นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

ที่ดินตารางวาละ 4 ล้าน

แพงที่สุด ที่ประเทศไทยเคยมีมา

เป็นราคาที่ดินบนถนนสารสิน ลุมพินี ที่บริษัทพัฒนาที่ดินใหญ่อย่างแสนสิริซื้อมาตั้งแต่ ปี 2562

เนื้อที่ 399.7 ตารางวา ราคารวม 1,570 ล้านบาท มีบันทึกที่กรมที่ดินในราคาซื้อขายนี้

จะเป็นราคาปั่น หรือราคาอะไรที่สูงขนาดนั้น

ในขณะที่ราคาประเมินปัจจุบันเพียงตารางวาละ 1 ล้านบาท

อาจจะบอกว่า “เป็นราคาซื้อขาย” ย่อมสูงกว่าราคาประเมินอยู่แล้ว

แต่แสนสิริจะยอมซื้อราคาที่สูงเกินราคาตลาดถึงขนาดนั้นหรือ?

แสนสิริตอบโต้ว่า จ่ายเป็นเงินสดแค่ 301,000 บาท นอกนั้นจ่ายเป็นเช็ค และแคชเชียร์เช็ค

ใครมีหุ้นแสนสิริเพียง 10,000 หุ้น มูลค่าตลาดปัจจุบัน แค่ 18,500 บาท

ช่วยยื่นตรวจสอบ บมจ.แสนสิริ ว่าที่จ่ายเช็ค เป็นเช็คชื่อใคร? ธนาคารอะไร? จ่ายวันไหน? จำนวนเงินเท่าไหร่?

เอาสำเนาเช็คมายืนยันหน่อย เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์จะปิดบังไม่ได้

เพราะจริงๆ แล้ว ชื่อบนเช็คไม่ใช่ชื่อของ “ผู้ขาย” ครับ

นั่นคือกุญแจไขคำตอบว่า ค่ามัดจำหลายร้อยล้านบาทที่ระบุไว้ที่กรมที่ดิน ระบุจ่ายเช็คเป็นชื่อคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน

เขาเรียกว่า “เงินทอน” ไม่ใช่ “เงินมัดจำ”

แน่นอนว่าแสนสิริคงไม่ได้จ่ายเป็นเงินสดมากขนาดนั้นอยู่แล้ว ต้องชำระเป็นเช็คตามระบบของบริษัทใหญ่

แม้แต่คนปกติก็ไม่มีใครนำเงินสดมากอย่างนั้นไปใช้มัดจำที่ดิน

แต่เช็คมีกี่รายการ กี่ใบ ใบละเท่าไหร่ เป็นชื่อใคร?

นี่คือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และอดีตผู้บริหารใหญ่ คือคนที่กำลังจะเป็นนายกฯ ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้

นายเศรษฐาจะยืนกรานอย่างเดียวว่าเป็นแค่ “กรรมการผู้จัดการ” ไม่เกี่ยวกับตัวเอง ทำหน้าที่อนุมัติเฉยๆ

ก็เหมือนกับต่อไปเป็น “นายกรัฐมนตรี” เวลามีทุจริตจะบอกได้ไหมว่า เป็นคนเซ็นอนุมัติเฉยๆ ที่เหลือลูกน้องไปดำเนินการต่อ

ไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกับคดี “จำนำข้าว” ที่อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ต้องหนีคดีถึงทุกวันนี้ แล้วทิ้งลูกน้องไปติดคุกกันเป็นแถว

เรียนรู้ให้ดีตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นนายกฯ นะครับ

หรือกลับไปเป็นพ่อค้าที่ดินดีกว่า

วันไหนเป็นนายกฯ ไม่รอดหรอกครับ