จากการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายด้านคนไร้บ้านของ กทม. ครั้งที่ 1 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายสิทธิพล ชูประจง หัวหน้าโครงการจ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยว่า ปัญหาหนึ่งสำหรับคนไร้บ้าน คือ มาเฟียแจกข้าว หรือผู้มีอิทธิพลใช้อำนาจข่มขู่คนไร้บ้าน ซึ่งเกิดขึ้นมานานโดยกลุ่มคน 1-2 กลุ่ม กลุ่มละประมาณไม่เกิน 10 คน มีลักษณะนักเลง พยายามเข้ามาจัดคิวต่อแถวคนไร้บ้านอำนวยความสะดวกให้ผู้ใจบุญที่มาแจกอาหาร จากนั้นจะเรียกรับข้าว สิ่งของ รวมถึงเงินจากคนไร้บ้านในภายหลัง เพื่อนำไปขายต่อ ตลอดจนล่อลวงคนไร้บ้านให้ไปเปิดบัญชีม้า หรือบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินผิดกฎหมาย โดยจ้างคนละ 500 บาท เน้นล่อลวงคนไร้บ้านหน้าใหม่เป็นหลัก จากการตรวจสอบ พบว่า มีคนไร้บ้านหลายคนถูกดำเนินคดีและติดคุก

นายสิทธิพล กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ แต่เบาบางลงไปเนื่องจากมีการจัดระเบียบจากภาครัฐ โดยจุดใหญ่ที่พบคือ บริเวณซอยราชดำเนินกลางใต้ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร หรือหน้าศูนย์เบนซ์ธนบุรี สาขาราชดำเนิน และ บริเวณศึกษาภัณฑ์พาณิชย์(เดิม) ราชดำเนิน โดยพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวมีลักษณะชักชวนคนไร้บ้านมาเข้าร่วมกลุ่ม ดื่มสุรา เพื่อชักชวนเป็นเครื่องมือในการหาผลประโยชน์ต่อไป

“สาเหตุของคนไร้บ้านในปัจจุบันยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม คือ มีการทะเลาะกับคนที่บ้าน เนื่องจากเป็นภาระต่อครอบครัวด้านการเงิน ซึ่งพวกเขาไม่สามารถหารายได้มาช่วยที่บ้านได้ จึงถูกกดดันให้ออกจากบ้าน และไม่สามารถกลับสู่ตลาดแรงงานได้ เนื่องจากอายุมาก (40-50 ปี) ทั้งนี้บางส่วนอาจมีงานทำที่ไม่ต่อเนื่องและรายได้ต่ำ จึงไม่สามารถช่วยครอบครัวได้ เหตุผลเหล่านี้ กทม. มูลนิธิกระจกเงา และภาคีเครือข่ายอีกมากมาย พยายามผลักดันโครงการช่วยเหลือคนไร้บ้านให้กลับสู่สภาวะปกติ โดยการจัดหางาน ที่อยู่อาศัยราคาถูก นำเข้าสิทธิต่าง ๆ เพื่อให้คนไร้บ้านกลับมาใช้ชีวิตอย่างประชาชนปกติทั่วไปอย่างยั่งยืน” นายสิทธิพล กล่าว