ตร.อุตรดิตถ์ ทำลายอาวุธปืนเถื่อน-ปืนมีทะเบียนสั้น-ยาว พกพาโดยผิดกฎหมาย และใช้ก่อเหตุอาชญากรรมทำร้าย-ฆ่าผู้อื่น จำนวน 750 กระบอก หลังศาลตัดสินพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โดยใช้รถบดอัดถนนน้ำหนักเกือบ 20 ตัน เหยียบบดอัดทำลาย อาวุธปืนสั้นและปืนยาว ก่อนนำไปเข้าเครื่องตัดแยกเป็นเศษเหล็ก กลบฝังดินลึกถึง 2 เมตร เพื่อไม่ให้กลับนำมาใช้ใหม่ได้อีก ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 66 ที่บริเวณลานหน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดอุตรดิตถ์ พลตำรวจตรี สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย รองผู้บังคับการตำรรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ หัวหน้าพนัก งานสอบสวน และหัวหน้าควบคุมคดีเกี่ยวกับอาชญากรรม 15 สถานี (โรงพัก) ร่วมแถลงข่าวนำอาวุธปืนของกลางในแต่ละคดีที่เกี่ยว เนื่องกับคดีอาชญากรรม ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่เอาไป ใช้ในการก่อเหตุ ทำร้าย หรือ ฆ่าผู้อื่น ตลอดจนพกพาอาวุธปืน และครอบครองอาวุธปืนไทยประดิษฐ์หรืออาวุธปืนเถื่อนประดิษฐ์สร้างขึ้นมาเองโดยผิดกฎหมาย
โดยมีอาวุธปืนเข้ามาเกี่ยวข้องทุกคดี ทั้งที่มีหมายเลขทะเบียนอาวุธปืนและ ไม่มีหมายเลขทะเบียนอาวุธปืนหรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า ปืนไทยประดิษฐ์หรืออาวุธปืนเถื่อน หลากหลายชนิด เช่น อาวุธปืนปากกา ปืนอัดลมประกอบเอง อาวุธปืนลูกซองสั้น อาวุธปืนลูกซองยาว รวมจำนวนทั้งสิ้น 750 กระบอก เป็นอาวุธปืนยาว จำนวน 538 กระบอก และอาวุธปืนสั้น จำนวน 212 กระบอก โดยเจ้าหน้าที่นำอาวุธปืนทั้งหมด วางเรียงเอาไว้บนพื้นผิวลานจอดรถหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ แล้วใช้รถบดอัดถนนขนาดน้ำหนักเกือบ 20 ตัน โดยการ สนับสนุนของสำนักงานทางหลวงชลบทจังหวัดอุตรดิตถ์ ทำการบดอัด อาวุธปืนสั้นและปืนยาว วิ่งบดอัดทั้งไปและกลับ จำนวน 3 เที่ยว ส่งผลทำให้ด้ามอาวุธปืนสั้นและปืนยาวทำจากไม้ บางส่วนถูกทำลาย จนไม่สามารถนำมาใช้งานได้หรือนำกลับมาใช้ใหม่ ส่วนที่เป็นเหล็ก หรือเศษซาก โดยเฉพาะลำกล้อง ชุดลั่นไกปืน สะพายปืน กระบอกปืนและด้ามปืน ทางเจ้าหน้าที่จะนำไปเข้าเครื่องตัดเหล็กเพื่อทำการแยกชิ้นส่วนขนาดเล็ก หรือให้เป็นเศษเหล็ก สิ้นสภาพของอาวุธปืน และนำไปฝังดินลึกถึง 2 เมตร เพื่อไม่ให้มีการนำ กลับมาประกอบใช้งานใหม่หรือก่อเหตุในทางคดีอาญาหรือนำออกไปใช้ในทางมิชอบได้อีก
เป็นการทำลายอาวุธปืนของกลาง ตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 323/2563 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563 เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัด อุตรดิตถ์และประชาชนทั่วไป รับรู้ถึงแนวทางการทำลายอาวุธปืน ที่ถูกนำมาใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรมที่ผ่านมา การทำลายอาวุธปืนของกลางทั้งหมดนี้ เป็นไปตามคำสั่งที่ศาลได้มีคำพิพากษาให้ริบเป็นของกลางและคดีถึงที่สุดแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามแนวทาง ขั้นตอนและวิธีการทำลายอาวุธปืนของกลาง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 323/2563 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563 คำสั่งดังกล่าวได้กำหนดให้อาวุธปืนของกลางที่อัตลักษณ์ (ปืนมีทะเบียน) เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ริบและเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หรือคดีนั้นขาดอายุความแล้ว ให้ส่งอาวุธปืนดังกล่าวไปยังกองสรรพาวุธ และกรณีอาวุธปืนไม่มีอัตลักษณ์ (ปืนไม่มีทะเบียน/ปืนประดิษฐ์เอง)
เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบและเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หรือขาดอายุความแล้ว ให้เร่งดำเนินการทำลายตามระเบียบ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 30 กันยายนของทุกปี ภายใต้ข้อสั่งการของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชา การสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการกวาดล้างผู้กระทำความ ผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่เอาไปใช้ในการก่อเหตุ ทำร้าย หรือ ฆ่าผู้อื่น ตลอดจนพกพาอาวุธปืนและมีการครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย