วันที่ 2 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นาย ล.จักรธร (ไผ่) เลาหบรรจง อายุ 35 ปี และนางสาวหมวย (นามสมมติ) อายุ 36 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 707/158 ถ.พิชัยฯ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ว่าช่วงค่ำ เวลา 20.57 น.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกำลังอาบน้ำ สระผม ภายในห้องน้ำในบ้านของตน จากนั้นสามีของตนสังเกตเห็นความผิดปกติตรงข้างบ้านจึงได้วิ่งออกไปดู พบว่ามีเพื่อนบ้านที่มีกำแพงรั้วบ้านเดียวกัน เป็นทหารในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี กำลังยืนอยู่บนกำแพงบ้านใช้โทรศัพท์มือถือสอดเข้าไปที่กระจกบานเกล็ด (ช่องลม) ที่ห้องน้ำ เพื่อแอบถ่ายภาพที่ตนเองกำลังอาบน้ำอยู่ และเมื่อทหารเพื่อนบ้านเห็นว่าสามีตนออกมาจึงได้กระโดดกำแพงเข้าบ้านของตนเอง ทำเหมือนมีอะไรเกิดขึ้น และจากนั้นช่วงเช้า ได้มาตะโกนเรียกตนออกมาจากบ้าน และบอกว่าขอโทษที่ทำลงไป และไม่รู้จะทำอย่างไร พร้อมอ้างว่าตนเองยังไม่ได้ถ่าย และกล่าวว่า ขอโทษ ขอโทษ ซึ่งตนเองจะไม่ยอมความไดๆ และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จากนั้นตนและสามีได้พากันไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสระบุรี ซึ่งตนเอง และสามี เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นคนมีสี จึงได้นำเรื่องมาร้องสื่อไว้ก่อน

ทางด้านนางสาวหมวย (นามสมมติ) เล่าว่าซึ่งขณะที่ตนเองกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ จากนั้นแฟนของตนเห็นผิดปกติ จึงได้ลงไปดู ก็พบว่ามีทหารเพื่อนบ้านได้แอบดูตนเองอาบน้ำ ซึ่งทำให้คนในบ้านจิตตกกันมาก เนื่องจากว่าบ้านของตนเอง อาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน มีตนเอง สามี และพ่อ แม่ ที่แก่ และเป็นโรคหัวใจด้วย พร้อมด้วยลูกสาวที่โตเป็นสาว เรียนอยู่ชั้น ม.5 แล้ว และถ้าเกิดตนเอง และสามีไปทำงาน จึงมีความเป็นห่วงลูกสาวมาก เกรงว่าเมื่อลูกสาวอยู่บ้านคนเดียว เกิดปีนรั้วข้ามมา เนื่องจากรั้วบ้านมันต่ำมาก และทำอะไรลูกสาวตนเองเข้า แล้วจะทำอย่างไร ซึ่งตนเองได้ไปแจ้งความไว้แล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า อาทิตย์หน้า จะเรียกตนเองไปสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมด้วยคู่กรณี ซึ่งตนเองจะไม่ยอมไกล่เกลี่ย อย่างแน่นอน โดยจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้

ซึ่งเมื่อเดือน เมษายน ปีที่แล้ว เคยมีปากเสียงกันในเรื่องมองหน้ากัน เขาก็ยังถามกลับมาว่ามองไม่ได้เหรอ ซึ่งทหารนายนี้ ชอบมาแอบมอง แอบส่องตนเอง อยู่ตลอด ไม่ว่าตนเองจะทำอะไรอยู่ภายในบ้าน จะล้างจานหรือทำอะไรทำให้ตนเองรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ซึ่งทางทหารก็ไม่ยอมรับ จากนั้นก็มีปากเสียงกัน เขาจึงยอมรับ และยกมือขอโทษตนเอง ซึ่งตนเองคิดว่าเรื่องน่าจะจบไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว บางครั้งตนเองเห็นว่าเขาเคยเอากล้องมา แต่ตนเองก็จับไม่ได้ และเขาก็ไม่ยอมให้ดูด้วย โดยส่วนตัวแล้วตนเองคิดว่าที่ปีนแอบดูตนเองอาบน้ำ คิดว่าไม่น่าจะใช่ครั้งแรกที่ทำ ซึ่งตนเองเพิ่งมาจับได้ ทุกวันนี้อยู่อย่างหวาดผวา เกรงความไม่ปลอดภัย ซึ่งตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้