วันที่ 24 ก.ค.2566 ที่รัฐสภานาวสมชาย แสวงการ สว. เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากคนของพรรคเพื่อไทยจริง แต่ตนตอบกลับไปว่าไม่ต้องมาพบ เนื่องจากมีการเชิญพรรคการเมืองอื่นไปพูดคุย หากจะแยกขั้วหรือสลับข้างก็ต้องเอาให้ชัด ถ้ายังไม่ชัดก็ต้องเลื่อนออกไป ตนเข้าใจว่าสว. มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่หากให้มาพบก็จะเหมือนกับเขามาสมัครองค์กรอิสระแล้วมาวิ่งเต้นกับเรา มันไม่เหมาะสม ซึ่งตอนที่พรรคก้าวไกลจะมาขอพบตนก็ตอบในแบบเดียวกัน

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยยังไม่ชัดเจนว่าจะเอาหรือไม่เอาพรรคก้าวไกล การมาคุยกับสว. ก็จะไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เราไม่ได้ติดที่จะมีหรือไม่มีพรรคก้าวไกล แต่ติดที่นโยบายมาตรา 112 และความมั่นคงแห่งรัฐ การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ที่มีแนวคิดอันตราย รวมถึงการทำประชามติขอแยกตัวเป็นรัฐปัตตานี

“เราไม่ได้รังเกียจพรรคก้าวไกล แต่ขอให้เขาเลิกนโยบายไปได้หรือไม่ในบางเรื่อง ถ้าเลือกได้เราก็ยินดี แต่จะให้เราไปโหวตคว่ำก้าวไกล แล้วไปเปลี่ยนสูตร แบบนี้ไม่เอา มันไม่ใช่หน้าที่เรา ผมก็เห็นว่าไปชวนพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ มาคุยกันเยอะแยะไปหมด คุณจะเอายังไงคุณก็ต้องบอกเรา เหมือนผมเป็นแขกไปร่วมงานแต่งงาน คุณจะเอาเจ้าสาวคนไหน ก็ต้องเอาให้เคลียร์”

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมีการติดต่อพูดคุยกับสว.คนอื่นหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ตนไม่ทราบ เนื่องจากติดประชุมวุฒิสภาแต่เช้า แต่ก็มีคนจากพรรคเพื่อไทยประสานมา แต่ตนคงทำหน้าที่แทนคนอื่นไม่ได้ เหมือนกรณีพรรคก้าวไกลเคยติดต่อมา ขอให้ตนเป็นหัวหน้าคณะเจรจาของ สว. ซึ่งก็ตอบไปว่าตนเป็นหัวหน้าใครไม่ได้ ก็เหมือนกับที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกให้ตนไ ปเจรจากับคนบางคน ตนก็ทำไม่ได้เช่นกัน