พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก แถลงผลปฏิบัติการ "พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม" ทลายขบวนการแก๊งสวมทะเบียนรถยนต์

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ทางกรมขนส่งทางบก ได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 2 คน โดยทางขนส่งทางบกได้มีการตรวจพบว่ามีการลักลอบนำ username และ password ของเจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบใช้งานโปรแกรมปรับฐานข้อมูลของผู้ดูแลระบบงานด้านทะเบียนรถยนต์ แล้วนำไปปรับการแก้ไขปรับปรุงข้อมูลรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในระบบงานตรวจสภาพรถ และเชื่อมโยงข้อมูลที่มีการปรับแก้แล้วมายังระบบงานทะเบียนรถยนต์ รวมทั้งสิ้น 65 คัน จึงทำการตรวจสอบย้อนกลับไปปรากฎว่า ผู้ต้องหาใช้ความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่มานานกว่า 20 ปีจดจำรหัสของเจ้าหน้าที่ทุกคน และทำทีขอคัดเล่มทะเบียนรถใหม่แทนฉบับเดิม เพื่อให้ข้อมูลในเล่มทะเบียนรถตรงกับข้อมูลรถคันที่ครอบครอง

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ นายเสถียร อายุ 38 ปี และนายศริสร อายุ 44 ปี พร้อมทำการตรวจยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่เกี่ยวข้อง และลงพื้นที่ตรวจค้นจำนวน 35 จุดทั่วประเทศ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 77,350,000 บาท พร้อมทั้งออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง มาสอบปากคำเพื่อให้ทราบถึงแหล่งที่มาของรถที่ได้ครอบครอง ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ โดยของกลางที่นำมาประกอบการแถลงข่าวในวันนี้ ประกอบไปด้วยรถยนต์หรู 12 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน เล่มทะเบียน 20 เล่ม รวมทั้งยังมีเครื่องปั้มเพลท 1 เครื่อง 

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้เล่าขั้นตอนการดำเนินการ โดยเข้าไปทำการแก้ไขข้อมูลรายการรถในระบบงานตรวจสภาพรถ และเชื่อมโยงข้อมูลมายังระบบงานทะเบียนรถยนต์ ก่อนจะมาขอคัดเล่มทะเบียนรถใหม่ เพื่อให้ข้อมูลในระบบ MDM ของกรมการขนส่งทางบก ตรงกับข้อมูลรถที่ครอบครอง และข้อมูลในเล่มทะเบียนรถ  จากนั้นนำเล่มทะเบียนไปขาย หรือจำนำให้กับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบ หรือลูกค้าที่สะสมรถเก่า รถโบราณ หรือหากมีลูกค้าต้องการจะทำการแก้ไขข้อมูลรถที่ตัวเองครอบครองอยู่ นายศริสร จะเป็นตัวกลางในการติดต่อกับนายเสถียร ให้ดำเนินการแก้ไขข้อมูลตามที่ลูกค้าต้องการ เมื่อคนร้ายแก้ไขข้อมูลในระบบแล้ว จะติดต่อทางกรมการขนส่งทางบกว่าเล่มทะเบียนหาย เพื่อขอออกเล่มทะเบียนใหม่ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบจะทราบถึงการแก้ไขดังกล่าว จึงได้ออกเล่มทะเบียนเล่มใหม่ให้ รถคันดังกล่าวจะกลายเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมมีเล่มคู่มือการจดทะเบียนแบบถูกต้องสามารถนำไปขายหรือโอนต่อได้ โดยเล่มทะเบียน รถยนต์จะขายหรือจำนำ ในราคาประมาณ 500,000 -1,500,000 บาท , กรณีจ้างเปลี่ยนข้อมูลจะคิดค่าดำเนินการประมาณ 1,400,000 - 2,000,000 บาท และถ้าหากขายเล่มทะเบียนพร้อมรถยนต์จะขายในราคาประมาณ 1,000,000 - 3,000,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 77,350,000 บาท
ใน

ในขณะนี้ทางตำรวจไซเบอร์กำลังขยายผลถึงขบวนการทั้งหมด และทำการสอบสวนพนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคน เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีพนักงารึนไหนกระทำผิด ซึ่งถ้าพบจะดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด ส่วนลูกค้าที่ซื้อรถไปนั้น ทางตำรวจจะออกหมายเรียกให้มาชี้แจ้งอีกครั้ง