ไฟไหม้โรงงานวุ้นเส้นในเขตพื้นที่อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐมสร้างความเสียหายไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังนับ 100 นายและรถน้ำรถดับเพลิงนับ 10 คันเข้าควบคุมสถานการณ์โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัดแต่ยังคงต้องมีการตรึงกำลังเพื่อฉีดน้ำเลี้ยงไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก
วันนี้ 23 กรกฎาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 19:00 น. พ..ต.ท.ประเทือง แสงอร่าม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ ม.3 ถนนพลดำริ ตำบลลำลูกบัว อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม จึงรายงานผู้บัคัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดหตุ พร้อมประสานรถน้ำ รถดับเพลิงในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าช่ยสกัดเพลิง โดยด่วน
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ โรงานอุตสาหกกรรมขนาดใหญ่ มีพื้นที่หลายสิบไร่ กำลังมีเพลิงลุกไหม้ หลายโกดังซึ่งเชื่อมต่อกัน ซึ่งเปลวเพลงได้ประทุอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเพื่อช่วยกันสกัดเพลิงและฉีดน้ำเลี้ยง ในส่วนที่เพลิงยังลามไปไม่ถึง โดยมีพนักงานและคนงาน นับร้อยคนช่วยกันกับเจ้าหนาที่ดับเพลิง ที่นำรถน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียงไม่น้อยกว่า 30 คัน โดยภายในมีทั้งเครื่องจักรและวุ้นเส้นที่แปรรูปและยังไม่แปรรูปเต็มโกดัง
โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่นพื้นที่ควบคุมได้ โดยมี โกดังที่ 2 และ 3 เสียหายถูกเพลิงไหม้ทั้งเครื่องจักรและสินค้ารวมถึงอุปกรณ์ เสียหายทั้งหมด ส่วนที่ โกดัง 35 เป็นสินค้าอบแห้ง มีสินค้าเต็มโกดัง ถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ถอนกำลัง และคอยควบคุมสถานการณ์ไว้ก่อน
นายณรงค์ อดิษภาส อายุ 44 ปี ช่างควบคุมเครื่องจักร เล่าว่า ตนเองอยู่ที่บ้านพักและมีลูกน้องโทรไปแจ้งว่าตอนนี้ได้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ให้รีบมาช่วยกันดับไฟจึงได้รีบเดินทางมาถึง เห็นเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้โรงงาน ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะคอยประสานงานไม่ให้ไฟไปติดกับโกดังหลายอาคารที่อยู่ในพื้นที่ โดยคาดจากตาเปล่า ทั้งเครื่องจักร อาคารและสินค้า มีความเสียหายน่าจะถึพันล้านได้ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำพนักงานที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุการณ์และขอกล้องวงจรปิดเพื่อขอดูสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้อีกครั้งและยังต้องรอให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้ามาช่วยประเมินว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่โดยคาดว่าในพรุ่งนี้จะมีการเข้าตรวจสอบความเสียหายอีกครั้งโดยเฉพาะตัวอาคารซึ่งอาจมีความอันตรายและทรุดตัวลงมาได้ทุกขณะ