คลื่นศิษย์ร่วมพิธีเปลี่ยนผ้าครองหลวงพ่อพูลให้กำลังใจหลวงพี่น้ำฝนประเด็นถูกกล่าวหาเดรรัจฉานวิชา 

วันที่ 1 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า วัดไผ่ล้อมจัดพิธีเปลี่ยนผ้าครอง สรงน้ำสรีระสังขารหลวงพ่อพูล วันอาสาฬหบูชา ปี 66 โดยใช้ชื่อ 111 ชาติกาลหลวงพ่อพูล เปลี่ยนผ้าครอง เปลี่ยนชีวิต ถวายหลวงพ่อพูล โดยมีคนดังและคลื่นศิษย์อาทิ จาพนม พลพล ศิลปินดารา นักธุรกิจ ร่วมกับศิษยานุศิษย์ ร่วมพิธีประเพณีของวัดไผ่ล้อมแน่นวัดพร้อมให้กำลังใจหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งกล่าวต่อหน้าสังขารและหน้าศิษย์ ไม่มีเดรรัจฉานวิชาในวัดไผ่ล้อม ใครทำอะไรไว้จะเป็นวิบากรรมที่ต้องไปรับกันเอง ซึ่งเป็นการออกมาแสดงความเห็นหลัง แพรรี่และนักวิชาการออกมาปกป้อง พระพยอมที่มีการพูดพาดพิงสถาบันในทางที่ไม่เหมาะสม ในรายการโหนกระแส ของหนุ่มกรรชัย กำเนิดพลอยเมื่อสัปดาห์ก่อน 

โดยที่ศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เวลา 16.09 น. พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะสงฆ์ จัดพิธีเปลี่ยนผ้าครอง พระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล อัตตรักโข เกจิเถราจารย์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ประจำปี 2566 โดยมีศิษยานุศิษย์พุทธศาสนิกชน ได้เข้ามาร่วมทำบุญเนื่องในวันสำคัญทางพรพะพุทธศาสนาและมาขอพรมงคลจากหลวงพ่อพูลและหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งบรรยากาศมีผู้เข้ามาร่วมงานแน่นศาลาหลวงพ่อพูล

การจัดกิจกรรมดังกล่าว ใช้ชื่อว่า  111 ปีชาติกาล หลวงพ่อพูล "เปลี่ยนผ้าครอง เปลี่ยนชีวิต ถวายหลวงพ่อพูล" ซึ่งมีเหล่าบรรดาคนดังทั้งในวงการบันเทิงและในอีกหลายแวดวง อาทิ จาพนม ดาราคิวบู๊ระดับโลก , พลพล พลกองเส็ง, นก บริพันธุ์ ชัยภูมิ , ศิลปินดาราสังกัดอาร์เอส โปรโมชั่น , กระรอก เชิญยิ้ม , หม่อมเอ็ม , นายสมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ (ร้านก๋วยเตี๋ยวระดับป้ายมิชลีน 3 ปีซ้อน) , นางสาวเบ็ญจวรรณ ริทเธอร์ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และนักธุรกิจ เจ้าของกิจการอีกหลายคน 

ในปีนี้หลวงพี่น้ำฝน ได้จัดให้มีการดำเนินการตามประเพณีของวัดไผ่ล้อมที่ได้เคยจัดทำกันมาด้วย 3 พิธีการเริ่มจากการอัญเชิญสรีระสังขารหลวงพ่อพูล ลงจากแท่นประดิษฐานที่ตั้งอยู่บนปฏิมากรรม "หลวงพ่อพูล นั่งอุ้มโลงแก้ว นั่งอยู่บนหนุมาน" เพื่อลงมาเปลี่ยนผ้าครองจีวร และสรงน้ำทำความสะอาดสรีระสังขารและห่มผ้าครองผืนใหม่ ถวายมาลัยเครื่องสักการะบูชาคุณงามความดีในบารมีธรรม ก่อนจบพิธีด้วยพิธีสำคัญคือการลงกระหม่อม ด้วยการจรดหน้าผากแนบปลายเท้าเพื่อขอพรอันเป็นมงคลและรอดใต้สังขารเป็นเคล็ดขอให้รอดปลอดภัย แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวงมีโชคดีและมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตด้วยการทำความดี ก่อนรับจีวรหลวงพ่อพูล ติดตัวกลับไปเป็นมงคลชีวิต โดยช่วงการทำพิธีปีนี้มีคลื่นพุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์ ที่ได้เดินทางมาจากทั่วสารทิศเพื่อมาร่วมพิธีและมาแสดงพลังในการให้กำลังในหลวงพี่น้ำฝน ในช่วงที่มีกระแสข่าวดราม่าเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา 

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวต่อผู้เข้าร่วมงานว่า วันนี้เป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนา ซึ่งก็เป็นนิมมิตรหมายที่ทางคณะสงฆ์จึงได้จัดพิธีการดังกล่าวเพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้กลับมากราบหลวงพ่อพูล ซึ่งมีขึ้นเป็นประจำทุกปีจะเว้นช่วงที่เป็นการดำเนินการภายในคือช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีประเด็นที่สังคมกำลังจับตาอยู่หลังจากนายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือแพรรี่ นายจาตุรงค์ นักวิชาการอิสระทางพระพุทธศาสนา ได้ออกมาให้ความเห็นอย่างรุนแรงต่อหลวงพี่น้ำฝนในรายการโทรทัศน์ ที่มีหนุ่มกรรชัย กำเนิดพลอย ได้เชิญทั้งคู่มาออกรายการ หลังจากหลวงพี่น้ำฝน ได้ออกมาให้ความเห็นกรณีพระพยอม กัลยาโณ ได้มีการออกมาพูดเรื่องการเมืองและโยงไปถึงการแก้ไขมาตร 112 ว่ามีคำสังมหาเถรสมาคม ปี พ.ศ.2538 กำหนดห้ามพระภิกษุ สามเณร ข้องเกี่ยวทางการเมือง และเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลเมื่อสัปดาห์ก่อน 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า สำหรับปีนี้มีลูกศิษย์ลูกหาแสดงความเป็นห่วงหลังจากมีประเด็นเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อน ซึ่งเจตนาคือการให้ความเห็นในกระบวนการที่เกิดการกระทำที่น่าเป็นห่วงในสังคม ซึ่งอาตตาก็ขอบอกว่า อาตมาได้รับการสั่งสอนจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ซึ่งท่านได้สั่งสอนมาตลอดและนำมาให้ทางธรรมกับญาติโยมในเรื่องของความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และรู้บุญคุณคน คือ 4 หัวข้อที่เป็นหลักมาตลอด ไม่มีทางที่จะมีการเกิดเดรรัจฉานวิชาได้แน่นอน เพราะอาตมาได้ยึดเอาสิ่งเหล่านี้มาใช้โดยตลอดและใครที่กระทำกรรมเอาไว้ก็ต้องรับกรรมนั้นไป และเดรรัจฉานวิชา จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการกระทำด้วยความอกตัญญูคนที่ทำก็ต้องรับวิบากกรรมนั้นเอง

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า วันนี้โทสะกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีเพราะให้หลักศีล สมาธิ ปัญญา เป็นตัวนำและสิ่งนี้ก็ได้มาจากหลวงพ่อพูล ซึ่งก็ขอพูดต่อหน้าสรีระสังขารของครูบาอาจารย์ตรงนี้ ซึ่งหลักเกณฑ์เป็นแบบนี้ซึ่งพระก็ต้องอยู่ในกรอบหากไม่เดินตามรอยพระพุทธเจ้าคงไม่มีใครเข้ามาขอบวชในวัดไผ่ล้อม ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้ใช้ข้อคิดว่า "ทำดีให้ตัวเองก็สิ้นลม แต่ทำดีต่อสังคมยังไงก็ยังอยู่" คือเดินหน้าทำความดีต่อไป และเน้นเรื่องความกตัญญูโดยไม่ไหวหวั่นไหวหากใครยึดสิ่งนี้ไว้ก็จะอยู่รอดปลอดภัยอย่างแน่นอน 

ขณะที่ นายพนม ยีรัมย์ หรือ จา พนม ดาราคิวบู๊ ระดับโลก บอกว่า วันนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่หลวงพี่น้ำฝน ได้มาบอกบุญในวันนี้ ซึ่งมาเห็นพุทธศาสนิกชนเข้ามาร่วมงานกันมากในวันนี้รู้สึกอิ่มบุญเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาวันนี้เป็นงานเปลี่ยนผ้าครอง เปลี่ยนชีวิต ก็ขอให้ทุกคนยิ้มให้กันมีความสมัครสมานสามัคคีมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปด้วย