วันที่ 27 ก.ค.66 เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โพสต์ข้อความระบุว่า...
เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า
“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ราชอาณาจักรไทย มีพระมหากษัตริย์ เสด็จสถิตในพระราชสถานะพระประมุข เป็นศรีสง่าแห่งอาณาประชาชน มาโดยตลอดจำเนียรกาลประวัติ หากพิจารณาถึงพระราชกรณียกิจ และพระราชจริยวัตร แห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ ผู้ทรงพระคุณธรรมอันประเสริฐ อาจเป็นเครื่องตักเตือนพระราชหฤทัยสมเด็จพระมหากษัตริย์ในรัชกาลลำดับต่อ ๆ มา รวมถึงบรรดาประชาชนผู้อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร ให้น้อมนำมาเป็นแบบอย่างทางพระราชปฏิบัติและทางปฏิบัติ อันจะยังให้ประชาคมโลก ต่างชื่นชมแซ่ซ้องสดุดี ว่าชาติไทยเรานี้ ถึงพร้อมด้วยเอกลักษณ์ของชาติอันดีงาม คือมีพระพุทธศาสนาเป็นหลักใจ และมีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรม เสด็จอยู่เป็นหลักชัย ครั้นเมื่อพระมหากษัตริย์ของชาวไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเจริญทางพระราชไมตรี ณ แว่นแคว้นดินแดนใด ย่อมจักมีแต่ผู้ยกย่องกล่าวขวัญว่าทรงเป็นมหามิตร เป็นการส่งเสริมให้คนไทยทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งหนใด ต่างก็พลอยได้รับชื่อเสียงเกียรติยศตามไปด้วยอย่างสมภาคภูมิ ทั้งนี้ ก็ด้วยเดชะพระบารมี
สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธาน สืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎรใต้ร่มพระบารมี จึงทรงเจริญทางพระราชไมตรีกับนานาประเทศทั่วไป ด้วยพระราชอัธยาศัยอันงดงาม นับเป็นหน้าที่ ตามพระราชสถานะธรรมิกราชา สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่มีมาใน “เตมิยโพธิสัตวชาดก” ความว่า
ยํ ยํ ชนปทํ ยาติ นิคเม ราชธานิโย
สพฺพตฺถ ปูชิโต โหติ โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
แปลความว่า “ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ไปสู่แว่นแคว้น ตำบล หรือเมืองหลวงใด ๆ ก็ตาม ย่อมมีผู้บูชาในที่ทั้งปวง” ด้วยประการฉะนี้
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษา สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”