เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 ก.ค. 66 ร.ต.อ.ชัชวาล เพชรนอก รอง สว.(สอบสวน)สภ.บ้านค่าย ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้  ถนนสาย 3471 ใกล้กับ ปั๊มน้ำมัน PT บางบุตร ที่ หมู่ 11 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จึงประสานรถดับเพลิงจาก องค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร ,เทศบาลตำบลบ้านค่าย และบ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรรีต รวม 4 คัน นักดับเพลิงกว่า 10 นาย พร้อมด้วยกู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง ฯ เพื่อไปสนับสนุนที่เกิดเหตุทันที

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ มีประชาชนบริเวณใกล้เคียงมายืนมุงดู พบเป็นบ้านปูนกึ่งไม้ ท่อนล่างเป็นปูนและท่อนบนเป็นไม้ เปลวไฟกำลังลุกลามไหม้ท่อนบนอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งต่อหัวฉีด เพื่อฉีดน้ำสกัดเพลิง ใช้เวลานานกว่า ครึ่งชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง พร้อมใช้อุปกรณ์เขี่ยเศษซากขี้เถ้าออก เพื่อฉีดน้ำดับเพลิงให้สนิท 

จากการตรวจสอบพบ ถังแก๊สหุงต้มปิ๊กนิ๊ก 4 ถัง และขนาด 15 กิโลกรัม จำนวน 1 ถัง รวมทั้งหมด 5 ถัง สภาพไหม้เกรียม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำลดความร้อนแล้วจึงยกออกมาไว้ด้านนอก มีซากไม้จากโครงหลังคา เศษเสื้อผ้า หม้อหุงข้าว ถูกไฟเผาไหม้ และจานทีวีที่ติดอยู่กุับหลังคาถูกไฟไหม้ร่วงลงมา และยังมีซากของใช้อื่นๆไหม้เกียมจนมองไม่ออกว่าเป็นอะไร เสียหายหมดทั้งหลัง

น.ส.ไพลิน  อายุ 29 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตอนนั้นตนนั่งอยู่หลังบ้าน ได้กลิ่นเหม็นไหม้คิดว่าใครจุดขยะเผา และได้ยินเสียงคล้ายไฟกำลังไหม้ไม้ จึงวิ่งออกมาดูหน้าบ้าน เห็นแสงไฟสปาร์คอยู่ภายในบ้านของเพื่อนบ้านข้างกัน และเปลวไฟกำลังก่อตัวลุกไหม้ จึงตกใจเรียกแฟนออกมา แฟนจึงวิ่งไปที่บ้านหลังดังกล่าว และตะโกนเรียกแต่ไม่มีคนอยู่ จึงเอาสายยางมาฉีดน้ำดับไฟแต่ดับไม่ได้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยมาช่วยเหลือ

น.ส.ไพลิน กล่าวต่อว่า บ้านหลังดังกล่าว มีตาย กับ ยายอายุ ประมาณ 70 ปี อยู่กัน 2 คน ช่วงที่ไฟไหม้ทั้ง 2 ไม่อยู่บ้านพอดี เพราะลูกสาวมารับไปหาหมอที่ กทม. 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากไฟฟ้ารัดวงจรจึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ แต่อย่างไรก็ตามต้องเก็บหลักฐานและตรวจสอบให้ละเอียด เพื่อหาส่เหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง