วันที่ 7 ส.ค. 66 เวลา 09.30 น. ที่ ศาลอาญา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง (โจทก์) พร้อมด้วย นายอนัตต์ชัย ชัยเดช ทนายความ เดินทางมาฟังการไต่สวนมูลฟ้อง คดีฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม (จำเลย) 

นายชูวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการที่ นายเศรษฐา จะยื่นฟ้องดำเนินคดีหมิ่นประมาทตนในวันนี้ รู้สึกขนลุก เพราะตอนนี้ตนมี 21 คดีแล้ว และคดีนี้เป็นคดีที่ตนทำเพื่อชาติบ้านเมือง การที่ นายเศรษฐา  เสนอตัวเองเป็นนายกฯ ซึ่งเป็นนายทุน ใช้รถไฟความเร็วสูงสาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น การที่ นายเศรษฐา กำลังจะขึ้นมาเป็นนายกฯ คุณสมบัติของ นายเศรษฐา เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถตรวจสอบได้ โดยนายกรัฐมนตรีต้องมีความสื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 เมื่อมีพฤติการณ์ซ่อนเร้น พฤติกรรมของ นายเศรษฐา เป็นคู่ซื้อ-ขาย เป็นคู่สัญญากันในการซื้อขาย ซึ่งตนเองก็เตรียมปรึกษาทนายความว่าจะฟ้องกลับ นายเศรษฐา ดีหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเดียวของนายเศรษฐา ภายในสัปดานี้ตนจะเปิดอีพี 2 นายเศรษฐา สามารถชี้แจง และออกมาตอบได้ แต่กลับเงียบเงียบ ใช้การฟ้องปิดปากแทน วันนี้ช่วงบ่าย ตนจะเดินทางไป ปปช. จะเปิดหลักฐานให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ และยื่นกล่าวโทษเจ้าพนักงานที่ดินเขตพระนคร ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยการสนับสนุนจาก บมจ.แสนสิริ และผู้ขายที่ดิน ทั้งนี้ เรื่องจริยธรรม เอาแค่เป็น สส. ไม่เป็นนายกฯ เสียบบัตรแทนกันก็ติดคุกแล้ว ทั้งที่เป็นเรื่องจริยธรรม ดังนั้น คนเป็นนายกฯ ต้องมีจริยธรรม 100% 

ส่วนที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ออกมาบอกว่า กฎหมายสามารถเลี่ยงได้ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจคำว่าวางแผนภาษี กับการโกงภาษี การวางแผนจะไม่จ่ายภาษี 500 ล้าน โดยมาตกลงกัน ไม่ต้องจ่าย และมีอะไรมาตอบแทนกัน ใช้วิธีโอนทีละวัน วันละคน เรื่องนี้ทำนิติกรรมคนเดียวไม่ได้ ต้องทำหลายคน ยืนยันแบบนี้ผิดกฎหมาย “ถ้ามีสมองหลบเลี่ยงภาษีแบบนี้ แล้วจะเป็นนายกรัฐมนตรีเหรอ ผมกลัวตายเลย” นายชูวิทย์กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า อยากให้รอดูหลักฐานของตน เพราะไม่ใช่แค่แสนศิริที่ทำเป็นครั้งแรก ศาลอาญาคดีชำนัญพิเศษ เคยตัดสินกรณีลักษณะนี้มาก่อนแล้ว ในคดีคล้ายคลึงกัน การทำหนังสือจากสรรพากร ที่ดิน ห้ามทำ โดยโทษที่กรมสรรพากรเคยฟันดาบ มีโทษถึง 7 เดือนขึ้นไป ต่อ 1 กรรม กรณีนายเศรษฐา 12 กรรม ก็บวกไป ทั้งนี้ ตนชอบขุด เป็นนักแฉ จะขุดหลุมพรางไว้

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า คนใส่สูท เวลาจะปล้นไม่ชักปืน แต่ใช้กฎหมายเว้นวรรค เป็นศรีธนญชัย  ภาษี 500 ล้าน ไม่ได้จ่ายแม้แต่บาทเดียว แล้วเชิดหน้าชูตา บอกว่าไม่รู้เรื่อง แบบนี้เหมาะสมเป็นนายกฯ หรือไม่

ทนายอนัตต์ชัย กล่าวว่า วิธีการโอนที่ทำให้ภาษีลดลง มันมีช่องของมัน ตนอยากบอกว่า การซื้อขายที่ดิน มีการเจรจาตกลงกัน รู้อยู่แล้วว่าต้องโอนครบทุกคน โอนเพื่อจ่ายภาษีน้อยลง ต้องมาดูเจตนา ตอนนี้ยังตอบไม่ได้