คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย

ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯกำลังจะมีขึ้นในปีค.ศ. 2024 ซึ่งเวลาใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งยังคงเหลืออีกแค่เพียง 15 เดือนเท่านั้น

ทั้งนี้ขบวนการแข่งขันของผู้สมัครแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน โดยขั้นตอนแรกเรียกว่า “การแข่งขันไพรมารี ที่นักการเมืองแต่ละพรรคจะเริ่มแข่งขันกันเองในพรรค เพื่อให้ตนเองได้รับเลือกเข้าไปเป็นตัวแทนของพรรคเสียก่อน และขั้นตอนสุดท้ายเรียกว่าการเลือกตั้งทั่วไป โดยตัวแทนของแต่ละพรรคจะต้องลงแข่งขันต่อสู้ เพื่อช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน ปีค.ศ.2024

สำหรับการแข่งขันไพรมารีจะมีขึ้นตามรัฐต่างๆ โดยไพรมารีของพรรครีพับลิกันจะเริ่มต้นที่รัฐไอโอวาในวันที่ 15 มกราคม 2024 ส่วนไพรมารีของพรรคเดโมแครตจะมีขึ้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2024 ที่รัฐเซาท์แคโรไลนา

ทว่าขณะนี้นักการเมืองของพรรคการเมืองยักษ์ใหญ่สองพรรคนั่นก็คือ “พรรครีพับลิกัน”และ “พรรคเดโมแครต” ต่างก็ออกมาเร่งรณรงค์หาเสียง เพื่อต้องการที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนของพรรคกันอย่างเข้มข้น!!!

สำหรับค่ายพรรคเดโมแครตขณะนี้มีผู้ที่ลงแข่งขันสามคนด้วยกันนั่นก็คือ “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ที่ร่วมทีมกับ “รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส” โดยมีผู้ที่ออกมาประกาศเข้าลงแข่งขันท้าชิงสองคนด้วยกันอันได้แก่ “โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี”และ “มาเรียนน์ วิลเลียมสัน”

เมื่อมองในภาพรวมสำหรับการแข่งขันเพื่อเข้าไปเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตกันแล้วนั้น จะเห็นได้ค่อนข้างเด่นชัดว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีความได้เปรียบค่อนข้างสูง เนื่องจากมีทั้งเงินในกองทุนหาเสียงมากถึง 74 ล้านดอลลาร์แถมยังเป็นที่รู้จักกันดี ส่วนผู้ท้าทายทั้งสองคนโอกาสที่จะเอาชนะนับว่ายากมาก

ทั้งนี้ผู้แข่งขัน “โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี” อายุ 69 ปี เป็นหลานชายของ “อดีตอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี” และเป็นบุตรชายของนักการเมืองชื่อดัง “โรเบิร์ต เคนเนดี” นั่นเอง

สำหรับมาเรียนน์ วิลเลียมสัน ขณะนี้มีอายุ 70 ปีเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเธอก็เคยเข้าลงแข่งขันเพื่อต้องการเป็นตัวแทนของพรรคมาก่อนแล้วสองครั้งสองคราด้วยกัน แต่ก็ยังไม่เคยไปถึงดวงดาวเลยแม้แต่คราวเดียว!!!

โดยขณะนี้ค่ายพรรครีพับลิกันฝั่งตรงข้าม มีผู้ที่ออกมาป่าวประกาศต้องการที่จะเข้าไปแข่งขันการเป็นตัวแทนของพรรคแล้วทั้งหมด 12 คนด้วยกัน

และแน่นอนว่าขณะนี้ผู้ที่มีคะแนนนำลิ่วเหนือกว่าผู้ท้าชิงทั้ง 10 คน ซึ่งก็มิใช่ใครที่ไหน เพราะเขาคือ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” นั่นเอง

แต่เนื่องจากขณะนี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาทางอาญาหลายๆคดี อาทิ ข้อกล่าวหาในเรื่องปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงิน โดยไม่เปิดเผยให้แก่ดาราสาวดาวโป๊ “สตอร์มี แดเนียลส์”และยังมีข้อกล่าวหาทางอาญาเกี่ยวกับการนำเอาเอกสารลับออกจากทำเนียบขาวไปเก็บซุกไว้ที่บ้านของเขาอีกด้วย!!!

นอกเหนือจากนั้นอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ก็อาจจะถูกตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่เขาพยายามที่จะพลิกผลเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯเมื่อปีค.ศ. 2020 ด้วยเช่นกัน

สำหรับผู้ท้าชิงคู่แข่งคนสำคัญของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งได้แก่ “ผู้ว่าฯรอน เดอซานติส”แห่งรัฐฟลอริดา อายุ 44 ปี ที่มีภาพลักษณ์อนุรักษ์นิยม

ทั้งนี้ผู้ว่าฯรอน เดอซานติส ถือเป็นผู้นำที่ค่อนข้างปราศจากความขัดแย้ง และยังมีแผลการเมืองไม่ค่อยมากเท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าขณะนี้เขาจะมีคะแนนนิยมสูงเป็นอันดับสองในพรรครีพับลิกันก็ตาม แต่กลับปรากฏว่ายังมี “วุฒิสมาชิก ทิม สกอตต์” จากรัฐเซ้าท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นนักการเมืองผิวสีเพียงคนเดียวในวุฒิสภากำลังมีคะแนนนิยมเพิ่มสูงไล่ตามมาติดๆ และไม่แน่ว่าอาจจะแซงขึ้นหน้าผู้ว่าฯรอน เดอซานติสก็เป็นไปได้

ส่วน “อดีตผู้ว่าฯนิกกี เฮลีย์”แห่งรัฐเซาท์แคโรไลนา อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ ภายใต้การแต่งตั้งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ แต่เนื่องจากเธอใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์มากเกินไป และเมื่อวิเคราะห์กันแล้ว ดูเหมือนว่าเธออาจจะตั้งเป้าหมายเอาไว้แค่เพียงตำแหน่งรองประธานาธิบดีเคียงคู่ไปกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ก็เป็นได้เช่นกัน

สำหรับ“อดีตรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์” นักการเมืองหัวอนุรักษ์นิยม นักการเมืองชื่อดังอีกคนหนึ่งของค่ายพรรครีพับลิกันผู้ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในรัฐอินเดียนา และยังเคยเป็นผู้ที่แสดงความกล้าหาญไม่ยอมปฏิบัติตามคำร้องขอของประธานาธิบดีทรัมป์ให้พลิกผลการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่มีฝูงชนบุกเข้าไปในรัฐสภาอีกด้วย!!!

“อาซา ฮันชินสัน” อายุ 72 ปี อดีตผู้ว่าฯรัฐอาร์คันซอร์ ซึ่งเขาวางตนเป็นฝ่ายตรงข้ามและเป็นปฏิปักษ์ต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์เรื่อยๆมา โดยผู้ว่าฯท่านนี้เคยออกมากล่าววิพากษ์วิจารณ์ต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่า “เป็นนักการเมืองที่ไม่มีศีลธรรม”

“วิเวก รามาสวามี” มหาเศรษฐีหนุ่ม วัย 37 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัทด้านเทคโนโลยี เป็นผู้นำทางด้านความคิดทางการเมืองในวงอนุรักษ์นิยม และยังเป็นนักประพันธ์เขียนหนังสือออกมาหลายเล่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยประวัติของเขามาจากครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่ อุ้มกระเตงพาอพยพมาจากประเทศอินเดีย

ส่วน “คริส คริสตี” อดีตผู้ว่าฯรัฐนิวเจอร์ซีย์สองสมัย ซึ่งเป็นผู้ที่ออกมาประกาศจุดยืนอย่างแน่วแน่ว่า “จะทำทุกวิถีทาง เพื่อขัดขวางมิให้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กลับเข้าสู่อำนาจ” ทั้งๆที่ก่อนหน้าในอดีตนักการเมืองผู้นี้เคยเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือรณรงค์หาเสียงให้กับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อปีค.ศ. 2016 แต่ขณะนี้กลับปรากฏว่า มิตรภาพแตกสะบั้นหันหลังให้หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์พยายามพลิกผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020

