ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กวาดล้างเครือข่ายพ่อค้าปืน-กระสุนปืนออนไลน์ เครือข่าย “โคตรเสี่ยง V7” พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท ตรวจยึดกระสุนปืนกว่า 30,000 นัด มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท 

สืบเนื่องจากนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ให้ความสำคัญกับการกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนและกระสุนปืนผิดกฎหมายทางช่องทางออนไลน์

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.วัชรพันธ์  ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.2 บก.ปอท., พ.ต.อ.พิเชษฐ์ คำภีรานนท์ ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.อ.วีระพงษ์ หอมหวล ผกก.1 บก.ปอศ และ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด กก.1, กก.2, กก.3 บก.ปอท. และ กก.1, กก.3 บก.ปอศ.
นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาครอบครองอาวุธปืน-เครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย


 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ (1)จับกุมนายศัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ได้ที่ บ้านพักภายใน ซอยลาดพร้าว 87 แขวงวังทองหลาง เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร (พ่อค้าปืนและกระสุนปืน) โดยกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อจะดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “จำหน่ายออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต่อไป


(2)นายนิพนธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สามารถจับกุมได้ที่ บ้านพักในพื้นที่ ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (ลูกค้าที่เคยซื้อปืนและกระสุนปืน) โดยกล่าวหาว่า “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
(3)นายวีระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สามารถจับกุมได้ที่ บ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าเสม็ด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช (ลูกค้าที่เคยซื้อกระสุนปืน) โดยกล่าวหาว่า “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนหลากหลายขนาด (ตั้งแต่สำหรับอาวุธปืนพกสั้นไปจนถึงกระสุนสำหรับอาวุธสงคราม) จำนวนกว่า 30,000 นัด

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณพฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. นำโดย พ.ต.ท.ปิยเดช แก้วแฝก สว.กก.1 บก.ปอท. ได้ทำการสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย จากการสืบสวนพฤติการณ์พบว่า เมื่อมีผู้สนใจและแจ้งความต้องการที่จะสั่งซื้ออาวุธปืนหรือกระสุนเข้าไปในกลุ่ม ก็จะมีแอดมินคอยทำการดึงผู้ที่สนใจเข้ากลุ่มไลน์ ที่มีชื่อว่า “บริษัทโคตรเสี่ยง V.7” (ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 300 ราย) ภายในกลุ่มมีการประกาศขายอาวุธปืนไม่มีทะเบียน อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนปืนกันอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการซื้อขายกันอย่างเปิดเผย โดยจากการล่อซื้อของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า การซื้อขายผ่านกลุ่มไลน์ดังกล่าวผู้ซื้อสามารถได้อาวุธปืนและกระสุนปืนจริงตามที่สั่งซื้อ ทำให้กลุ่มไลน์ดังกล่าวได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่สนใจสั่งซื้ออาวุธปืนและกระสุนปืนทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก


 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. จึงได้เร่งรัดทำการสืบสวนหาตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มไลน์ดังกล่าว และจากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบว่าในห้วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา มีเงินหมุนเวียนจากการจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มลูกค้าที่สั่งซื้อกระสุนปืนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุประมาณ 15-20 ปี ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล     


จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. และ บก.ปอศ. กว่า 40 นาย ทำการตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และนครศรีธรรมราช ในจุดที่คาดว่ามีการเก็บครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายทางออนไลน์


เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. นำหมายค้นศาลอาญาพระโขนง ที่ 138/2566 ลงวันที่ 20 ก.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 53 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร พบ นายพีรดนย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารในการรับโอนเงินค่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อขยายผลหาความเชื่อมโยงกับเครือข่ายฯต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 870/2566 ลงวันที่ 20 ก.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 87 แขวงวังทองหลาง เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จับกุม นายศัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี (เชื่อว่าเป็นผู้ที่ทำหน้าที่จัดจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายผ่านทางช่องทางออนไลน์) ครอบครองอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก และ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก (เป็นการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต) และเครื่องกระสุนปืนหลากหลายประเภท ตั้งแต่กระสุนสำหรับอาวุธปืนพกสั้นไปจนถึงกระสุนปืนอาวุธสงคราม จำนวนกว่า 30,000 นัด (ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต) จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. นำหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 139/2566 ลงวันที่ 20 ก.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จับกุม นายนิพนธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี (เป็นลูกค้าที่สั่งซื้ออาวุธปืนและกระสุนปืนผ่านทางออนไลน์) เป็นผู้ครอบครองเครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 18 นัด และ เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 special จำนวน 6 นัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. นำหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ 335/66 เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าเสม็ด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จับกุม นายวีระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี (เป็นลูกค้าที่เคยสั่งซื้อกระสุนปืนผ่านทางออนไลน์) เป็นผู้ครอบครองเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1 นัด 


โดยผู้ต้องหาส่วนหนึ่งให้การรับสารภาพว่าเครื่องกระสุนปืนที่มีไว้ในครอบครอง ตนเองได้สั่งซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยส่วนใหญ่เป็นช่องทางโซเชียลมีเดียที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ในขณะที่ผู้ต้องหาที่เป็นผู้จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านทางช่องทางออนไลน์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่า ลูกกระสุนปืนกว่า 30,000 นัด ตนไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่าย แต่มีไว้ใช้เอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. จะได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้จากการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ นำไปชยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ต่อไป