วันที่ 29 ก.ค. 66 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ไม่อยากเกลือกกลั้วกับคนแบบอนุสรณ์ ที่เปรียบเหมือนทหารเลวในเรื่องสามก๊ก ว่า ตอนแรกที่เห็นโพสต์ของนายนิพิฏฐ์ ทั้งท่าทีท่วงทำนองสงสัยว่าเป็นโพสต์เก่าในช่วงปี2549-2557 หรือไม่ น่าเสียดายที่บริบทการเมืองไทยเปลี่ยนไปมาก แต่นักการเมืองเก่าบางคนก้าวไม่ทัน ยุคด่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วได้ดี น่าจะสิ้นสุดไปนานแล้ว คนออกมาเดินวิธีนี้ถือว่าหลงยุค ทำการเมืองเก่าตกยุค พยายามปลุกวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง ผลิตซ้ำความขัดแย้งแบบไม่ลงทุน ตนเพียงแต่บอกว่า ประชาชนย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามที่รัฐธรรมนูญได้รับรองไว้ จะจุดเทียนเป่าเค้ก ร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้ใครก็เป็นสิทธิ
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่นายนิพิฏฐ์ไปด้อยค่าคนรุ่นใหม่ ไม่ศึกษาประวัติศาสตร์ เป็นม็อบฟันน้ำนมนโยบายจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน พักชำระหนี้เกษตรกร ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ปฏิรูปโครงสร้าง เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ นายนิพิฏฐ์อาจจะพยายามมองไม่เห็น แต่ไม่ใช่ว่าคนที่มองเห็น ได้ประโยชน์ เป็นคนไม่ดี ไม่ศึกษาการเมือง นายนิพิฏฐ์ บอกว่าตนไม่มีแสง แต่ตนก็ไม่หิวแสง และไม่ว่าง ทั้งงานพื้นที่ งานสภา งานพรรค โดยเฉพาะในโหมดที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ และประชาชน คงไม่มีเวลามาเสวนากับนายนิพิฏฐ์ได้บ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องสะบัดหรือไม่สะบัดธงไปรบกับใคร แต่การเคลื่อนไหวตามธงนี้ของนายนิพิฏฐ์ ได้เคยหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคพลังประชารัฐ ที่เคยสังกัดหรือยัง เป็นห่วงว่าถ้านายนิพิฏฐ์มีท่าทีสวนกับทางพรรคบ่อยๆ เลือกตั้งครั้งหน้า อาจต้องออกเดินทางหาพรรคอยู่ใหม่ อาจทำลายสถิติ 2 เดือน 3 พรรค เดินหน้าสู่พรรคที่ 4-5-6 ต่อไป พระย้ายวัดบ่อยๆชาวบ้านก็ว่าแปลกแล้ว แต่ย้ายแล้วกลับวัดเก่าไม่ได้ อันนี้แปลกกว่า
“บ้านเมืองบอบช้ำมามาก เวลาแห่งการฟื้นฟูเยียวยาประเทศมาถึงแล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ เลิกผลิตซ้ำวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง ทำสังคมขัดแย้งแตกแยก ประชาชนพร้อมให้อภัย” นายอนุสรณ์ กล่าว