“วิล เฮิร์ด” อดีตส.ส.จากรัฐเทกซัส วัย 45 ปี เขาเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่ออกมากล่าววิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์อย่างหนักและได้ชูธงว่าเหตุผลที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ลงแข่งขันประธานาธิบดีก็เพื่อหาทางไม่ให้ติดคุก

“ดั๊ก เบอร์กัม” วัย 66 ปี ผู้ว่าฯรัฐนอร์ทดาโตตา อดีตผู้บริหารบริษัทไมโครซอพท์  

“คอร์เนล เวสต์” นักวิชาการผิวสีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้ที่มีนโยบายชูประเด็นในเรื่องเชื้อชาติและชนชั้นในสหรัฐอเมริกา

“ฟรานซิส ซัวเรซ” นายกเทศมนตรีแห่งเมืองไมอามี่

“จอห์น โบลตัน”อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ในยุคสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ประกาศตัวลงแข่งขันด้วยเช่นกัน

เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กำลังมีคะแนนนิยมนำลิ่วเหนือผู้แข่งขันทุกๆคนในพรรค จึงมิแปลกแต่อย่างใดที่เขากำลังกลายเป็นเป้านิ่งให้เหล่านักการเมืองในพรรคเดียวกันมุ่งโจมตีอย่างหนักหน่วง

และข่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมนี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถูกฟ้อง 4 กระทงทางอาญาโดยคณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางจากการสอบสวนของที่ปรึกษาพิเศษ

ของกระทรวงยุติธรรม “แจ๊ค สมิธ” เกี่ยวกับความพยายามของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อล้มล้างการเลือกตั้งของปี 2020

สำหรับการปรากฏตัวต่อศาลกลางของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ณ กรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดีนี้เป็นที่แน่นอนว่าเขาคงจะปฏิเสธทุกข้อหา

และคงจะเป็นโอกาสที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์จะใช้เป็นข้ออ้างว่าคำฟ้อง 4 กระทงนี้เป็นเรื่องการเมืองที่อาจจะเรียกความเห็นอกเห็นใจจากฐานการเมืองที่เป็นสมาชิกของพรรครีพับลิกันและย่อมจะเป็นโอกาสให้เขาได้รับเลือกเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันง่ายขึ้นอีกด้วย

อนึ่งภายในสองสัปดาห์ข้างหน้าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะถูกฟ้องจากรัฐจอร์เจียอีก

สำหรับการโต้วาทีของเหล่านักการเมืองในค่ายพรรครีพับลิกันจะมีขึ้นสามครั้ง โดยครั้งแรกจะมีขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม 2023 การดีเบทครั้งที่สองจะจัดขึ้นในเดือนกันยายน ณ หอสมุดประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนและการโต้วาทีครั้งที่สามจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ที่รัฐอลาแบมา

ทั้งนี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้แสดงท่าทีว่าอาจจะไม่ขอเข้าร่วมโต้วาที โดยมีข้ออ้างว่า ตนเองกำลังมีคะแนนนิยมนำลิ่ว ฉะนั้นจึงไม่ต้องการที่จะตกเป็นเป้านิ่ง

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นถึงแม้ว่าเวลายังคงเหลืออีกสิบห้าเดือนในการแข่งขันเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐอเมริกาก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าการแข่งขันของค่ายพรรครีพับลิกันกำลังเข้มข้นเหมือนดั่งหนังจีนกำลังภายในที่มีทั้งปล่อยอาวุธลับ มีทั้งการจี้สกัดจุด และต่อไปก็คงจะมีการงัดเอากลยุทธ์อื่นๆเข้ามาใช้เพื่อเผด็จศึกคู่ต่อสู้ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่น่าจับตามองและนับแต่นี้เป็นต้นไปก็คงเป็นการแข่งขันระดับมาราธอนที่กว่าจะถึงเส้นชัยได้ถ้วยมาครอบครองเหนื่อยลิ้นห้อยแทบขาดใจกันเลยละครับ