คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดตัว “GreenTien” (กรีนทีน) เครื่องดื่มโปรตีนทางเลือกใหม่ สกัดจากถั่วเขียว 100% ทางเลือกกลุ่มผู้รักสุขภาพ ผู้แพ้กลูเตน-แลคโตส และวีแกน ไม่มีสารประกอบที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ท้องอืด ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย ดื่มง่ายกว่านมถั่วเหลือง ด้วยรสสัมผัสที่หวานน้อย ไม่แต่งกลิ่น-รส แคลลอรีต่ำ มาพร้อมรางวัลเหรียญทอง จากเวทีประกวดและแข่งขันสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ITEX 2023 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ด้วยเงื่อนไขของการพัฒนานวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสังคม รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG ในเป้าหมายที่ 2 (SDG 2: Zero Hunger) ที่มุ่งขจัดความหิวโหยและความอดอยากทุกรูปแบบ
รศ.ดร.เทพปัญญา เจริญรัตน์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า กรีนทีนเครื่องดื่มโปรตีนทางเลือกสกัดจาก ‘ถั่วเขียว’ เอาใจคนรักสุขภาพ สายวีแกน หรือมังสวิรัติ รวมถึงผู้บริโภคที่แพ้โปรตีนกลูเตนจากธัญพืชและน้ำตาลแลคโตสในนม ได้รับแรงบันดาลใจจากการมองหาแหล่งโปรตีนใหม่ทดแทน ‘ถั่วเหลือง’ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแต่มีกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่าง
จากการศึกษาพบว่า ‘ถั่วเขียว’ มีกลิ่นหอมอ่อนตามธรรมชาติ มีปริมาณโปรตีนประมาณ 24% ขณะที่ถั่วเหลืองจะมีปริมาณโปรตีนประมาณ 34% นอกจากนั้นถั่วเขียวยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่หลากหลาย ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่ม ‘สารประกอบฟีนอลิก’ (Phenolic Compounds) รวมถึงยังปราศจากกลูเตน นอกจากนั้น ยังพบว่าถั่วเขียวเป็นธัญพืชที่มีฤทธิ์เย็นและเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่นที่นำมาใช้เป็น ‘อาหารยาตำรับโบราณ’ ที่สอดแทรกวัฒนธรรมอาหารในหลากหลายเชื้อชาติ อาทิ จีนและเกาหลี
‘GreenTien’ (กรีนทีน) หรือ ‘Alternative plant-based protein drink for healthiness’ ผ่านการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหาร รวมถึงทดสอบทางประสาทสัมผัส พบว่า ‘GreenTien หนึ่งขวด (240 มล.) มีโปรตีน 5.3 กรัม ซึ่งนมวัวปริมาตรเท่ากันมีโปรตีน 8.0 กรัม อย่างไรก็ตาม ด้วยกรรมวิธีผลิตที่พัฒนาขึ้นทำให้เป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำ โดยมีคาร์โบไฮเดรตเพียง 1.7 กรัม และไขมันเพียง 0.2 กรัม ซึ่งน้อยกว่านมวัวที่มีคาร์โบไฮเดรตมากถึง 12 กรัม และไขมันมากถึง 9 กรัม มีกลิ่นที่หอมและหวานน้อย จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคโปรตีนจากพืช มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะในวัยเด็กและผู้สูงอายุ โปรตีนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีในวัยเด็ก ขณะที่ผู้สูงอายุหากขาดสารอาหารประเภทโปรตีน อาจส่งผลกระทบให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ภาวะสมองถดถอยและนำไปสู่โรคอัลไซเมอร์ในที่สุด โดยคาดว่าในปี 2573 ไทยจะมีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์สูงถึง 1,117,000 ราย ดังนั้น ทีมวิจัยจึงได้นำถั่วเขียวมาพัฒนาเป็น เครื่องดื่มโปรตีนจากพืชแบบบรรจุขวด เพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับความต้องการบริโภคโปรตีนที่หลากหลายของผู้คน
กรีนทีน เป็นผลผลิตจากการนำถั่วเขียวมาผ่านกระบวนการทางเทคโนโลยีเอนไซม์ เพื่อเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบในถั่วเขียวให้ดูดซึมได้ง่าย มีรสหวานตามธรรมชาติไม่ต้องใส่น้ำตาลหรือสารเพิ่มความหวาน ซึ่งได้รับการจดอนุสิทธิบัตร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้ความร่วมมือกับทีมวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ฯ มธ. และ รศ.ดร.สร้อยสุดา พรภักดีวัฒนา คณะอุตสาหกรรมเกษตร (สาขาวิชาเทคโนโลยีการหมัก) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
“ถั่วเขียว ถือเป็นผลผลิตทางการเกษตรไทยที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น เพาะปลูกได้ง่ายในทุกสภาพดิน ทั้งยังมีคุณสมบัติสำคัญในการฟื้นฟูและสร้างความยั่งยืนให้กับทรัพยากรดิน หากภาครัฐมีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตถั่วเขียวที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล คณะวิทย์ มธ.คาดว่าถั่วเขียวจะสามารถก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างผู้ประกอบการเกษตรยุคใหม่ ตลอดจนยกระดับภาคการเกษตรไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” รศ.ดร.เทพปัญญา กล่าว
รศ.ดร.เทพปัญญา กล่าวในตอนท้ายว่า การเรียนการสอนของสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ฯ มธ. ที่ได้รับการปรับปรุงหลักสูตรล่าสุดในปี 2566 จะมุ่งเน้นการบ่มเพาะศักยภาพและผลิต ‘นักเทคโนโลยีชีวภาพ’ ให้มีหลักคิดแบบผู้ประกอบการ ผ่านการเชื่อมโยงหลักการพื้นฐานของเทคโนโลยีชีวภาพ การมองเห็นโอกาสทางการตลาด การบริหารจัดการ การออกแบบนวัตกรรม สู่การสร้างสรรค์ผลงานเชิงนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะ ‘ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ’ เนื่องจากสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว รับเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง