ยันยังไม่ทิ้ง8พรรคร่วมฯ พท.แป้กเปิดทาง ภท.ตั้งรบ. -กก.ย้ำชัดไม่เอาสองลุง -บิ๊กตู่ให้อยู่ในความสงบ "หมอชลน่าน" บอกถ้า "พท." หมดปัญญา พร้อมเปิดทางให้ "ภท." พรรคอันดับสามตั้งรัฐบาล ย้ำยังพยายามให้ "8พรรค" อยู่ด้วยกัน ชี้เลื่อนโหวต 10 เดือน คิดแบบโลกสวย ด้าน"ก้าวไกล" มีมติไม่ร่วมรัฐบาล"พปชร.-รทสช." ลั่นจะพยายามถึงที่สุดผนึกกำลัง8พรรคเดินหน้าตั้งรัฐบาล "บิ๊กตู่" ฝากบอกสื่อให้เขาตั้งรัฐบาลไป แต่อยากให้อยู่ในความสงบ       

 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม สวมสูทสากล เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยมีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มารอรับ     

 โดย นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมฝากบอกสื่อมวลชนว่าปล่อยให้เขาตั้งรัฐบาลกันไป เราก็ดูแลบ้านเมือง ทำหน้าที่ของเรา แต่อยากให้อยู่ในความสงบ เพราะทุกอย่างกำลังจะดี เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว นักท่องเที่ยวก็กำลังมา      นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  ให้สัมภาษณ์รายการเรื่องเล่าเช้านี้ กับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงประเด็นการจัดตั้งรัฐบาล ระบุว่า ขณะนี้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาส่วนหนึ่งไปประสานพูดคุยกับทางส.ว. ซึ่งจะได้บทสรุปในมาพูดคุยหาแนวทางกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาลที่เราได้ทำบันทึกข้อตกลงกันไว้ ทั้งนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนการทำงานของพรรคเพื่อไทย ใน 2 ประเด็น คือ 1. เราเชิญมาพูดคุยเพื่อหาแนวทางจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขของ 8 พรรค พรรคเพื่อไทยไปหาเสียงเพิ่ม ไม่ใช่เป็นการจัดตั้งรัฐบาล และ 2. รูปแบบที่พรรคเพื่อไทยทำ หลายคนไปตีความว่าเราไปกดดัน ไปผลักดัน ตอนแรกเราคิดถึงธรรมเนียมเดิมตามพรรคต่างๆ ก็กลัวจะตีความว่าเราไปส่งเทียบเชิญ เพราะตามธรรมเนียมเดิม คือถ้าจะเทียบเชิญไปร่วมรัฐบาล จะต้องไปหาเขา เหมือนกับไปสู่ขอ เลยต้องขอให้พรรคภูมิใจไทยมาที่พรรค ดังนั้น สัญลักษณ์มันชัด      นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การพูดคุยกับ 5 พรรค วิธีการก็อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเหมือนกลับมาให้พรรค 5 ล้วนไม่เอาพรรคก้าวไกล เหมือนมาให้พรรคเหล่านี้มาประกาศและกดดันพรรคก้าวไกลในทางอ้อม ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิทธิเสรีภาพทางความคิดของคน ทั้งนี้มีหลายพรรค มีเงื่อนไขเรื่อง ม.112 เรารับโจทย์ในทางประชุมว่า ไปถามในรายละเอียดว่าจะลดเงื่อนไขอย่างไร เพื่อให้ที่ประชุม 8 พรรค มาพิจารณา และเพื่อให้พรรคก้าวไกลนำเอารายละเอียดเหล่านั้นไปพิจารณาว่าจะตอบคำถามตรงนั้นได้หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากทั้ง 5 พรรคแล้ว ซึ่งจะเป็นคำตอบที่จะไปตอบ 8 พรรคต่อไป ยอมรับว่าคำตอบก็คือ ไม่ใช่เฉพาะ ม.112 แต่ 4 พรรคมองว่าไม่สามารถร่วมงานพรรคก้าวไกลได้ เพราะแนวทางวิธีการไม่ตรงกัน มีแค่พรรคชาติพัฒนากล้าเท่านั้น ที่ร่วมงานพรรคก้าวไกลได้ แต่ต้องไม่แตะ ม.112        เมื่อพรรคเพื่อไทยจัดไม่ได้ ในเมื่อเราหมดปัญญาแล้ว ทำไมไม่ส่งต่อให้คนอื่น ก็คือพรรคอันดับสาม นั่นหมายความว่าเรายกเสียงข้างมากเราไปให้เสียงข้างน้อย     

 นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า แต่พี่น้องประชาชนอีกส่วนหนึ่ง ถ้าเทียบคะแนน เขาไม่ได้เห็นคล้อยตามที่เราเสนอ เราซึ่งหมายถึงพรรคซีกเสรีประชาธิปไตย ซึ่งตนวัดจากคะแนน ขณะที่ถ้าเราไล่เรียงกันของเขา 10 พรรคที่มัดกันแน่ ถ้ารวมเป็น 1 พรรค ได้ 188 เสียง เขาเป็นอันดับ 1 นะ ในสภา พรรคก้าวไกล เป็นอันดับสอง ได้ 151 และพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับ 3 คือได้ 141 เมื่อเราไม่ได้เสียข้างมากเด็ดขาด จึงมีความลำบากสักนิด สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เห็นภาพว่าทำไม พรรคเพื่อไทยถึงรณรงค์แลนด์สไลด์ เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมด สิ่งที่เราได้รับมามันไม่ถึงเป้า ต้องรับสภาพ หาวิธีการดำเนินการให้ดีที่สุด     

 ส่วนประเด็นคนจะมองว่าพรรคเพื่อไทยจะกลายเป็นพรรคที่ถูกกล่าวหา ว่าไปร่วมเป็นนั่งร้านให้เผด็จการสืบทอดอำนาจ ไม่ปิดสวิตช์ 3 ป. ถ้าเป็นอย่างนั้น โดนแน่ๆ โดยเฉพาะไปยกอำนาจให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ อันนี้เต็มๆ แม้ให้พรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นแกนนำ และให้พรรคเหล่านั้นร่วมรัฐบาล ก็จะโดนอยู่ดี โจทย์เหล่านี้ เรามาคำนวณใคร่ครวญคิดอย่างรอบคอบ เราเคยอภิปรายไว้ในสภาไว้ชัดว่าเรื่องเด็ดหัว สอยนั่งร้าน แต่เราใช้กลไกทุกอย่างเพื่อขออำนาจจากประชาชน แต่พวกเราไม่มีใครได้อำนาจเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย      นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าในวันที่ 25 ก.ค. ถ้าไม่มีข้อสรุปที่ดี ยังไม่ตัดสินว่าจะไปไหนเช่น พรรคเพื่อไทยกระโดดตั้งข้ามฝาก ซึ่งสมมติฐานนี้ทุกฝ่ายทุกคนเห็นว่าไม่ดี เรามาจากประชาชน เราคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก ดังนั้น อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน และถ้าไม่มีทางออกที่เสียน้อยที่สุดเช่น จำเป็นต้องเอาเสียงฝั่งโน้นมาบวก โดยมีเงื่อนไขที่ทุกพรรคพอรับได้ มันก็อาจจะเป็นทางออก ซึ่งทุกพรรคที่วางกติกาไว้ ก็เพื่อบ้านเมืองทุกสิ่งที่อย่างคำนึงถึงประโยชน์โดยรวม ถ้ามันมีการเปลี่ยนแปลง ปลดเงื่อนไข และหันหน้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนไปก่อน มั่นใจว่าจะมีทางพอที่จะรับได้       


 วันที่ 27 ก.ค. จะขอเลื่อนการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ วันที่ 25 ก.ค. จะเป็นตัวตัดสิน ถ้าวันที่ 25 ก.ค. ยังไม่มีแนวทางที่น่าจะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย อาจจะเลื่อนไปสักสัปดาห์หนึ่งก่อนหรือไม่ ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนถ้าพรรคก้าวไกลยืนยันขอให้จับแน่น 8 พรรค ถ้ามีข้อเสนอเช่นนั้น เราต้องมาทำงานต่อว่าเราจะเป็นรัฐบาลได้อย่างไร ส่วนจะต้องให้พรรคก้าวไกลถอยอะไรหรือไม่ มองว่า พรรคเพื่อไทยเป็นคนบอกกับพรรคก้าวไกลไม่ได้ แต่จะเอาข้อมูลข้อเท็จจริงให้ 8 พรรค และจะต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลตัดสิน นพ.ชลน่าน กล่าว      เมื่อถามว่า แนวทางเกาะกันให้แน่นแล้ว ส.ว.หมดวาระ เป็นไปไม่ได้ในมุมพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในมุมพรรคเพื่อไทย เราให้ลำดับความสำคัญน้อยสุด และไม่ควรจะเกิด ถ้าจะเกิดอย่างนั้น เราจะได้เพียงแต่ว่า เราจะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่ไม่มี ม.272 มาเกี่ยวข้อง แต่การแลกอย่างนั้น มันจะคุ้มค่ากับการสูญเสียในระยะเวลา 10 เดือนหรือไม่ ถ้าคุ้มค่า ก็สมควรกับการแลก     

 เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่กับการรับทัวร์ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เหนื่อย มันมีอาการทางจิตและอาการทางกาย อาการทางกายไม่แสดงออกเท่าไหร่ อาการทางจิต พยายามระมัดระวังไม่ให้แสดงออกเลย ทัวร์มาเป็นเรื่องปกติ ถ้ามีรถทัวร์ที่จำเป็นก็รับได้ ถ้ารถทัวร์ที่เข้าใจผิด อาจจะทำให้ทุกฝ่ายมีความเหนื่อยล้าได้       

 ส่วนที่มีมวลชน เข้าไปโยนแป้ง จะไม่ดำเนินคดีหรือไม่นั้น พฤติการณ์ พฤติกรรม ถ้าตีความอาจจะเกินขอบเขตของกฎหมาย แต่ดูเจตนาน้องๆ ถ้ามาด้วยความบริสุทธิ์ ต้องการทวงถาม ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง การใช้กฎหมายที่ล้นเกินไปกระทำกับเยาวชน ตนไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ในมุมตน และพรรคจะไม่ดำเนินการเกินขอบเขต เกินสัดส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นพ.ชลน่าน กล่าว  ต่อมา นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงข้อเสนอให้เลื่อนโหวตออกไป 10 เดือนจนกว่าส.ว.จะหมดอำนาจ ว่า ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร สิ่งที่เราต้องมาดูในรายละเอียดคือผลสัมฤทธิ์จะเป็นตามที่เราคาดหวังหรือไม่ แต่ระบบรัฐสภาเป็นระบบเสียงข้างมาก หนึ่งเสียงชนะสองเสียงไม่ได้ แม้เราอยากจับมือกันไป 10 เดือน ถ้าเสียงข้างมากเขาไม่ยอม แทนที่จะได้สิ่งที่เราต้องการเหมือนไปส่งเสริมสิ่งที่ทุกคนไม่อยากทำ ข้อแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ตลอดนี้คือผลกระทบทางการเมือง สิ่งที่คาดการณ์กันไว้อาจเกิดขึ้นได้ เพราะ ส.ส.หนึ่งคนมีสิทธิเท่ากัน แต่ใครจะมีเสียงมากกว่ากันในระบบเสียงข้างมาก เป็นสิ่งที่พึงระวัง        

เราคิดแบบโลกสวยไม่ได้ ในทางการเมืองมันมีหลายมิติ ก็ต้องมาคิดกันว่าถ้าเราไม่ทำ แพคกันแน่นอยู่แบบนี้แล้วคนอื่นไม่มีวิธีคิดหรือ เขาก็มีวิธีคิด และเขาก็สามารถรวบรวมเสียงได้ในที่ประชุมรัฐสภา ถามว่าเราทำอะไรได้ เราก็ต้องยอมรับ แม้แต่การโหวตข้อบังคับว่าการเลือกนายกฯเป็นญัตติทั้งที่เราบอกว่าไม่ใช่ เมื่อแพ้เราก็ต้องยอมรับ นพ.ชลน่าน กล่าว      ผู้สื่อข่าวถามว่า ในทางการเมืองสามารถรอ 10 เดือนให้ ส.ว.หมดอำนาจได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำว่า สิ่งที่ตนตอบไปคือมิติทางการเมืองที่เรากลัว อีกทั้งยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เราต้องไปดูในรายละเอียด