ลึกเข้าไปในภูเขา ท่ามกลางป่าไผ่ มีแม่น้ำสายเล็ก ๆ ไหลผ่าน หน้าผาสูงเสียดฟ้า อากาศสดชื่น “หลงเหมินมี่จิ้ง” ซึ่งมีความหมายว่า แดนลับแห่งประตูมังกรนั้น เป็นชื่อสถานที่ที่มีอารมณ์สุนทรีย์ และมีความลึกลับ หลายปีมานี้ ผู้คนเริ่มคุ้นเคยและชื่นชอบสถานที่แห่งนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

หลงเหมินมี่จิ้ง ตั้งอยู่ในตำบลเกาหง เขตหลินอัน เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประกอบด้วยหมู่บ้าน 3 แห่ง ได้แก่ หมู่บ้านสือเหมิน หลงซ่าง และต้าซาน พื้นที่ป่าไม้มากกว่า 92% ทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงาม มรดกทางวัฒนธรรมอุดมสมบูรณ์

ปี 2017 หมู่บ้าน 3 แห่งนี้ยังเป็นหมู่บ้านธรรมดาซึ่งตั้งอยู่ในภูเขาลึก ปีนั้น รายได้เฉลี่ยต่อคนของชาวบ้านเป็นเพียงปีละ 28,900 หยวนเท่านั้น รายได้จากการประกอบธุรกิจของหมู่บ้านเป็นเพียง 310,000 หยวนต่อปี  ชาวนาในหมู่บ้านพากันเดินทางไปทำงานที่ต่างเมือง ทำให้หมู่บ้านมีแรงงานน้อยมาก

เมื่อได้ดำเนินโครงการ “พันหมู่บ้านสาธิต หมื่นหมู่บ้านพัฒนา” เขตหลินอันอานนำเสนอคอนเซปต์ “ประกอบธุรกิจการสร้างหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว” โดยได้ดึงดูดบุคลากรที่รักชนบท และเก่งในด้านการวางแผนธุรกิจ และโปรโมต พวกเขาพยายามแสวงหาโมเดลประกอบการแบบการตลาด ยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมในหมู่บ้าน หมู่บ้านสือเหมิน ต้าซานและหลงซ่าง ซึ่งอยู่ติดกันนั้นจึงรวมตัวกันเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลงเหมินมี่จิ้ง โหล หมิ่น ซึ่งกำเนิดที่นี่และมีประสบการณ์ประกอบธุรกิจมาหลายปี จึงได้เซ็นสัญญากับหมู่บ้านทั้งสาม เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลงเหมินมี่จิ้ง เขาจึงเป็นผู้จัดการธุรกิจหมู่บ้านรุ่นแรกของจีน

โหล หมิ่น ทบทวนว่า ช่วงแรกเริ่มที่เธอลงมือทำนั้น หลงเหมินมี่จิ้งมีเกสต์เฮาส์ 10 กว่าแห่งเท่านั้น ไม่ค่อยมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ธุรกิจไม่ดีนัก เธอได้นำทีมงานลงพื้นที่สำรวจอย่างเต็มที่ และกำหนดแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวของสามหมู่บ้านให้เป็น การสำรวจโบราณสถาน การท่องเที่ยวเชิงสนุก และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ บนพื้นฐานที่รักษาระบบนิเวศของท้องถิ่น ทีมงานพยายามใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้านวัฒนธรรม ขนบประเพณี  และอาหารการกินประจำถิ่น โดยสร้างแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่นิยมกันบนสื่อโซเชียล และสร้างโมเดลธุรกิจที่จัดแสดงสินค้าที่ร้านค้า และสัมผัสกระบวนการทำที่โรงงาน นอกจากนี้ ท้องที่ดังกล่าวยังได้ปลูกชาดอกเก๊กฮวย และสร้างโรงงานผลิตคราฟต์เบียร์

