วันที่ 31 ก.ค. 66 รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์” วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เผชิญหน้ากับ “นิยม นพรัตน์” หรือ “เค สามถุยส์” หลังจากทั้งคู่เคยโต้กันเดือดกลางรายการ ถึงขั้นตู่ จตุพร ท้าขอเจอหน้ากันจะจะ ภายหลังจากที่ ตู่ จตุพร ออกมาวิจารณ์ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ หูเบา เรื่องการรีเทิร์นกลับเมืองไทยวันที่ 10 ส.ค.

รักเพื่อไทยมากี่ปีแล้ว?

เค : ตั้งแต่ไทยรักไทย ผมเป็นแฟนคลับพี่ตู่ ตอนแกอยู่บนเวที ผมอยู่ข้างล่าง แต่อย่างที่บอกที่ชุมนุมคนมันเยอะ อย่างพี่ตู่จะไปรู้จักทุกคนคงลำบาก แต่เรารู้จักแกอยู่แล้ว

ตอนนี้กระแสข่าวค่อนข้างหนาหูเรื่องราวที่คุณทักษิณจะกลับมา พี่ตู่ทำนายว่าไม่เชื่อว่าจะกลับจนกว่าจะเห็นคุณทักษิณปรากฏตัวอยู่ที่ดอนเมือง หลังจากนั้นคุณชูวิทย์เปิดว่าคุณทักษิณจะไม่กลับ มุมพี่มองยังไง?

ตู่ : ผมเชื่อว่าท่านนายกฯ ทักษิณจะไม่เดินทางกลับตอน 10 โมงครึ่ง วันที่ 10 ส.ค.ตามที่ประกาศเป็นข่าว หมายความว่าท่านจะไม่กลับ เหตุผลคือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ท่านถูกยึดอำนาจ 19 ก.ย. ปี 49 และได้กลับมาครั้งนึง ปี 2551 วันกราบแผ่นดิน หลังจากนั้นช่วงก่อนการตัดสินคดีที่รัชดา ท่านก็ขอความคิดเห็น ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่บอกว่าควรเดินไปฟังคำพิพากษา ฟังศาลตัดสินอย่างสง่างาม เดินเข้าคุกอย่างยิ่งใหญ่ แล้วคุกจะเล็กกว่าท่าน ประชาธิปไตยในประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ แต่ทุกเสียงพูดตรงกันนอกจากผมว่าติดคุกวันเดียวก็ถูกฆ่าตายแล้ว หลังจากนั้นท่านก็ตัดสินใจออกนอกประเทศ ผมก็ยังไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดระยะเวลา ช่วง 15 ปีรอบหลัง ท่านประกาศเป็นทางการที่จะกลับบ้านก็ร่วม 20 ครั้ง และไม่เป็นทางการอีกนับครั้งไม่ถ้วน เป็นอารมณ์คนไทยคนนึงที่ต้องการกลับประเทศไทย แต่ทุกครั้งเกิดขึ้นจากการดีล ตอนแรกเป็นข่าวดีทุกครั้ง ท่านต้องการกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ คือการไม่ติดคุก และช่วงการดีลเริ่มต้นเหมือนกันทุกครั้ง คือเต็มไปด้วยข่าวดี แม้กระทั่งครั้งนีก็ตาม เพราะโลกความเป็นจริง การขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายแทบไม่เคยปรากฎว่าในคดีทุจริต คอรัปชั่น ไม่วามาตรา 157 หรือมาตรที่เกี่ยวข้องใดๆ ก็ตาม จะได้รับอภัยโทษเฉพาะราย และการอภัยโทษที่เป็นพระราชกฤษฎีกาให้กันทั้งหมดนั้น จะเป็นคดีที่กั๊กและลดมาหนึ่งชั้น และที่สำคัญที่สุดสามคดีของนายกฯ โดยผมเข้าใจว่าโดยประสบการณ์ มันไม่ได้เป็นโทษก้อน 10 ปี สมมติได้รับพระราชทานอภัยโทษครึ่งนึง นักโทษชั้นเยี่ยม 1 ใน 2  ทีนี้คนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นคนคุก นี่คือลดตามวัน เดือนละ 5 วัน 4 วัน 3 วัน เวลามีพระราชทานอภัยโทษ 3 คดีนี้ถ้าเป็นการนับโทษต่อ ก็จะรับโทษคดีแรกก่อน มีพระราชทานอภัย เช่นตัวเองเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม คิดแบบบไม่กั๊กเลยนะ ก็จะได้ลดครึ่งนึง จาก 2 ปี เหลือ 1 ปี ไม่ใช่จาก 10 ปีเหลือ 5 ปีนะ จะต้องรับโทษจากคดีแรกให้เสร็จเสียก่อน แล้วจึงมาเริ่มต้นไปรับโทษคดีที่สอง และสามต่อเนื่อง มันแตกต่างจากคดีเดียวโทษ 10 ปี ฉะนั้น 2 3 5 จะติดคุกนานกว่า เช่นอภัยในคราวเดียวกันถ้าโทษ 10 ปี ลดครึ่งนึงคือ 5 ปี แต่ถ้าเป็นการติดเรียงกัน ก็จะได้แค่ปีเดียว ดังนั้นนายกฯ จะติดคุกไม่น้อยกว่า 3 ปี เป็นอย่างน้อย

ซึ่งท่านไม่กลับแน่?

ตู่ :  ถ้าท่านตัดสินใจเดินหน้าติดคุก วันนี้ท่านพ้นโทษแล้ว ฉะนั้นใครจะไปอธิบายอย่างไรกับท่านไม่ทราบ แต่คนที่ผ่านคดีต้องรู้ว่าในคดีทุจริตการขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะตัวไม่เคยเห็น น้อยมาก หรือไม่เคยได้ยินก็แล้วกัน ดังนั้นคดีที่พระราชทานอภัยโทษทั่วไป เช่น ถ้าจะได้ครึ่งนึงในสอง ก็ต้องลดมาหนึ่งชั้นเป็น 1 ใน 3 และเป็นอย่างนี้มาตลอด อย่างไรก็ตาม คดีที่มีโทษลักษณะ 2 ปี 5 ปี อย่างนี้ สามปีเป็นอย่างน้อย หรืออาจจะมากกว่านั้นอีกนะ การออกแบบติดคุกที่เป็นโทษนับต่อ ถ้าไม่ใช่มนุษย์คุกจริงๆ จะไม่เข้าใจ ว่าระหว่างติดเรียง 2 3 5 กับทีเดียว 10 ปี ติดทีเดียว 10 ปี น้อยกว่า แต่ติด 2 3 5 จะติดมากกว่า และเกิน 3 ปีอย่างแน่นอน

กรณีพี่ตู่บอกว่ามีการขุดบ่อล่อปลาถ้ากลับมาโดนแน่?

ตู่ : ถูกต้อง เพราะผมเชื่อว่าใครคงไปคุยให้ท่านฟังเหมือนกับทุกครั้ง นายกฯ ทักษิณเก่งทุกเรื่องในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ยกเว้นเรื่องบอกว่าจะกลับบ้านทุกครั้ง ท่านก็ไปติดเบ็ดทุกครั้ง เพราะคดีนี้ถ้าใครรู้ความจริง จะรู้ว่าการขอพระราชทานอภัยโทษ เช่น รองพิษณุบอกว่าติดคุกวันเดียว ขอพระราชทานอภัยโทษได้แล้ว แต่มิได้หมายความว่าจะได้โดยทันที ทำได้เป็นกระบวนการเป็นขั้นตอน ถ้านายกฯ ทักษิณไปขอเอง หรือบุตรของท่านไปขอให้ก็ได้ ต้องส่งเรื่องมาที่ผู้บัญชาการเรือนจำ ไปกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไปสำนักราษฎร์ สำนักราษฎร์ส่งกลับมาให้รัฐบาลถวายความเห็นประกอบพระบรมราชวินิจฉัย และถ้ามีใครฎีกาคัดค้านเรื่องมันก็ไปไกล ฉะนั้นในการขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย กว่าฎีกาจะลงในคุกคือว่านานมาก และไม่ได้ลงทุกกรณี ส่วนใหญ่จะไม่ลง ยกเว้นคดีที่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน 112 ที่มีการให้มาโดยตลอด ฉะนั้นใครจะรับปากอย่างไร แต่เข้ามาก็ติดคุกเลย ตอนแรกจะเป็นไปด้วยข่าวดี เช่นได้อภัยเลย ไม่ติดเลย กลับมาเท่ๆ ยื่นไปถึงก็จะได้เลย แต่ไมได้ดูความเป็นมาของกระบวนการคุก เข้ามาก็ติดกับทันที

คุณมองยังไง?

เค :  เพ้อเจ้อ ผมพูดถึงพี่ตู่ คุณอุ๊งอิ๊งก็คอมเมนต์ว่าเพ้อเจ้อ ที่ผ่านมาพี่ตู่พูดถูกว่าคุณทักษิณจะกลับบ้านหลายครั้ง แต่ทุกครั้งคุณทักษิณไม่เคยกำหนดวันที่ และไม่เคยกำหนดเวลา แต่ครั้งนี้มันผิดจากครั้งที่ผ่านมา คุณทักษิณเคยประกาศว่าถ้าวันไหนเขากลับบ้าน เขาจะให้คุณอุ๊งอิ๊งเป็นคนประกาศ แต่ผมอยากให้ย้อนไปดูเรื่องคดีนายกฯ ทักษิณ ตอนเป็นพรรคไทยรักไทยชนะด้วยคะแนน 249 เสียง คุณทักษิณมาทำนโยบายเพื่อประชาชน 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้านละล้าน ทำ 1 ตำบล 1 โรงเรียนในฝัน 1 อำเภอ 1 ทุนปราบมาเฟียผู้มีอิทธิพล ปราบปรามยาเสพติด หวยบนดิน เป็นนโยบายที่คุณทักษิณทำขึ้นมา เป็นนโยบายที่ประกาศแล้วทำได้จริง ซึ่งไม่เคยมีนายกฯ คนไหนทำมาก่อน พอคุณทักษิณทำได้ ครั้งที่สองคุณทักษิณชนะด้วยคะแนน 377 เสียง แล้วคุณทักษิณถูกรัฐประหารปี 49 คดีที่คุณทักษิณโดนอยู่ เกิดขึ้นหลังโดนรัฐประหาร ไม่ได้เกิดก่อนรัฐประหารนะ โดยหน่วยงาน คตส.

จะบอกว่าไม่เป็นธรรม?

เค : มันไม่เป็นธรรมแน่นอน ไปตั้งหน่วยงาน คตส. แล้วหน่วยงาน คตส. พี่ตู่พูดเองตอนเป็นประธาน นปช. ในหน่วยงาน คตส. เต็มไปด้วยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับคุณทักษิณ มานั่งเป็นคณะกรรมการ อย่างคุณแก้วสรรค์ คุณหญิงเป็ด เอามาตรวจสอบ แล้วเขียนกฎหมายย้อนหลังมาเอาผิดคุณทักษิณ แต่คนทำรัฐประหาร กลับเขียนนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง ให้ตัวเองพ้นความผิด ตัวเองฉีกรัฐธรรมนูญแท้ๆ แต่เขียนนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง แต่คดีคุณทักษิณไปเอาคู่กรณีมาตั้ง แล้วดำเนินคดีคุณทักษิณ ถามว่าเรื่องคดีก็ต้องไปว่ากัน แต่เราต้องพูดทั้งหมดว่าคดีคุณทักษิณเกิดตอนไหนแล้วเกิดจากอะไร แต่ถ้าพูดไม่หมดสังคมจะเข้าใจผิด ผมมองว่าคุณทักษิณไม่ว่าจะเป็นม็อบที่ออกมา ทุกคนเรียกร้องความยุติธรรม ความเท่าเทียม ความเป็นธรรม แต่อย่าลืมว่าคุณทักษิณเป็นคนนึงที่ถูกกระบวนการยุติธรรมประเทศนี้ด้วยการยึดอำนาจคุณทักษิณ คุณทักษิณมาจากเสียงพี่น้องประชาชน 377 ที่นั่งนะ ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ แต่พอคุณทักษิณโดนยึดอำนาจไป ถ้าวันนึงคุณทักษิณอยากกลับบ้านผมว่าก็เป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องคดีคุณทักษิณก็ต้องมาต่อสู้ด้วยตัวเอง ว่าคดีเกิดขึ้นจากรัฐประหาร ถ้าเป็นผมผมก็สู้แนวทางนี้

มีช่วงนึงคุณทักษิณเอง ในปี 49 กลับมา ช่วงกลับมา มีการตั้งคดีขึ้นมาเหมือนกัน คุณคิดว่าพอหมดอำนาจไปแล้วก็อาจถูกจัดฉากขึ้นมาได้?

เค : พอเขายึดอำนาจปุ๊บเขาตั้งหน่วยงานคตส.เลย และตั้งธงดำเนินคดี พวกนี้พี่ตู่ปราศรัยบนเวทีทั้งหมด ถามแกดูว่าจริงมั้ย

