว่าเข้าข้างพรรคนั้น พรรคนี้ แต่ขณะนี้เราเข้าข้างประชาชน เสียงส่วนใหญ่
เมื่อถามถึงกระแสข่าวสว.ตีตกชื่อนายเศรษฐา ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลตกไปอยู่กับพรรคอันดับสาม อันดับสี่ และผลักดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯ นายวันชัย กล่าวว่าเป็นข้อวิเคราะห์ทางการเมืองของนักวิชาการ และคนวิเคราะห์การเมืองบางคน แต่โดยหลักการเท่าที่คุยกัน ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาตัวบุคคลเป็นตัวตั้ง ยึดหลักการเป็นสำคัญ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่า กระสุนตกที่สว. และสว.จะเป็นอุปสรรคจัดตั้งรัฐบาล และผลจากการโหวตรอบที่แล้วเพื่อนสว.รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นหากรีบโหวตได้ และมีรัฐบาลโดยเร็ว สว. จะไม่ตกเป็นเป้าและจะได้ไม่เป็นเมืองกระสุนตกที่ทำให้ประชาชนนำประเด็นต่างๆ มากล่าวหา และเราอยากให้ข้อครหานั้นหมดไปและอยากมีรัฐบาลเดินหน้าประเทศต่อไป
เมื่อถามย้ำกว่าการโหวตนายกฯรอบหน้า จะได้นายกฯ คนที่ 30 แน่นอนหรือไม่ นายวันชัย กล่าวโดยเชื่อว่าน่าจะได้ เว้นไว้แต่มีอุปสรรคปัญหาอื่นใด อันที่เกิดจากพรรคการเมืองและพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล หรือปัญหากฎหมายอื่นใดซึ่งตนไม่รู้ แต่โดยหลักแล้วใครรวมเสียงส่วนใหญ่ถ้าไม่สะดุดขาตัวเอง เชื่อว่าการโหวตนายกฯจะเรียบร้อย และคงมีรัฐบาลตามความต้องการของประชาชน
เมื่อถามอีกว่า หากพรรคก้าวไกลโหวตให้พรรคเพื่อไทย สว.ติดใจหรือไม่ หรือปล่อยเป็นเอกสิทธิ์ของสส.พรรคก้าวไกล นายวันชัย กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์และการแสดงออกถึงหลักประชาธิปไตยของพรรคก้าวไกลซึ่งไม่เป็นประเด็นที่สว.ตั้งแง่ ว่า เขาจะฮั้วกันภายหลังหรือรวมกันภายหลัง เพราะสว. ไม่รู้ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยคงจะตระหนักปัญหาต่างๆ ดีอยู่แล้วและคงรู้ด้วยว่า ควรจะทำอะไรในสถานการณ์อย่างนี้ และจากที่ฟังการแถลงข่าว ตนพูดมาตลอดว่า พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์ ศักยภาพ และสามารถประสานทั้งพรรคการเมือง และ สว.ได้ตนเชื่อมั่นว่าเขาคงจะดำเนินการได้บรรลุผลในการจัดตั้งรัฐบาลได้