ทุกวันนี้ หลงเหมินมี่จิ้งได้จัดงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น การแข่งปีนหน้าผาบนน้ำ ภูมิภาคตะวันออกของจีน งานวัฒนธรรมเก๊กฮวย งานน้ำจิ้มหลงเหมิน งานฉลองการเก็บเกี่ยว งานคราฟต์เบียร์ งานประเพณีตรุษจีน งานเล่นน้ำหนีร้อน และงานทริปแคมป์ปิ้ง ดินแดนภูเขาแห่งนี้จึงค่อย ๆ กลายเป็นแดนสนุกที่ผู้คนนิยมเดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยวกัน

โหล หมิ่น กล่าวว่า ระหว่างการก่อร่างสร้างธุรกิจ เธอประสบความยากลำบากไม่น้อยทีเดียว เช่น ขาดบุคลากร “พวกเราจึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยบางแห่ง และให้นักศึกษามาฝึกงาน หวังว่า พวกเขาจะเข้าใจและรักชนบท เมื่อเรียนจบแล้วตัดสินใจมาทำงานที่นี่ กลายเป็นผู้บุกเบิกและสร้างสรรค์ชนบท”

ในหลงเหมินมี่จิ้งมีภูเขาแห่งหนึ่งชื่อ “ภูเขาสิงโต”  ระดับความสูงจากน้ำทะเล 696.2 เมตร นับเป็นสถานที่ธรรมชาติที่เหมาะกับการปีนหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกของจีน เมื่อหลายปีก่อน จาง เทียนเจ้อ ผู้เชี่ยวชาญกีฬาปีนหน้าผาเดินทางมาถึงหลงเหมินมี่จิ้ง และช่วยพัฒนาที่นี่ให้เป็นตำบลปีนหน้าผา จางเทียนเจ้อ เคยเป็นโค้ชทีมปีนหน้าผาของมณฑลเจ้อเจียง และมักจะพาทีมมาฝึกอบรมที่ภูเขาสิงโต ปี 2018 เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งโค้ชปีนหน้าผา เดินทางมาถึงภูเขาแห่งนี้ เช่าบ้านสร้างเกสต์เฮาส์ สร้างสนามปีนหน้าผา ประกอบกิจการอบรมการปีนหน้าผา จัดแคมป์นักศึกษา และจัดงานแข่งขันปีนหน้าผา เขาได้ใช้เวลาสั้น ๆ ไม่กี่ปี ก็สร้างภูเขาสิงโตให้เป็นสถานที่ปีนหน้าผาที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในภูมิภาคตะวันออกของจีน แต่ละปี มีคนมาปีนหน้าผาที่นี่หลายหมื่นคน วัง ฉินหย่ง ประธานสภาผู้แทนประชาชนตำบลเกาหลง เขตหลินอานกล่าวว่า ชาวต่างชาติที่ทำงานในนครเซี่ยงไฮ้และหางโจวนิยมเดินทางมาที่นี่เพื่อปีนหน้าผากัน ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่นี่จึงกลายเป็นหมู่บ้านสากล

จากการพัฒนาที่เป็นเวลาหลายปี หลงเหมินมี่จิ้งกลายเป็นแบบฉบับแห่งการประกอบกิจการในหมู่บ้าน ดึงดูดผู้ประกอบการหมู่บ้านเดินทางมาทัศนศึกษาเป็นจำนวนมาก เมื่อทบทวนประสบการณ์ในช่วงหลายปีมานี้ โหล หมิ่นกล่าวว่า “การสร้างสรรค์หลงเหมินมี่จิ้ง จากการเฝ้ารอในช่วงเริ่มต้น ต่อมาได้เสียงหัวเราะ และทุกวันนี้ได้เสียงปรบมือ ทำให้ดิฉันเข้าใจว่า การพัฒนาของชนบทต้องประสานกับการประกอบกิจการ อุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์เป็นตัวชี้นำการพัฒนาชนบท ต้องเข้าใจขนบประเพณีและวัฒนธรรมของหมู่บ้าน กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วจึงวางแผนการประกอบการตามหลักวิทยาศาสตร์ ”

 

เขียนโดย ถันลี่หมิ่น ลู่เจี้ยน หลินเว่ยกวาง จางเฟยเยี่ย หลิวเจียหมิง อู๋ซีลู่ และกูซืออี้ว์