ตู่ : เรื่องเพ้อเจ้อเนี่ย เป็นคำของคุณอุ๊งอิ๊ง ที่เคเอามาพูด ผมบอกมาตั้งแต่ต้นว่าคนเป็นลูกและเป็นแม่คนด้วย ความปรารถนาต้องการอยู่พร้อมหน้าครอบครัว เป็นความปรารถนาสูงสุดของปุถุชน มนุษย์ หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โลกความเป็นจริงอีกไม่กี่วัน ก็จะเห็นแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทุกทุกคนคงคิดว่าผมจะมาซัดคุณเคแรงๆ ถ้ามาชี้อะไรผม ปกติต้องรู้นิสัยกัน แต่วันนี้ตั้งใจมาพูดกับเคดีๆ คดีของนายกฯ เป็นที่รู้กันว่ามาจากการถูกยึดอำนาจ ปี 49 ผมเป็นคนหนึ่งที่เหลือไม่กี่คนของพรรคไทยรักษไทย ที่อยู่ในการสู้กับการรัฐประหารวันนั้น นับตั้งแต่ยึดอำนาจรุ่งเช้ามาแถลงสู้ทุกวัน จนกระทั่งตัดสินใจมาทำทีวี และไปลงท้องถนน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น เราก็ทราบอย่างที่คุณเคบอกนั่นแหละว่ากระบวนการไม่ยุติธรรม มีการพยายามเสนอบอกนายกฯ ทักษิณว่าเมื่อท่านตัดสินใจหนี ไม่ควรต่อสู้กับกระบวนการนี้เลย ต้องปฏิเสธ หมายความว่าต้องไม่ยอมรับปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเหมือนผมไม่หนี ผมก็ต้องต่อสู้ คำพิพากษามา แม้ใจผมจะเห็นด้วยหรือไม่แต่เมื่อคำพิพากษาถึงที่สุด ใจผมก็ต้องน้อมรับ เช่นเดียวกับกรณีนี้ ผมอภิปรายนับไม่ถ้วนทั้งในสภาและนอกสภา อย่างที่เคพูด แต่ว่าเมื่อนายกฯ ท่านเลือกหนทางว่าท่านคิดว่าจะสู้คดีได้ ท่านไปทำสงครามสวนกับที่ท่านเรียนมาว่าจะไม่ทำสงครามที่ไม่มีโอกาสชนะ ในกรณีนี้ดูเสมือนหนึ่งว่าในกระบวนการสู้ทางกฎหมาย ท่านจะได้ข้อมูลเอกสารครบ เหมือนไปกินเบ็ดเรื่อยๆ ตลอด ในความเป็นจริง ท่านต้องไม่ต่อสู้สักหนึ่งคดี แล้ววันที่ท่านกลับมาก็เริ่มต้นต่อสู้ แต่เมื่อท่านต่อสู้คดีที่มีอายุความ เขาเห็นท่านเล่นเรื่องเวลา บัดนี้เขาก็แก้ไขว่าคดีไม่มีอายุความ คดีที่รัชดาโทษ 2 ปีก็ขาดอายุความ แต่ 3 คดีหลังและเหลืออีกคดีในชั้นศาล ไม่มีอายุความ เมื่อตัดสินใจสู้ในเรื่องคดีความ แม้ว่าตัวไม่อยู่ จริงๆ มีความพยายามเสนอ เสธ.ไอซ์ไปช่วยเจรจาว่าอย่าได้สู้คดี เขาหารือกับทีมกฎหมาย เขาสื่อความว่าอย่าสู้ วันไหนตัดสินใจเริ่มต้นในการต่อสู้ แต่เมื่อสู้แล้ว วันนี้คำพิพากษาศาลถึงที่สุด แปลความว่าคดีถึงที่สุดแล้ว ศาลมีหน้าที่อกอหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดเท่านั้น ยกเว้นไปอาศัยพรบ. รื้อฟื้นคดี ซึ่งตามประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นไม่มีทางอื่นเลย เรื่องความยุติธรรม อยุติธรรมสองมาตรฐาน เป็นเรื่องที่เรายืนหยัดต่อสู่กันอยู่แล้ว แต่เมื่อสู้มีผลลัพธ์อย่างนี้ ไม่มีช่องทางอื่น นอกจากเดินเข้าคุก

 เค :   จริงๆ คดีคุณทักษิณจะหมดอายุความแล้ว แต่ไปออกกฎหมายใหม่เพื่อไม่ให้คดีคุณทักษิณหมดอายุความ

คิดว่าถ้าคุณทักษิณกลับมา จะต่อสู้ตรงนี้ได้?

เค : มุมผม ผมไม่ใช่นักกฎหมาย  แต่ผมมองว่าการทำรัฐประหารมันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอยู่แล้ว แล้วคุณทักษิณมีโอกาสสู้คดีตรงนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าทีมกฎหมายคุณทักษิณจะสู้แบบไหน แต่คุณทักษิณควรได้กลับแค่นั้นเอง

ตู่ : เมื่อมีความรังเกียจการรัฐประหาร ถ้าข้ามขั้วไปสมคบคิดกับพวกรัฐประหาร ผมไม่ไว้หน้าเลยเหมือนกัน ฉะนั้น ในเรื่องคดีความในทางกฎหมายมันเป็นอื่นไปไม่ได้ เมื่อเลือกเส้นทางนี้ ส่วนเรื่องเพ้อเจ้อวันที่ 10 ก็ดูหน้ากันแล้วกัน จะได้เห็นว่าพูดกันอย่างไร จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร แต่ที่ผมเห็นเหตุการณ์มาโดยตลอด

เค : ถ้าคุณทักษิณกลับล่ะ

ตู่ : ผมก็ยอมรับอยู่แล้ว อย่างไรก็ได้กับผม

เค : ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวพี่ไปใส่ร้ายว่าเขามีการดีลกันกลับมาอีกนะ

ตู่ : หน้าตาพันธ์อย่างนี้ไม่ได้สกปรกซกมกในความคิดความระยำอัปปรีย์คน ฉะนั้นพูดต่อหน้า คุณจะไปรู้อะไร การกลับแต่ละครั้ง ผมยกตัวอย่างว่าปี 2555 ครบรอบ 2 ปี อยู่ดีๆ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย คดีที่เอาตัวผมไปขังแล้วไม่ให้ไปใช้สิทธิ์ ตัวผมขาดคุณสมบัติ ผมเอะใจมาโดยตลอดว่าทำไมเลือกวันที่ 18 รุ่งเช้าเราจัดงานครบรอบ 2 ปี ก็มาเฉลยที่นายกฯ บอกว่าเสื้อแดงพายเรือมาส่งผล ไม่ต้องตามไป หลังจากนี้ผมไปเอง ตกใจกันทั้งเวที คนวันนั้นมาสองแสน เพราะไม่พอใจที่ผมร่วมด้วย พอพูดจบ นายกฯ ทักษิณก็โทรเข้าเครื่องผม ตู่ พี่กำลังจะได้กลับบ้าน ผมก็บอกว่าที่ท่านประกาศคนตกใจ ก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กแล้วกัน เดี๋ยวผมหาทางออก ท่านจะกลับเมื่อไหร่ วีคหน้าเจอพี่ที่กรุงเทพฯ หลายครั้ง แม้กระทั่งตอนสุดซอย ก็มีคนไปดีล ไปเจรจา ซึ่งผมอาจอยู่กันคนละข้อมูลที่นายเคอยู่นะ แต่ผมอยู่ในฐานะคนที่อยู่ชั้นในพอสมควร จึงเห็นว่าทั้งหมดมันคือการดีล ผมไม่ได้ใช้ความรู้สึก ผมใช้ข้อเท็จจริง ในนปช. ผมเป็นประธานมาอย่างยาวนาน ไม่เป็นประธาน ก็เป็นแกน ปัจจุบันไม่ประสงค์จะใช้ตำแหน่งนี้แล้ว แต่เพียงแต่ว่าการเป็นคนเสื้อแดง ไม่ใช่แค่ใส่เสื้อแดง เสื้อเป็นแค่เปลือกเท่านั้น  แก่นคือเรื่องจิตวิญญาณประชาธิปไตย เมื่อเราชังชังเรื่องสองมาตรฐานอย่างไร เราไม่มีข้อยกเว้นให้ใคร แม้ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม

เค : ผมต้องถามพี่ตู่ว่าสิ่งที่ตู่ทำนายมาเนี่ย พี่ตู่ก็เดา เอาเป็นว่าผมจะเรียกว่าแกเป็นหมอเดาทางการเมืองแล้วกัน ผมจะถามพี่ตู่อย่างนี้ คุณสุชาติ ตันเจริญจะมาเป็นประธานสภาตอนกี่โมง แล้ววันไหนครับพี่

ตู่ : ดีแล้วที่เคถาม ลองดูโพสต์กับการพูดของคุณมดดำที่เป็นลูก ก่อนวันศุกร์หนึ่งวันคุณมดดำไปโพสต์ว่าไปเจอพ่อ และพ่อก็ยอมรับฟัง จากนั้นเขามาออกในรายการก็พูดชัดเจนว่าถ้าพ่อไม่ยอมถอย พ่อเขาก็จะได้เป็น ถ้าพ่อเขาเป็น เขาต้องเลิกอาชีพพิธีกรไปตลอดชีวิต ดังนั้นทางการเมืองก็เพิ่งไปเปลี่ยน โดยข้อเท็จจริงไม่มีใครให้ความจริงได้ดีกว่าคุณมดดำ ตลอดระยะเวลาในทางการเมือง นายเคอาจไม่รู้ว่าในการตกลงเรื่องผลประโยชน์หรือการเจรจาใดๆ ถ้าไม่กลับหลังหัน ก็เป็นไปตามที่คุณมดดำพูด ดังนั้นข้อความนี้ผมก็พยายามอธิบายแต่ไม่ฟังกัน แล้วคนมาเฉลยคือตัวคุณมดดำ ทั้งโพสต์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนมีการโหวตหนึ่งวัน และที่พูดในรายการว่าถ้าพ่อไม่ยอมถอย พ่อก็ได้เป็น ตัวเขาเองต้องเลิกการเป็นพิธีกรตลอดชีวิต ข้อเท็จจริงก็อยู่อย่างนั้น

เค : ส่วนตัวผมมองว่าการที่พี่ตู่แกเดา แกเดาว่าพ่อคุณมดดำมาเป็น ถูกมั้ย แกบอกว่าไม่ว่าสมการไหน ประธานต้องชื่อสุชาติแน่นอน ทีนี้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง เราไม่ปฏิเสธ แต่อย่างที่บอก คุณมดดำเขาอาจออกมาโพสต์ แต่สิ่งที่พี่ตู่พูดว่ายังไงก็ต้องได้เป็น สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ไง มันเป็นการวิเคราะห์

ตู่ : เคจะฆ่าตัวตายแล้วไม่ฆ่า ผมยกตัวอย่าง เคก็จะไม่ตาย กรณีนี้ก็เหมือนกัน เขาวางตัวแล้วสุดท้ายก็เปลี่ยนใจ ถ้าไม่มีข้อเท็จจริงอันนี้ คนเป็นลูกจะไปโพสต์ให้รู้สึกอย่างนี้ได้ยังไง เวลาเขาวิเคราะห์ทางการเมือง ไม่ใช่เดาทางการเมือง เวลานั่งแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเราก็วิเคราะห์ และอธิบายความ ถ้าไม่มีมูลอยู่จริง การโพสต์ไปพบพ่อ และพ่อยอมถอย ยอมรับฟัง และกระทั่งตัวเองพูดซ้ำหลังเลือกประธานเสร็จสิ้นไปแล้ว นี่คือข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องการเดา มันคือการวิเคราะห์ ผมไม่ใช่โหร แต่เป็นคนที่อยู่ในแวดวงการเมือง รู้จักนักการเมือง มีทฤษฎีอยู่ในวงการเมืองในวัยเด็กเกิน 30 ปี เป็นผู้นำนักนักศึกษาในพฤษภา 35 เป็นไม้สุดท้ายผมถึงรู้จักนักการเมืองแวดวงนี้หมด อีก 2 ปีครบ 60 แล้ว เราไม่ใช่อยู่ดีๆ มานั่งเดา แต่เป็นการวิเคราะห์ ถ้าไม่มีสาระ ไม่มีมูล จะมีกรณีคุณมดดำได้ยังไง ระหว่างเดากับวิเคราะห์มันคนละความหมาย

เค : ผมคิดว่าเป็นการคาดเดาแล้วจังหวะแม่น พ่อคุณมดดำเป็นรองประธานสภามาแล้วเขาอาวุโส เขาก็มาอยู่กับพรรคเพื่อไทย เขามองว่าคุณพ่อมดดำนี่แหละที่จะเป็นคนไปชิง พี่หมอชลน่านตอนมีข่าว ก็ปฏิเสธเช่นเดียวกัน แต่ก็เป็นการคาดเดาไง แต่จังหวะเดาแม่นก็ออกมาพูด พี่ตู่เคยบอกเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ที่บอกว่าแก้บัตรสองใบ ว่าการแก้รัฐธรรมนูญที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ได้ ผมก็เลยแย้งว่ามีการแก้บัตรสองใบ พี่ตู่เลยบอกว่ามันเป็นการสมรู้ร่วมคิด

ตู่ : รัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ตั้งแต่ปี 50 ถึงปี 60 แก้ไขได้เรื่องเดียว คือเรื่องกติกาการเลือกตั้ง ปี 60 ก็เช่นเดียวกัน กติกาการเลือกตั้งที่เพื่อไทยถนัดมากที่สุดตั้งแต่ไทยรักไทย คือ 400 เขต ครั้งแรก ไม่ใช่ 249 แต่เป็น 248 ผมก็อยู่ในชุดหาเสียงเลือกตั้ง ครั้งที่สองถึงได้ 377 นี่คือกติกา 400 เขต เป็นกติกาที่พรรคตั้งแต่ไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทยถนัดที่สุด เป็นข้อได้เปรียบ ทีนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจากบัตรใบเดียวมาเป็นสองใบ ซึ่งแน่นอนที่สุดจนทำกฎหมายลูกจะเห็นได้ชัดเรื่องระยะเวลา ว่ากฎหมายเสนอไปเกินกำหนดระยะเวลา เลยจำเป็นต้องใช้ร่างเดิม ในวันเวลาดังกล่าว ที่ทำให้ครบ 6 เดือน ที่อายุของกฎหมายต้องใช้ร่างเดิม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ บรรดาส.ส. ไม่เข้าประชุมสภา ไปอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ในทางการเมืองเราก็เห็นอยู่แล้วว่ากติกานี้พรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์เต็มๆ ถนัดที่สุด จนผิดพลาดก้าวไกลมาแรงแซงโค้ง ถ้าไม่ปฏิสัมพันธ์กันตั้งแต่ตอนต้น เรื่องนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น ผมจึงตั้งคำถามในช่วงมีปัญหากับนายกฯ ทักษิณว่าจะจับมือกับพลังประชารัฐหรือไม่ คนแบบผมไม่ถามวันเดียว ถามทุกวัน

แล้วท่านตอบว่า?

ตู่ : พรรคเพื่อไทยตอบว่าจะไม่จับมือกับใครก่อน ไม่ตอบเป็นพรรค ถามอีกว่าจะจับมือหรือไม่ ตอบว่าจะแลนด์สไลด์ ถามอีกจะจับมือหรือไม่ บอกว่าได้ 310 เสียง ถามอีก 310 เสียง ขาดอีก 66 เสียงจะเอาจากพลังประชารัฐหรือไม่ บอกว่าจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ปรากฏว่ากระแสแลนด์สไลด์ พอเดินไปถึงทำท่าเป็นแลนด์สลบ เพราะไปเจอเวิร์ดดิ้งเดียวของก้าวไกลที่ออกจากปากพิธา มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง ดังนั้นกระแสทางโค้งต้องปรับเปลี่ยน ต้องพูดใหม่ กลับหลังใหม่ เศรษฐา ทวีสิน บอกว่าจะไม่จับมือกับพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ก่อนหน้านี้ไปประกาศยุทธการไล่หนูตีงูเห่า ประกาศไม่จับมือที่นครพนม คุณอุ๊งอิ๊งยืนกรานตามคุณเศรษฐา บอกว่าที่มีการปั่นว่าจะจับมือไม่เป็นความจริง จะปิดสวิตซ์ สว. ปิดสวิตซ์ 3 ป. หมอชลน่านบอกว่าถ้าจับมือพลังประชารัฐ ตัวเองลาออกจากหัวหน้าพรรค ผมยกตัวอย่างเพื่อจะบอกว่าทฤษฎีสมคบคิดมีให้เห็นปรากฎ เพียงแต่ต้องแต่งตัวกันใหม่ เพราะก้าวไกลมาแรงแซงโค้ง เพราะคีย์เวิร์ดว่ามีลุงไม่มีเรา ซึ่งเป็นจุดหักเหที่พูดเรื่องการจับมือและเป็นข้อผูกมัดที่ข้ามขั้วด้วยความยากลำบากจนถึงขณะนี้ไง

เค : ผมจะตอบประเด็นที่ถามพี่ตู่ก่อน ที่พี่ตู่บอกว่าสมรู้ร่วมคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมเปิดคลิปให้น้อง เปิดให้ฟังหน่อยได้มั้ย ที่พี่ตู่บอกว่าสมคบคิด ตอนแกทำม็อบแล้วไปจูบปากกับทนายนกเขาเกิดเป็นม็อบหลอมรวม แกเรียกคนออกมาชุมนุมว่าเราจะไม่มีเลือกตั้ง เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการวางยาทางการเมือง พรรคเพื่อไทยโดนต้มคุณไม่รู้หรอก ประยุทธ์โน่นนี่นั่น ต้มเราต้องออกมา ถ้าเราไม่ออกมาสู้ เราจะได้ไปเลือกตั้งปี 68 แกยืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อไทยโดนต้ม แต่พอผมถามเมื่อกี้ว่าพี่มั่นใจมั้ยเพื่อไทยโดนสมรู้ร่วมคิด แกบอกว่าสมรู้ร่วมคิด สรุปครั้งแรกที่แกบอกว่าเพื่อไทยโดนต้ม พอเขาแก้รัฐธรรมนูญเสร็จแกบอกว่าเพื่อไทยสมรู้ร่วมคิด นี่คือปัญหาไงว่าสิ่งที่แกพูดครั้งแรก แกไม่แสดงความรับผิดชอบต่อคำพูดของแก ถ้าแกเดาผิด หรือทายผิด เป็นหมอเดาไง ถ้าเดาผิดก็ต้องขอโทษว่าที่ใส่ร้ายเพื่อไทยว่าโดนต้ม แล้วเกิดการแก้บัตรสองใบได้จริง แต่ไม่เป็นอย่างนั้น แกกลับไปพลิกอีกข้างว่าอ๋อ เพื่อไทยไปดีล

ตู่ : เรื่องมันเป็นสองขั้นตอน ขั้นตอนแรกการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อย่างที่ทราบ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านเป็นผบ.ทบ. เนื่องจากนายกฯ ทักษิณไปปลดพลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็นความสัมพันธ์เดิม การประสานงานเวลาการเมือง มันเป็นดีลบายดีล ข้อความที่นายเคเอามาเปิด ช่วงนั้นขั้นตอนรัฐธรรมนูญออก ก็ยื่นคำร้องกฎหมายลูกกฎหมายรัฐธรรมนูญว่าจะขัดกันหรือไม่ ดังนั้นในช่วงระหว่างนั้นเป็นช่วงระหว่าง 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ เวลาคณะทหารเขาจะเล่น เขามีลับลวงพราง จะเล่นแผนเอ แผนบี แผนซี ดังนั้นถ้าเขาไม่พร้อมใดๆ ก็จะทำให้กฎหมายลูกขัดกับกฎหมายแม่ และมีหลากหลายกรณี ผมได้วิเคราะห์ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญรอวันวินิจฉัยว่าถ้าสถานการณ์แบบนี้ ถ้าไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง ก็วินิจฉัยว่ากฎหมายลูกขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็มีหลากหลายการพิจารณากฎหมายของสภา ที่กฎหมายลูกศาลรัฐธรรมนูญตีตกก็มี ซึ่งมีคนพยายามเอาประเด็นนี้ที่บอกว่าไม่มีการเลือกตั้ง เพราะผมบอกว่าถ้ากฎหมายลูกมันขัดรัฐธรรมนูญมันไม่มีการเลือกตั้ง แต่ถ้ามีการเลือกตั้งในครั้งต่อๆ ไปทุกฝ่ายก็ต้องมาเจอกัน เพราะเจอด่านใหญ่ที่สุดคือสว. 250

เค : แต่กลายเป็นว่าพี่บอกว่าเพื่อไทยรู้เห็นเป็นใจ

ตู่ :   นี่ไง มันทีละตอน เหมือนตอนนายกฯ ทักษิณบอกว่ากลับบ้าน แล้วต่อมาเปลี่ยนใจไม่กลับ 20 ครั้ง ฟังดีๆ ดิ ในกรณีกฎหมายลูก ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพลเอกประวิตร ตั้งแต่พรรคก้าวไกล โรมจะอภิปรายพลเอกประวิตร พรรคเพื่อไทยยังดึงเวลาจนไม่สามารถอภิปรายพลเอกประวิตรได้อยู่แล้ว ลองไปถามว่าหลังไม่ได้อภิปรายเป็นอย่างไรบ้าง

เค :   พี่เอาประเด็นที่พี่พูดสิ   พี่รับผิดชอบอะไรมั้ยล่ะ

ตู่ :   ก็ข้อเท็จจริงขณะนั้นมันเป็นอย่างนั้น ในขณะนั้น คุณจะเอาข้อเท็จจริงขณะนั้นมาป็นตอนนี้ได้ยังไง

เค : ก็พี่ไปเดาเอาไง

ตู่ : ไม่ใช่ ข้อเท็จจริงอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ

เค : พอพี่เดาผิด ก็ไปแก้ตัว แล้วก็ชี้ไปด่าเพื่อไทยเหมือนเดิมไง ปัญหาอยู่ตรงนี้

ตู่ : มันเป็นข้อเท็จจริง ณ ขณะนั้น คุณเอาข้อเท็จจริงวันนั้นมาวันนี้ วันก่อนคุณไว้ผมอีกทรงนึงเลย

เค : พี่ไปปลุกม็อบด้วยนะ ถ้าตอนนั้นม็อบออกมาจะทำยังไง

ตู่ : วันนั้นออกมาไล่พลเอกประยุทธ์นะ

เค : ก็พี่ปลุกม็อบว่าจะไม่ได้เลือกตั้งไง

ตู่ : เราบอกว่าถ้ากฎหมายลูกขัดรัฐธรรมนูญ เราเลือกตั้งไม่ได้ มีหูหรือเปล่า

เค : (หัวเราะ)

ตู่ : ยั่ว

เค : ผมไม่ได้ยั่ว ข้อเท็จจริงไง

ตู่ : ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง

พี่ตู่อยากเจอหน้า?

ตู่ : มีคนบอกมาแลกกันทำไม แต่ผมบอกว่าคนเท่ากัน เขาก็ว่ากันมาผมจะได้อธิบายความเขา ความจริงเขาไม่ได้คู่กับผมหรอก อยากเจอหน้า

เค : พี่ก็ยังด้อยค่าผม (หัวเราะ)

ตู่ : ไม่ได้ด้อยค่า แต่คนที่เขารู้เรื่องเขาไม่กล้ากับผมสักคน เพียงแต่ผมก็กำลังอธิบายคนไม่รู้ไง ที่มาเล่นบทแบบนี้ ลองดูสิครับเอาหัวเรือทั้งหลายใครจะมากล้า ยกเว้นคนที่ไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็ต้องแสดงความคิดเห็นแบบนี้กันมา

เค : ผมไม่รู้พี่ก็ต้องตอบผม

ตู่ : ก็ตอบไง

พี่ตู่อยากเจอหน้าเค เพราะเคบอกว่าที่ผ่านมาก็ไปนะ ไม่ว่าเวทีไหน สนามไหนก็ไป ไม่เคยเจอ อยู่ตรงไหนยังไง?

ตู่ : ด้วยความสัตย์จริง คนจำนวนมาก ผมก็เลยจำเขาไม่ได้ ผมจำหน้าเขาวันที่เขาวิวาทะกับคุณแยม ผมเห็นหน้าเขาครั้งนั้น แล้วได้ยินเสียงอีกทีวันโฟนอิน ผมก็จำไม่ได้

วันนี้เรื่องการจับขั้ว ตอนนี้สูตรพี่ร้อยเปอร์เซ็นต์มองยังไง?

ตู่ : พันธะสัญญา คำมั่นที่ให้ไว้กับประชาชนเป็นเรื่องหลัก ผมเองตั้งแต่พฤษภา ปี 35 คือต่อต้านการตระบัดสัตย์ของคนเป็นนายกฯ การต่อสู้ของพี่น้องคนเสื้อแดง เราจะพูดเรื่องความเป็นธรรม ยุติธรรม สองมาตรฐาน และความชอบธรรมทางการเมือง มาครั้งนี้ก็เหมือนกัน พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลประกาศจะไม่จับมือกับสองลุง เรื่อง 112 พูดว่าจะแก้เหมือนพรรคก้าวไกล ไม่ว่าคุณเศรษฐา คุณหมอพรหมมินท์ พูดไม่ได้แตกต่างจากก้าวไกล แต่คนไปจดจำเฉพาะพรรคก้าวไกล ของเหล่านี้ดูได้ในโซเชียลมีเดีย การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว แม้ว่าจัดได้ แต่อยู่ไม่ได้ คนจะเต็มท้องถนน ฉะนั้นพรรคเพื่อไทยต้องไม่จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว มันเป็นเรื่องพรรคเพื่อไทยกับประชาชนที่ไปให้พันธะสัญญาว่าจะจับมือกับใคร ไม่จับมือกับใคร

ถ้าวันนี้เพื่อไทยไม่จับกับสองพรรคกับลุง แล้วไปจับกับภูมิใจไทย?

ตู่ : ภูมิใจไทยกับพรรคอื่นๆ ก็บอกแล้วว่าถ้ามีพรรคก้าวไกลก็ไม่ร่วม ความจริงก่อนนัดมากินมิ้นต์ช็อก เขาก็ประกาศแล้วว่ามีก้าวไกลเขาไม่ร่วม พอกินมิ้นต์ช็อกเขาก็การันตีเพิ่มว่าแม้จะถอยเรื่อง 112 ไปแล้ว มีก้าวไกลเขาก็ไม่ร่วม

วันนี้มุมพี่ตู่เชื่อว่าการจับข้ามขั้วมีแน่นอน?

ตู่ : ถ้าไม่ข้ามขั้วเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ถ้าข้ามขั้วจะพัง จะเกิดวิกฤต คนจะเต็มท้องถนน เหมือนตอนสุดซอย สุดซอยนี่ 4 วันเท่านั้นเอง สุเทพ เทือกสุบรรณ ใช้เวลาเป็นปี แต่การลักหลับตอนสุดซอยห้ามยังไงก็ห้ามไม่ฟัง 4 วันคนเต็มท้องถนน กรณีปี 35 ก็เช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดไม่ว่ามีอำนาจอย่างไร ตระบัดสัตย์คนจะรับไม่ได้  ไม่ว่าจะเหลือง แดง ที่ข่าวบอกว่าเหลืองแดง จับมือกันล้มส้ม อย่าว่าแต่เหลือ แดง เลย ตระบัดสัตย์เป็นคนยังไม่ได้เลย

เค : ส่วนตัวผม ผมมองว่าพี่ตู่พูดเป็นการมโน แกเหมือนพูดขึ้นมาเอง ด้วยตอนนี้สถานการณ์พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ MOU 8 พรรคก็ยังอยู่ ใน 8 พรรคให้พรรคเพื่อไทยไปคุยหาแนวร่วม พรรคเพื่อไทยก็ทำหน้าที่ คุย 7-8 พรรคการเมือง พี่ตู่กลายเป็นออกมาด่าว่าจะข้ามขั้ว ผสมพันธุ์ อย่าลืมนะตอนคุณพิธา ไปเป็นแกนนำ พิธาก็โทรหาพวกนี้นะ เขาออกมายอมรับเองนะ ถ้าพี่ตู่บอกไม่สองมาตรฐาน ทำไมพี่ตู่ไม่วิจารณ์พรรคก้าวไกล ไม่วิพากษ์วิจารณ์คุณพิธา ว่าก้าวไกลจะผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ตระบัดสัตย์ ไม่พูดล่ะ แต่พอพรรคเพื่อไทยทำเหมือนกัน โทรหาพรรคการเมืองอื่น

พิธาโทรหาใคร?

เค : เขาโทรหาพรรคประชาธิปัตย์ ชาติพัฒนากล้า ชาติไทยพัฒนา เขาโทรหาหมดเลย ยกเว้น 2 ลุง แล้วเขาก็ไม่ได้ใครมาร่วม จนเข้าไปโหวต ก่อนโหวตพรรคก้าวไกลยืนยันว่ามีสว.โหวตให้เขา 100 คน ครบแล้ว สุดท้ายก็ไม่มี แต่เขาไม่เคยเปิดเผยในที่สาธารณะว่าสว.เหล่านั้นคือใคร แต่พอพรรคเพื่อไทยทำด้วยการเปิดเผย ไปเรียกกลุ่มคนที่เป็นภูมิไทยไทย พลังประชารัฐมาคุย ไม่ได้คุยเพื่อร่วมรัฐบาลนะ คุยเพื่อหาทางออก กลายเป็นตอนนี้เพื่อไทยโดนสวดว่าตระบัดสัตย์แล้ว

เป็นการวิเคราะห์?

เค : ตอนก้าวไกลทำไมพี่ตู่ไม่วิเคราะห์ ทำไมสองมาตรฐาน ทำไมไม่ไปด่าล่ะ

ตู่ : ผมพูดมาตั้งแต่ต้นตั้งแต่เลือกตั้งเสร็จว่าพิธาอย่างไรจะไม่ได้เป็นนายกฯ แม้แต่ประธานสภา พรรคก้าวไกลก็จะไม่ได้ ดังนั้นตลอดระยะเวลาก็ยืนจุดยืนมาโดยตลอด และ 100 คำพูดไม่สู้ 1 การกระทำ

เค : พี่ตอบตรงนี้ พี่อย่าไปไกล

ตู่ : ข่าวการพูดคุยอะไรก็แล้วแต่ ในขณะนั้นไม่มีหลักฐานประจักษ์ เหมือนมากินมิ้นต์ช็อก ให้คนตกใจกันทั้งประเทศ เพราะก้าวไกลพูดว่ามีลุงไม่มีเรา แต่เพื่อไทยพูดหนักมาก จะไม่จับมือกับพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ไล่หนูตีงูเห่า ก่อนเขามาทุกพรรคก็ประกาศชัดเจนว่าถ้ามีก้าวไกลจะไม่ร่วมรัฐบาลโดยเด็ดขาด แปลความได้คำตอบอยู่แล้วถ้าคุณจะซื่อตรงกับ 8 พรรค แต่ความจริงที่ใหญ่กว่า 8 พรรคคือคุณไปสัญญากับประชาชน คนที่คุณชวนมาคือพรรคที่คุณประกาศว่าจะไม่จับมือ แล้วหมายความว่ายังไง มาชนมิ้นต์ช็อกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เค : พี่บอกไม่วิพากษ์วิจารณ์คุณพิธา เพราะดีลลับไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ แล้วผมถามหน่อย พี่มีหลักฐานมั้ยว่าเพื่อไทยไปดีลลุงป้อม

ตู่ : ก็ที่มาพรรคอย่างนี้ไง

เค : พี่กล่าวอ้างลุงป้อมมาเป็นปีแล้วนะ ตั้งแต่เพื่อไทยดีลลุงป้อม พี่ก็ไม่มีหลักฐาน แต่ยังกล้าวิจารณ์ พอผมถามเรื่องพิธาไปคุยพี่บอกไม่กล้าวิจารณ์ว่ามีดีลลับเนื่องจากไม่มีหลักฐาน

ตู่ : คุณฟังผมนะ ในทางการเมือง มันเห็นตนเห็นตัวกันหมด สมองอย่างนายเค ผมไม่ได้ด้อยค่า

เค : (หัวเราะ)

ตู่ : อย่ามาทำสีหน้าอย่างนั้น ผมหมายความว่ากรณีการจัดสายความสัมพันธ์ทางการเมือง อย่างที่เรียนว่าต่างกรรมต่างวาระ แม้แต่วันยึดอำนาจ ตั้งแต่คนหายจากที่ชุมนุมเหลือหลักร้อย ลองถามพลเอกประวิตรสิว่าให้ใครไปเจรจากับท่านนายกฯ ทักษิณ ฉะนั้นความสัมพันธ์อันนี้ จะไปตลกไปขำกับนายเคไม่ได้  เพราะเห็นพฤติกรรมเรียงตามลำดับ คุณไม่รู้จริงเหรอว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐมาจากไหน

เค :   พี่ตอบไม่ตรงประเด็น

ตู่ :   การคุยอย่าตั้งใจมากวนตีน

เค : ผมแค่ถาม

ตู่ :   โดยพฤติกรรมถ้าคุณเป็นเสื้อแดงจริงๆ คุณทนเห็นพฤติกรรมแบบนี้ได้เหรอ คุณจำไม่ได้เรื่อง 100 ศพเหรอ เรื่อง 2,000 เรื่องสูญสิ้นอิสรภาพ ผมไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อแดงตลอดเวลา แต่จิตวิญญาณคนตายคนเจ็บจะต้องจำได้บ้างว่าเหตุการณ์ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ 47 จนถึงตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ที่สำคัญในทางการเมือง การเชิญพรรคเหล่านี้ทั้งที่ประกาศว่าไม่จับมือ คุณจะหาทางออกเรื่องอะไร

เค : พิธาก็โทรไปไงพี่

ในมุมคุณเค รับได้มั้ยถ้ามุมเพื่อไทยจับข้ามขั้ว มีลุงมีเรา?

เค : ส่วนตัวแล้ว วันนี้ต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ทีนี้มันก็ตกมาที่พรรคอันดับสอง ซึ่งเป็นของพรรคเพื่อไทย ถ้าเพื่อไทยจัดไม่ได้ ทีนี้ไปขั้วลุง เพื่อไทยต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อเป็นรัฐบาล ถ้าไม่เป็นรัฐบาล นโยบายทุกอย่างที่เพื่อไทยและก้าวไกลต้องการอย่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรืออื่นๆ มันก็จะไม่ถูกขับเคลื่อน ทางที่ดีคือตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เศรษฐกิจ คนไม่มีงานทำ บ้านโดนยึด รถโดนทุกอย่างสารพัด เราจะเอาความขัดแย้งที่พี่พูดอยู่คนเดียวว่าตระบัดสัตย์ แต่ประชาชน 60-70 ล้านคนเขาจะคิดเหมือนพี่มั้ยว่าตระบัดสัตย์ พี่จะชวนลงม็อบอย่างเดียว พี่อยู่กับม็อบ พี่ก็อยากทำม็อบของพี่ ผมไม่มีปัญหา แต่ผมจะเชิญชวนพี่น้องประชาชนในมุมผมว่าถ้าเราจะเดินหน้าประเทศไทย ถ้าเราติดหล่มความขัดแย้ง สมมติเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องพี่น้องประชาชน นำนโยบายที่ดีๆ มาให้พี่น้องประชาชน รวมถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นทางออกของประเทศ แล้วครั้งหน้ามาแข่งกันในกติกาที่เป็นธรรม ผมรับได้นะ

คุณเคจะบอกว่าถ้าวันนี้เพื่อไทยจับข้ามขั้วพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติก็รับได้ พี่ตู่บอกว่าการพูดแบบนี้ แล้วทำให้คนมาเลือก ทำให้คนรับไม่ได้?

ตู่ : ผมเองก็ดีใจนะที่เห็นคนใส่เสื้อแดงพ.ศ.นี้กล้าคิดเรื่องแบบนี้ได้ เพราะหลักใหญ่ใจความไม่ใช่เรื่องผมคนเดียวอยากทำม็อบ ไม่มีใครอยากไปชุมนุมหรอก เพียงแต่เราเห็นปลายทางว่าการอ้างความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ อ้างประเทศไทยต้องเดินหน้า ด้วยการตระบัดสัตย์คำพูดของตัวเอง ไม่มีใครบังคับให้เพื่อไทยประกาศว่าจะไม่จับมือกับพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ไล่หนูตีงูเห่า นี่ไม่นับประชาธิปัตย์ ไม่เผาผีกันตั้งแต่ต้น ไม่มีใครบังคับเพื่อไทยเลย ถามว่าจะแก้ไขปัญหาเศรษบกิจได้อย่างไรถ้าคนเต็มท้องถนน ในโลกความจริงไม่ใช่เรื่องของนายเคจะอาศัยความรู้สึกอะไรก็ตาม ที่ไปยื่นให้พรรคเพื่อไทยทำอย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่วิตกอะไรเลยถ้าพรรคเพื่อไทยจะฆ่าตัวตายอย่างนั้น แต่อย่ามาอ้างประชาชน เพราะสถานการณ์ความเป็นจริงก็เจอมาแล้วเรื่องสุดซอย ที่คิดว่าคนจะไม่ออกมาต่อต้าน แต่คนก็ออกมาพรึ่บพริบตาเดียว เราเสียโอกาสอย่างนี้มา 9 ปีแล้ว เมื่อมันไปไม่ได้ และไม่ต้องตระบัดสัตย์กันด้วย ก็ประชุมกันทุกฝ่ายสิ เอามาประชุมร่วมกันเป็นโต๊ะกลม หาทางออกร่วมกัน หาทางออกไม่ได้ก็ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนใหม่ แล้ววุฒิสภาลงสัตยาบรรณก่อนว่าประชาชนมีฉันทามติอย่างไร วุฒิสภาจะทำตามเจตนารมณ์ของประชาชน อย่าเสียดายเงิน 6 พันล้านนะ เงิน 6 พันล้านเวลาปราบปรามผู้ชุมนุมวันเดียวเท่านั้นนะ เสื้อแดงใช้งบประมาณในการกวาดล้างกว่า 2 หมื่นล้านนะ ในตลอดระยะเวลาของการชุมนุม ระหว่างคืนอำนาจให้ประชาชน กับการย้ายขั้วสลับข้าง ปลายทางคนเต็มท้องถนน แล้วจบด้วยการคืนอำนาจให้ทหาร คุณจะคืนอำนาจให้กับใคร บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น เขาตัดสินใจกันมาอย่างไร คุณรับปากจะจับมือกับใคร ไม่จับมือกับใคร ถ้าเริ่มต้นด้วยการพูดเท็จกับประชาชน ประชาชนจะไว้วางใจได้อย่างไรว่าคุณจะไม่โกง ไม่เป็นปัญหา ยิ่งเป็นพรรคเพื่อไทยยิ่งแล้วใหญ่ มีกระบวนการต่อสู้ มีกระบวนการที่เขาไปตาย ความเป็นธรรม ยุติธรรม ความตระบัดสัตย์เป็นความเลวที่สุดในการต่อสู้ทางการเมือง

เค : พี่บอกว่าจะให้ลุงตู่ยุบสภา แล้วจะให้อำนาจอะไรมายุบสภา ในเมื่อสภามันยุบไปแล้ว พี่กำลังหาทางออกให้ประเทศด้วยการยุบสภา วันนี้ลุงตู่ยุบสภา ลุงตู่เป็นรักษาการ

ตู่ : เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องนายเคบอกว่าทำไม่ได้

เค : แล้วมีกฎหมายตรงไหน

ตู่ : แล้วมีข้อห้ามตรงไหน

เค : ผมถามหน่อย ประยุทธ์เขายุบสภาไปแล้ว เขาเลือกตั้งกันมาตามกติกา แล้วจะเอาสภาไหนไปยุบ

ตู่ : แล้วรู้ได้ไงว่าทำไม่ได้ กฎหมายฉบับไหน มาตราไหนที่พูด

เค : ประยุทธ์เขายุบสภา เลือกตั้งแล้ว เขาเป็นนายกฯ รักษาการ วันนี้ไม่มีสภา เขากำลังจะเลือกสภากันใหม่ไง

ตู่ : ก็นี่ไง จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ไง ต้องทรยศประชาชน อำนาจยุบสภาก็เป็นที่นายกฯ

เค : งั้นผมถาม ถ้าเลือกตั้งมาแล้วประยุทธ์ไมได้ดั่งใจ ยุบอีกทำไง ถ้าพี่บอกให้เขายุบได้

ตู่ : ใครก็ไม่โง่ทำแบบนั้น กรณีนี้คือไม่มีทางไป

เค : ถ้าประยุทธ์มาปุ๊บอกไม่มีทางไป กูแพ้ก็ยุบอีก ต้องทำยังไง

ตู่ : ก็ต้องขายก๋วยเตี๋ยวและโง่อยู่แบบนี้

เค : อ้าว (หัวเราะ)

ตู่ : ที่พูดหมายถึงประเทศต้องถึงทางตัน ไปไม่ได้

เค : มันความคิดพี่คนเดียว

ตู่ : ไม่ใช่คนเดียว

เค : กฎหมายไม่ได้มันจะยุบยังไง

ตู่ : ทำไมถึงบอกว่าทำไม่ได้ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ว่าบ้านเมืองไม่มีทางออก ก็มาประชุมร่วมกัน ว่าใครมีอำนาจทำอะไรบ้าง ถ้าตระบัดสัตย์คนก็เต็มท้องถนน

เค : พี่จะสร้างมาตรฐานใหม่หรือเปล่า (หัวเราะ)

ตู่ : ไม่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ ไอ้เฮงซวยความคิดสลับขั้วให้ทรยศ ไอ้นี่เลวมาก

เค : ผมถามพี่บอกไอ้นั่นตระบัดสัตย์ แล้วของพี่ ฝนตกขี้หมูไหล ไปรวมกับใครเขาล่ะ

ตู่ : เราจับมือบนเวทีเพื่อขับไล่ประยุทธ์

เค : แล้วพี่ไม่รู้เหรอคนพวกนี้ไม่ใช่เหรอที่ทำให้พี่น้องเสื้อแดงต้องล้มตาย คนเหล่านี้ไม่ใช่เหรอที่สนับสนุนให้มีการทำรัฐประหาร พี่อย่าเถียงนะพี่นกเขาขึ้นเวทีพันธมิตรขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของพวกเรา แล้วมีการสนับสนุนให้มีการล้อมฆ่าพี่น้องพวกเรา แล้วทำไมพี่ถึงฝนตกขี้หมูไหลไปรวมกันได้

ตู่ : เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฆ่าประชาชน คนที่ฆ่าคือคนที่พรรคเพื่อไทยกำลังจะไปจับมือ

เค : ใครล่ะพี่ ใครฆ่า

ตู่ : ก็พรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับอำนาจปี 53

เค :   ก็พรรคพลังประชารัฐเพิ่งขึ้นนะพี่

ตู่ : ก็เรียงกันมาสิกี่พรรคการเมือง ผมคุยกับใครได้ นี่คุยกับคนไม่เข้าท่า