ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 พ.ต.ท.ปริวัติ ขาวจันทร์แย้ม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนจมน้ำเป็นชาย 2 ราย ที่แม่น้ำแม่กลอง บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อเขาแดง หมู่ 3 ต.พงตึก อ.ท่ามะกา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง

จากนั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำชุดสายธาร ของมูลนิธิขุนรัตนาวุธประจำจุดรอรับเหตุ อ.ท่ามะกา และจุดรอรับเหตุ ต.พงตึก นำเรือท้องแบนและอุปกรณ์การดำน้ำลงงมค้นหาในแม่น้ำ ที่เกิดพบว่าจุดที่ 2 ลุงหลานตกลงไปในแม่น้ำนั้น ระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองได้ลดลงทำให้โขดหินโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาคล้ายลักษณะเกาะแก่ง 

 ซึ่งตรงบริเวณแก่งหินพบร่มบังแดดเบ็ดตกปลาและ อุปกรณ์ตกปลา ของ 2 ลุง-หลานนั้นวางอยู่ ส่วนบนฝั่งยังพบรถจักรยารยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ พลเมืองดีที่ตกปลาอยู่บริเวรใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์ ได้ช่วยนำน้องเฟิร์ท(นามสมมุติ)อายุประมาณ 12 ปี ขึ้นมาจากแม่น้ำได้สำเร็จก่อนหน้านี้ 

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้พาตัวน้องเฟิร์สไปตามญาติที่อยู่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ให้มาที่จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า คนที่จมน้ำหายไปชื่อนายสุชาติ หรืออึ่ง (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 41 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของน้องเฟิร์ทได้จมน้ำหายไป โดยทางเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำของมูลนิธิฯ ได้ใช้เรือท้องแบน 1 ลำ นักประดาน้ำกว่า 10 นาย เร่งระดมกำลังกันค้นหาซึ่งคาดว่าร่างของนายสุชาติ อาจจะไปติดอยู่ใต้ร่องน้ำแม่น้ำแม่กลองที่มีความลึกประมาณ 6 เมตร ใกล้กับจุดที่จมหาย

ทางด้านพลเมืองดีที่ช่วยเหลือน้องเฟิร์ท ขึ้นมาได้ บอกว่า ขณะนั้นตนกำลังนั่งตกปลาอยู่ใกล้กับจุดที่ลุงกับหลาน 2 คนนั้นประมาณ 100 เมตร มองเห็นเด็กกำลังไหลมาตามน้ำคล้ายคนกำลังจะจมน้ำ จึงได้ตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยจึงสามารถคว้าตัวเด็กขึ้นมาได้ ส่วนนายสุชาติ หรืออึ่ง ลุงของเด็ก ตนมองเห็นว่ากำลังพยายามจะว่ายเข้าฝั่งแต่จู่ๆก็จมหายลงไปในน้ำทันที


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปอีกว่า ขณะเดียวกันทางญาติผู้สูญหายได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุพร้อมกับน้องเฟิร์ทด้วยท่าทีตกใจ โดยทางน้องเฟิร์ท บอกว่า ตนกับลุงได้เดินทางมาจากบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เพื่อมาตกปลาบริเวณดังกล่าวนี้ ขณะนั่งรอปลากินเหยื่อ โดยสายเบ็ดของลุงได้ติดกับอะไรบางอย่างในน้ำ ลุงจึงได้ลงไปเพื่อจะปลดสายเบ็ด ซึ่งจุดที่ลุงลงปลดสายเบ็ดตรงนั้นน้ำไม่ลึกเท่าไหร่ สามารถยืนได้ แต่เกิดพลาดลื่นตกลงไปในน้ำ ขณะที่ตนจะเดินไปถามลุงว่าเป็นอะไรหรือไม่ จังหวะที่กำลังจะเดินไปหาลุงตนก็ลื่นแล้วเกิดล่วงลงไปในแม่น้ำเช่นกัน โดยตนก็ว่ายน้ำไม่เป็นก็ปล่อยให้ไหลมากับน้ำเรื่อยๆ เวลานั้นตนก็เริ่มจะหมดแรงกำลังจะจมน้ำ โชคดีมีพลเมืองดีว่ายน้ำมาช่วยไว้ทัน ส่วนลุงก็จมน้ำหายไป


     ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า บริเวณจุดเกิดเหตุตรงนี้เคยมีคนจมน้ำเสียชีวิตมาแล้วหลายราย เนื่องจากตรงนี้มักจะมีชาวบ้านนิยมมาตกปลากันเป็นประจำยิ่งในช่วงในวันเสาร์-อาทิตย์คนจะเยอะมาก อีกทั้งบริเวณจุดนี้จะมีร่องน้ำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับหุบเหวมีความลึกประมาณ 6 เมตร และยังมีน้ำวนอีกด้วย เมื่อใครตกลงไปในแม่น้ำบริเวณจุดดังกล่าวนี้มักจะทำให้เสียชีวิต ทำให้บริเวณแห่งนี้จะเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่อาถรรพณ์ก็ว่าได้


     ต่อมาได้รับแจ้งจากนักประดาน้ำของมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ว่าพบร่างนายสุชาติแล้วใกล้กับจุดที่จมหายไม่กี่เมตร จึงได้ช่วยกันนำร่างขึ้นบนเรือท้องแบนเพื่อนำขึ้นฝั่ง และประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ให้มาทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น บรรดาญาติเห็นร่างนายสุชาติต่างพากันร้องไห้เสียใจเข้ากอดร่างอันไร้วิญญานของนายสุชาติ โดยสภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีดำ บริเวณศรีษะมีบาดแผลขนาดใหญ่มีเลือดไหลออกมา คาดว่าขณะที่จมน้ำศรีษะน่าจะไปกระแทกกับโขดหินใต้น้ำเข้า จึงทำให้เกิดบาดแผลดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าตำรวจจะได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.ราชบุรีเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป