รมว.สุชาติ ปลื้มเด็กไทย! คว้า15 เหรียญ โชว์ผลงานจากเวทีแข่งขันแรงงานอาเซียนสิงคโปร์ จัดงานฉลองชัยและมอบรางวัล

วันที่ 29 กรกฎาคม 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตร เงินรางวัลแก่เยาวชน และโล่ขอบคุณผู้สนับสนุนการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ร่วมในพิธี ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน 


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในนามรัฐบาล และ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี ผมขอแสดงความยินดีกับผู้เข้าแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ที่ประสบความสำเร็จได้คว้ารางวัลเหรียญเงิน จำนวน 3 รางวัล เหรียญทองแดง จำนวน 3 รางวัล อีกทั้งรางวัลเหรียญฝีมือยอดเยี่ยม จำนวน 9 รางวัลกลับมายังประเทศไทย ซึ่งมีผลคะแนนรวมเป็นที่ 4 ในระดับอาเซียน และขอชื่นชมเยาวชนทั้ง 24 คน ผู้เชี่ยวชาญ 22 คน ที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ รวมไปถึงขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนตลอดมาทั้งด้านงบประมาณ สถานที่ บุคลากร วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องจักรที่ทันสมัยในการเก็บตัวฝึกซ้อม ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิต สังคม และระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างเต็มความสามารถจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ในวันนี้ทางกระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงจัดพิธีมอบเกียรติบัตร และเงินรางวัลให้แก่เยาวชน โดยเหรียญเงิน จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 75,000 บาท เหรียญทองแดง จำนวน 40,000 บาท และเหรียญฝีมือยอดเยี่ยม (รางวัลชมเชย) จำนวน 20,000 บาท ในส่วนของน้อง ๆ ที่พลาดเหรียญรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้ จะได้รับเงินรางวัลเป็นทุนการศึกษารายละ 10,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจและเกียรติประวัติให้แก่น้อง ๆ  พร้อมทั้งมีการมอบโล่ขอบคุณให้แก่ผู้สนับสนุนทั้ง 29 แห่ง ที่ทำให้การส่งเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า การพัฒนาฝีมือแรงงานผ่านการแข่งขันฝีมือแรงงานทั้งในระดับชาติ อาเซียน เอเชีย และระดับนานาชาติ ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการชี้วัดระดับความสำเร็จในการพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะเป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กร สมาคมต่าง ๆ ในการนำความรู้และประสบการณ์จากการแข่งขันมาพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรม และการศึกษาด้านอาชีพให้แก่สถาบันการศึกษาที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนให้มีความทันสมัยตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาคบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องเน้นพัฒนาทักษะในสาขาที่เกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ ดิจิทัล และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งโลกแห่งอนาคต ข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การแข่งขันฝีมือแรงงานเป็นการเพิ่มโอกาสในการจ้างงานทั้งในและต่างประเทศ และที่สำคัญจะส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของแรงงานไทย

นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเสริมว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 นี้ จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย หากไม่มีพันธมิตรที่ดีทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทั้ง 29 แห่ง ประกอบด้วย มูลนิธิเอสซีจี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยรังสิต วิทยาลัยดุสิตธานี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น วิทยาลัยเทคนิคระยอง วิทยาลัยเทคนิคสงขลา วิทยาลัยการอาชีพบ้านไผ่ วิทยาลัยการอาชีพพล วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคล้านนา เชียงใหม่ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) วิทยาเขตสะพานใหม่ ร้านโอเอซิสซาลอน โรงเรียนออกแบบทรงผมอาดัม สถาบันธงชัยแฮร์เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ ศูนย์การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมและนวัตกรรมหุ่นยนต์ EasyKids Robotics บริษัท เมช แมคคานิสซึ่ม ดีไซน์ จำกัด บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด บริษัท สแกนเนอร์สสามมิติ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท Autodesk Asia Pte.Ltd บริษัท เฟสโต้ จำกัด โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ชะอำ บีช รีสอร์ท หัวหิน โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว บริษัท เอเอสที มอเตอร์ จำกัด บริษัท โตโยต้า ขอนแก่น จำกัด และบริษัท แอสเวลล์ โซลูชั่นส์ จำกัด ในการสนับสนุนด้านงบประมาณ สถานที่ บุคลากร วัสดุ อุปกรณ์ที่ทันสมัยในการฝึกซ้อมของน้อง ๆ เยาวชน ในฐานะผู้จัดส่งน้อง ๆ เข้าแข่งขัน ขอขอบคุณทุกท่านกับความสำเร็จนี้เป็นอย่างยิ่ง และหลังจากนี้ขอให้ชาวไทยร่วมส่งแรงใจให้กับน้อง ๆ เยาวชนที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ต่อไป เพื่อเข้าแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย ครั้งที่ 2 ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน–1 ธันวาคม 2566 และไปแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 47 ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 10-15 กันยายน 2567 ต่อไป