เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 24 ก.ค. 66 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ตั้งคณะเจรจา เพื่อพูดคุยกับสว. เพื่อหาเสียงสนับสนุนในการลงมติเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขณะนี้ มีการเข้ามาพูดคุยกันหรือยัง ว่า เห็นมีการพูดถึงเรื่องนี้ตามสื่อมวลชน แต่ตนพยายามสื่อออกไปว่าไม่ต้องมาหรอก เพราะจุดยืนสว. ชัดเจน ถ้าพรรคไหนมีนโยบายเสนอแก้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอาญาที่กระทบกับสถาบันสว.จะไม่เลือก และไม่สนับสนุน ประการสำคัญ คือที่บอกว่าไม่ต้องมา เพราะถ้ามาจะมาเจรจากับใคร เจรจากับประธาน หรือสมาชิกหลายๆ คน ไม่ได้รังเกียจ แต่หากมาจะเป็นปัญหา ว่าจะเอาสว. ไปทางใดทางตามที่ติดต่อมาแล้วจะกลายเป็นอยู่ใต้อาณัติพรรคการเมือง เพราะบทบัญญัติของอำนาจหน้าที่ สว.ต้องไม่อยู่ใต้อาณัตินักการเมือง ดังนั้นส่วนตัวเข้าใจว่าคงชัดเจนอยู่แล้ว ว่าสว. ยืนอยู่ตรงจุดไหน 

เมื่อถามว่า หากเป็นการจัดตั้งขั้วรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยสว. จะโหวตให้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เข้าสู่การพิจารณาเห็นชอบตามปกติ ที่ไม่ปกติคือพรรคก้าวไกลยืนยันอยู่ตลอดว่า แก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่การแก้ มาตรา 112 นั้นเป็นเพียงข้ออ้าง และเป็นจุดเริ่มต้น เพราะสิ่งที่ต้องการไกลกว่านั้น เราจึงไม่เห็นด้วย พรรคการเมืองใดก็ตามที่จะตั้งรัฐบาล ไปรวมพรรคกันให้ดี และอย่าไปยุ่งกับสถาบัน ตนคิดว่า สว. พร้อมสนับสนุนและเห็นชอบได้ 

เมื่อถามว่า มองว่าควรจะให้กระบวนการเจรจาเรียบร้อยก่อน แล้วจึงค่อยมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า การเสนออะไรก็ตามอาจจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ประการสำคัญคือการทำงานร่วมกัน ก็ไปตกลงกันในกระบวนการการทำงาน ตนไม่ขัดข้องว่าจะวันไหน เพียงแต่ละฝ่ายที่ไปหารือกันก็ให้เหตุผล ส่วนไหนที่เหมาะที่ควรที่สุด ก็เป็นไปตามที่คุยกัน 

เมื่อถามถึงกรณีที่ที่ สว. บางคนออกมาระบุว่า อยากให้เลือกการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.ค.ที่จะถึงนี้ออกไปก่อน เห็นด้วยหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ก็มีเหตุผล เพราะช่วงนี้เป็นช่วงวันสำคัญของชาติ ความขัดแย้งหรืออะไรที่แสดงออกต่อกัน ก็อาจจะทำให้ประชาชนอีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย แต่อย่างไรก็ตามในทางการเมืองเอง เมื่อยังไม่ยุติก็อาจจะมีอะไรแทรกมาอีกเยอะ ตนจึงบอกให้ไปคุยกันให้ดี ใช้เหตุผล อะไรดีที่สุด ก็ไปกำหนดวันกันมา เพราะหากไปกำหนดก่อนอาจจะขัดแย้งกันตั้งแต่แรก ทุกอย่างต้องมีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า หากวันที่ 27 ก.ค. ยังไม่พร้อม ก็สามารถไปพูดคุยจนได้ข้อยุติ แล้วค่อยประชุมใหม่ใช่หรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า นัดประชุมใหม่หรือไม่อยู่ที่ประธานซึ่งก็คงไปคุยกันแล้วหาเหตุผลอันสมควรแล้วจึงบอกกับประธาน เรากำหนดฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องให้เหตุผลกับประธานให้เห็นตรงกันด้วยถึงจะไปด้วยกันได้ 

เมื่อถามว่า วิปวุฒิสภาจะต้องนำไปคุยกับที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ในวันที่ 26 ก.ค. ใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเรามีตัวแทนไปเจรจาอยู่แล้ว ทั้งนายสมชาย แสวงการ สว. นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สว. ที่จะไปพูดคุยเพื่อกำหนดวัน แต่ตามหลักต้องเป็นไปตามประธานก่อนอยู่แล้ว ส่วนจะขยับอย่างไรต้องไปคุยกัน