บิ๊กเด่น สั่งตำรวจจราจรทั่วประเทศอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงช่วงหยุดยาว เผยยอดเสียชีวิต 153 ราย บาดเจ็บ 2,173 ราย ขับรถเร็ว-หลับใน สาเหตุหลักเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ ถนนมิตรภาพ รถหนาแน่น  ประชาชนแห่เดินทางกลับไปทำงานหลังหยุดยาวเข้าพรรษา 

     
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.66 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่พี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจรในการเดินทางกลับหลังจากวันหยุดต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนตรวจสอบความพร้อมของร่างกาย สภาพรถและตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทางเพื่อความปลอดภัย
    
 นอกจากนี้ข้อมูลสถิติจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน (https://www.thairsc.com/) พบว่าในห้วงวันหยุดที่ผ่านมานั้นตั้งแต่วันที่ 27 - 31 ก.ค.66 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 153 ราย และเมื่อวันที่ 31 ก.ค.66 วันเดียว มียอดผู้เสียชีวิตถึง 45 ราย บาดเจ็บ 2,173 ราย สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุคือ ขับรถเร็ว หลับใน ขับรถตัดหน้า/เปลี่ยนช่องทางเดินรถ(เลน)ในระยะกระชั้นชิด และเมาแล้วขับ ในส่วนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในความผิดฐานเมาแล้วขับ ตั้งแต่วันที่ 27 - 31 ก.ค.66 มียอดจับกุมสะสม 958 ราย ขอแจ้งเตือนประชาชนว่าหากท่านขับขี่รถในขณะเมาสุราและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตนั้น จะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ปรับ 200,000 บาท และจะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถในทันทีอีกด้วย
    
 ทั้งนี้หากเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือ ประชาชนสามารถสอบถามแจ้งขอความช่วยเหลือ และแจ้งเหตุขัดข้องด้านการจราจร ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ โทร. 191 จราจรทุก สน./สภ. โทร. 1197 สายด่วนตำรวจจราจรในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โทร. 1193 ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ ในห้วงหยุดยาวนี้ ขอให้ประชาชนทุกท่านขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เคารพกฎจราจร มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง เดินทางท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ ด้วยความห่วงใยจากศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
     
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ จ.นครราชสีมา ว่า มีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางกลับ จึงทำให้มีปริมาณรถหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงต้องใช้สัญญาณมือโบกรถให้เคลื่อนตัวโดยเร็ว ขณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 2 พบว่า ประชาชนที่ไปเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในภาคอีสาน เข้ามาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะกันเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่จะมาซื้อตั๋วเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หรือจังหวัดทางภาคตะวันออก